รอยเตอร์/เอเอฟพี – กำลังหน่วยคอมมานโดบุกจู่โจมเข้าไปในศูนย์กลางชาวยิวเมืองมุมไบ รวมทั้งเปิดศึกเพื่อช่วยเหลือตัวประกันที่อยู่ในโรงแรมสุดหรูอีก 2 แห่งจากเงื้อมมือของพวกคนร้ายเมื่อวานนี้(28) ขณะที่รัฐบาลอินเดียชี้นิ้วกล่าวหาปากีสถานว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อการร้ายอิสลามิสต์ที่ปฏิบัติการอย่างสุดเหี้ยมคราวนี้ ซึ่งได้คร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 124 คนแล้ว
อาคารศูนย์ “ชาบัด เฮาส์” ของชาวยิวในมุมไบหลังนี้ ถูกปกคลุมด้วยควันหนาทึบภายหลังเกิดการระเบิด ทั้งนี้ตามภาพที่ปรากฏทางโทรทัศน์
ขณะที่ห่างออกไปไม่ไกลนัก ก็มีเสียงปืนและเสียงระเบิดดังถี่ๆ ออกมาจากโรงแรมทัชมาฮาล อันเก่าแก่เลื่องชื่อ โดยที่กำลังหน่วยคอมมานโดชั้นนำของอินเดีย ทำการสู้รบแบบไล่ล่ากันอย่างดุดันกับมือปืนที่เหลืออยู่คนเดียว
เจ้าหน้าที่หลายรายของอินเดียกำลังประกาศขึงขันว่า จะทำให้สถานการณ์ประจันหน้ากันที่ยืดเยื้อมาเกือบ 2 วันเต็มแล้วนี้จบสิ้นลงโดยเร็ว นอกจากนั้น พวกเขายังให้ตัวเลขว่ามีผู้ถูกสังหารไปแล้ว 124 คน และบาดเจ็บอีก 284 คน
สำหรับสถานที่ซึ่งเกิดการต่อสู้กันแห่งที่สาม ได้แก่ โรงแรมไทรเดนต์-โอเบอรอย อันเป็นโรงแรมหรูหราระดับห้าดาว ตั้งแต่ช่วงเช้าวานนี้ หน่วยคอมมานโดได้สังหารพวกหัวรุนแรงตายไป 2 คน และปลดปล่อยแขกผู้มาพักให้เป็นอิสระเป็นจำนวน 143 คน
ครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่อินเดียกล่าวหาว่าปากีสถานมีส่วนในเหตุร้ายที่เกิดขึ้นประเทศของตน “หลักฐานเบื้องต้นที่เราได้มาชี้ว่าเป็นหน่วยก่อการร้ายที่มีความเชื่อมโยงกับปากีสถาน” รัฐมนตรีต่างประเทศ ปรานับ มุคเคอร์จี กล่าวในระหว่างการแถลงข่าวที่นิวเดลี เขาเรียกร้องให้ปากีสถานล้มเลิกโครงสร้างที่ให้การสนับสนุนแก่พวกกองกำลังติดอาวุธต่าง ๆ
ในขณะเดียวกันรัฐมนตรีต่างประเทศปากีสถาน ชาห์ เมห์มุด กุเรชิก็ออกว่าโต้ตอบว่าอินเดียนั้นกำลังเล่นการเมืองจากกรณีเหตุก่อการร้ายในมุมไบ
“อย่าเอาการเมืองเข้ามาเกี่ยวในกรณีนี้ เพราะมันเป็นเรื่องที่สั่งสมมานานมากกว่า เรากำลังเผชิญหน้ากับศัตรูกลุ่มเดียวกัน ดังนั้นเราสมควรร่วมมือกันเพื่อบดขยี้ศัตรูมากกว่า” กุเรชิบอกนักข่าวขณะที่กำลังเยือนเมืองอัชเมอร์ของอินเดียอยู่
ในเวลาต่อมา ปากีสถานยังกระทำสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน นั่นคือให้ พล.ท.อาเหม็ด ชูจา ปาชา ผู้บัญชาการสำนักงานการข่าวทหาร (ไอเอสไอ) ซึ่งเป็นหน่วยงานข่าวกรองสำคัญที่สุดของปากีสถาน เดินทางไปที่อินเดียเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารกับทางแดนภารตะ ตามคำขอของนายกรัฐมนตรีมานโมหัน ซิงห์ ของอินเดีย ทั้งนี้ตามการแถลงของเจ้าหน้าที่จากทั้งสองประเทศ
ภายหลังเสร็จสิ้นการช่วยตัวประกันที่โรงแรมไทรเดนต์-โอเบอรอย ผู้บังคับการตำรวจมุมไบ ฮัสซัน กาฟูร์ แถลงว่า ได้พบศพจำนวน 24 ศพที่นั่น ซึ่งน่าจะทำให้ต้องปรับยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุร้ายคราวนี้ให้สูงขึ้นอีก
ก่อนหน้านี้ในคืนวันพฤหัสบดี พวกเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารของอินเดียคาดหมายว่าน่าจะสามารถทำภารกิจกวาดล้างที่โรงแรมทัชมาฮัลได้ในเวลาอันรวดเร็ว ทว่าจนกระทั่งถึงช่วงเย็นวานนี้ กำลังหน่วยคอมมานโดชั้นนำนับร้อยๆ ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จในการเล่นงานในการเล่นงานมือปืนที่เหลืออยู่เพียงคนเดียว อีกทั้งน่าจะได้รับบาดเจ็บ
“ผู้ก่อการร้ายที่เหลืออยู่คนเดียวเคลื่อนย้ายไปมาระหว่างชั้นสองชั้น ชั้นหนึ่งนั้นเป็นเวทีเต้นรำซึ่งดูเหมือนเขาตัดไฟดับไปแล้ว” พล.ท.เอ็น. ธรรมบุราช ผู้บัญชาการหน่วยคอมมานโด บอกกับผู้สื่อข่าว “เช้าวันนี้ในระหว่างที่เราปฏิบัติการอยู่ เราก็ได้ยินเสียงหญิงและชายด้วย ดังนั้นจึงเป็นไปได้ที่ผู้ก่อการร้ายผู้นี้มีตัวประกันอยู่ด้วยสองคน”
ส่วนที่ศูนย์กลางชาวยิว กองกำลังคอมมานโดของอินเดียซึ่งใส่หน้ากากดำคลุมหน้าเอาไว้ได้โรยตัวจากเฮลิคอปเตอร์ ทะลุหลังคงลงมาจัดการกับผู้ก่อการร้ายที่อยู่ในอาคาร ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่าทหารยิงปืนนำหน้ามาก่อนเพื่อคุ้มกัน ในขณะที่คอมมานโดก็เข้าโจมตีผู้ก่อการร้ายหลายระลอก
มุมไบเป็นเมืองที่มีประชากรถึง 18 ล้านคน อีกทั้งเป็นศูนย์กลางทางการเงิน และศูนย์รวมแห่งกลไกขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจของอินเดีย รวมทั้งยังเป็นที่ตั้งของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของอินเดียด้วย
ตลาดหุ้นมุมไบกลับมาเปิดอีกครั้งวานนี้หลังจากถูกปิดไปในวันพฤหัสบดี และเมื่อปิดตลาดดัชนีบีเอสอี เซ็นเส็กซ์ขยับขึ้น 66 จุดหรือ 0.73%
ทางการแดนภารตะเวลานี้สันนิษฐานว่า ผู้ก่อการร้ายในครั้งนี้มีด้วยกัน 25คน บางคนเข้ามาที่มุมไบโดยทางเรือ และแยกย้ายไปตามสถานที่ต่าง ๆ ในย่านกลางเมืองเมื่อคืนวันพุธ จากนั้นก็เปิดการกราดยิงและโจมตีด้วยระเบิดตามสถานที่ซึ่งเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวต่างชาติและนักธุรกิจ รวมทั้งโรงแรมหรูสองแห่งดังกล่าวด้วย
ตำรวจกล่าวว่าผู้ก่อการร้ายอย่างน้อย 7 คนถูกสังหาร อีก 9 คนถูกจับได้ ในขณะที่ตำรวจ 12 คนเสียชีวิต รวมทั้งหัวหน้าหน่วยต่อต้านการก่อการร้ายของมุมไบด้วย ด้านนักท่องเที่ยวต่างชาติมีอย่างน้อย 8 คนเสียชีวิต ซึ่งมีทั้ง ออสเตรเลีย, อังกฤษ,แคนาดา, อิตาลี และญี่ปุ่น
อาคารศูนย์ “ชาบัด เฮาส์” ของชาวยิวในมุมไบหลังนี้ ถูกปกคลุมด้วยควันหนาทึบภายหลังเกิดการระเบิด ทั้งนี้ตามภาพที่ปรากฏทางโทรทัศน์
ขณะที่ห่างออกไปไม่ไกลนัก ก็มีเสียงปืนและเสียงระเบิดดังถี่ๆ ออกมาจากโรงแรมทัชมาฮาล อันเก่าแก่เลื่องชื่อ โดยที่กำลังหน่วยคอมมานโดชั้นนำของอินเดีย ทำการสู้รบแบบไล่ล่ากันอย่างดุดันกับมือปืนที่เหลืออยู่คนเดียว
เจ้าหน้าที่หลายรายของอินเดียกำลังประกาศขึงขันว่า จะทำให้สถานการณ์ประจันหน้ากันที่ยืดเยื้อมาเกือบ 2 วันเต็มแล้วนี้จบสิ้นลงโดยเร็ว นอกจากนั้น พวกเขายังให้ตัวเลขว่ามีผู้ถูกสังหารไปแล้ว 124 คน และบาดเจ็บอีก 284 คน
สำหรับสถานที่ซึ่งเกิดการต่อสู้กันแห่งที่สาม ได้แก่ โรงแรมไทรเดนต์-โอเบอรอย อันเป็นโรงแรมหรูหราระดับห้าดาว ตั้งแต่ช่วงเช้าวานนี้ หน่วยคอมมานโดได้สังหารพวกหัวรุนแรงตายไป 2 คน และปลดปล่อยแขกผู้มาพักให้เป็นอิสระเป็นจำนวน 143 คน
ครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่อินเดียกล่าวหาว่าปากีสถานมีส่วนในเหตุร้ายที่เกิดขึ้นประเทศของตน “หลักฐานเบื้องต้นที่เราได้มาชี้ว่าเป็นหน่วยก่อการร้ายที่มีความเชื่อมโยงกับปากีสถาน” รัฐมนตรีต่างประเทศ ปรานับ มุคเคอร์จี กล่าวในระหว่างการแถลงข่าวที่นิวเดลี เขาเรียกร้องให้ปากีสถานล้มเลิกโครงสร้างที่ให้การสนับสนุนแก่พวกกองกำลังติดอาวุธต่าง ๆ
ในขณะเดียวกันรัฐมนตรีต่างประเทศปากีสถาน ชาห์ เมห์มุด กุเรชิก็ออกว่าโต้ตอบว่าอินเดียนั้นกำลังเล่นการเมืองจากกรณีเหตุก่อการร้ายในมุมไบ
“อย่าเอาการเมืองเข้ามาเกี่ยวในกรณีนี้ เพราะมันเป็นเรื่องที่สั่งสมมานานมากกว่า เรากำลังเผชิญหน้ากับศัตรูกลุ่มเดียวกัน ดังนั้นเราสมควรร่วมมือกันเพื่อบดขยี้ศัตรูมากกว่า” กุเรชิบอกนักข่าวขณะที่กำลังเยือนเมืองอัชเมอร์ของอินเดียอยู่
ในเวลาต่อมา ปากีสถานยังกระทำสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน นั่นคือให้ พล.ท.อาเหม็ด ชูจา ปาชา ผู้บัญชาการสำนักงานการข่าวทหาร (ไอเอสไอ) ซึ่งเป็นหน่วยงานข่าวกรองสำคัญที่สุดของปากีสถาน เดินทางไปที่อินเดียเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารกับทางแดนภารตะ ตามคำขอของนายกรัฐมนตรีมานโมหัน ซิงห์ ของอินเดีย ทั้งนี้ตามการแถลงของเจ้าหน้าที่จากทั้งสองประเทศ
ภายหลังเสร็จสิ้นการช่วยตัวประกันที่โรงแรมไทรเดนต์-โอเบอรอย ผู้บังคับการตำรวจมุมไบ ฮัสซัน กาฟูร์ แถลงว่า ได้พบศพจำนวน 24 ศพที่นั่น ซึ่งน่าจะทำให้ต้องปรับยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุร้ายคราวนี้ให้สูงขึ้นอีก
ก่อนหน้านี้ในคืนวันพฤหัสบดี พวกเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารของอินเดียคาดหมายว่าน่าจะสามารถทำภารกิจกวาดล้างที่โรงแรมทัชมาฮัลได้ในเวลาอันรวดเร็ว ทว่าจนกระทั่งถึงช่วงเย็นวานนี้ กำลังหน่วยคอมมานโดชั้นนำนับร้อยๆ ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จในการเล่นงานในการเล่นงานมือปืนที่เหลืออยู่เพียงคนเดียว อีกทั้งน่าจะได้รับบาดเจ็บ
“ผู้ก่อการร้ายที่เหลืออยู่คนเดียวเคลื่อนย้ายไปมาระหว่างชั้นสองชั้น ชั้นหนึ่งนั้นเป็นเวทีเต้นรำซึ่งดูเหมือนเขาตัดไฟดับไปแล้ว” พล.ท.เอ็น. ธรรมบุราช ผู้บัญชาการหน่วยคอมมานโด บอกกับผู้สื่อข่าว “เช้าวันนี้ในระหว่างที่เราปฏิบัติการอยู่ เราก็ได้ยินเสียงหญิงและชายด้วย ดังนั้นจึงเป็นไปได้ที่ผู้ก่อการร้ายผู้นี้มีตัวประกันอยู่ด้วยสองคน”
ส่วนที่ศูนย์กลางชาวยิว กองกำลังคอมมานโดของอินเดียซึ่งใส่หน้ากากดำคลุมหน้าเอาไว้ได้โรยตัวจากเฮลิคอปเตอร์ ทะลุหลังคงลงมาจัดการกับผู้ก่อการร้ายที่อยู่ในอาคาร ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่าทหารยิงปืนนำหน้ามาก่อนเพื่อคุ้มกัน ในขณะที่คอมมานโดก็เข้าโจมตีผู้ก่อการร้ายหลายระลอก
มุมไบเป็นเมืองที่มีประชากรถึง 18 ล้านคน อีกทั้งเป็นศูนย์กลางทางการเงิน และศูนย์รวมแห่งกลไกขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจของอินเดีย รวมทั้งยังเป็นที่ตั้งของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของอินเดียด้วย
ตลาดหุ้นมุมไบกลับมาเปิดอีกครั้งวานนี้หลังจากถูกปิดไปในวันพฤหัสบดี และเมื่อปิดตลาดดัชนีบีเอสอี เซ็นเส็กซ์ขยับขึ้น 66 จุดหรือ 0.73%
ทางการแดนภารตะเวลานี้สันนิษฐานว่า ผู้ก่อการร้ายในครั้งนี้มีด้วยกัน 25คน บางคนเข้ามาที่มุมไบโดยทางเรือ และแยกย้ายไปตามสถานที่ต่าง ๆ ในย่านกลางเมืองเมื่อคืนวันพุธ จากนั้นก็เปิดการกราดยิงและโจมตีด้วยระเบิดตามสถานที่ซึ่งเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวต่างชาติและนักธุรกิจ รวมทั้งโรงแรมหรูสองแห่งดังกล่าวด้วย
ตำรวจกล่าวว่าผู้ก่อการร้ายอย่างน้อย 7 คนถูกสังหาร อีก 9 คนถูกจับได้ ในขณะที่ตำรวจ 12 คนเสียชีวิต รวมทั้งหัวหน้าหน่วยต่อต้านการก่อการร้ายของมุมไบด้วย ด้านนักท่องเที่ยวต่างชาติมีอย่างน้อย 8 คนเสียชีวิต ซึ่งมีทั้ง ออสเตรเลีย, อังกฤษ,แคนาดา, อิตาลี และญี่ปุ่น