xs
xsm
sm
md
lg

กก.บห.3พรรคส่อลอยนวล อสส.-กกต.เปิดช่องปล่อยผีคดียุบพรรค

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เมื่อเวลา 09.30 น. วานนี้( 26 พ.ย.) ศาลรัฐธรรมนูญได้นัดพร้อม โดยให้คู่กรณี ทั้งผู้ร้อง(อัยการสูงสุด) และผู้ถูกร้อง(พรรคพลังประชาชน พรรคชาติไทย และพรรคมัชฌิมาธิปไตย) ซึ่งนายยืนหยัด ใจสมุทร นายธนา เบญจาทิกุล ผู้ได้รับมอบอำนาจในการดำเนินคดียุบพรรคของพรรคพลังประชาชน เดินทางมาเป็นพรรคแรก ตามมาด้วยนายนิกร จำนง นายอนุรักษ์ จุรีมาศ รองหัวหน้าพรรคชาติไทย จากนั้นนางพรทิวา นาคาสัย เลขาธิการพรรคและพ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ รมช.พาณิชย์ และรองหัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย ได้เดินทางมาตามที่ศาลนัด
ทางด้านของอัยการสูงสุดได้มอบหมายให้นายเศกสรรค์ บางสมบุญ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ ในฐานะผู้รับผิดชอบคดียุบพรรคการเมือง มาเป็นผู้ดำเนินคดีแทน โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.พระราชวัง มาคอยดูแลรักษาความปลอดภัย โดยรอบบริเวณศาลรัฐธรรมนูญ
ต่อมาเวลา 10.00 น.คณะตุลาการได้ออกนั่งบัลลังก์ โดยมี นายชัช ชลวร ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งก็ได้แจ้งให้คู่กรณีได้รับทราบถึงกรอบการพิจารณาของศาลว่าจะมีประเด็นที่ต้องพิจารณามีอยู่ 3 ประเด็น คือ 1.นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน นาย มณเฑียร สงฆ์ประชา อดีตรองเลขาธิการพรรคชาติไทย และนายสุนทร วิลาวัลย์ อดีตรองหัวหน้าพรรคมัชฌิมาฯ ได้กระทำผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.และการได้มาซึ่งส.ว. พ.ศ.2550 หรือไม่ 2. มีเหตุสมควรให้ยุบพรรคทั้ง 3 พรรคหรือไม่ และ3. หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคทั้ง 3 พรรค จะต้องถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งหรือไม่
หลังจากที่คู่กรณีได้รับฟังการกำหนดประเด็นในการพิจารณาแล้ว ศาลได้ให้ทั้ง 3 พรรคยื่นบัญชีพยาน โดยพรรคพรรคมัชฌิมาฯ ได้ขอสืบพยานบุคคล 20 ปาก ส่วน อสส.ได้ขอให้สืบพยานบุคคลของฝ่ายผู้ร้อง 18 ปาก อาทิ นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต. นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานกกต. นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต. นายสุพล ยุติธาดา ประธานอนุกรรมการพิจารณายุบพรรคมัชฌิมาฯ เป็นต้น
ด้านพรรคชาติไทย ได้ทำบัญชีของสืบพยานบุคคล 42 ปาก พยานวัตถุที่เป็นเทปซีดีคำปราศรัยห้ามซื้อเสียง และพยานเอกสาร 33 รายการ นอกจากนี้ยังมีเอกสารที่ยื่นขอจากกกต. แต่ยังจัดส่งมาไม่ครบถ้วน จึงขอให้ศาลได้อนุญาตส่งเอกสารดังกล่าวเพื่อนำสืบในภายหลังด้วย โดยศาลได้อนุญาต แต่ต้องอยู่ภายในระยะเวลาที่ศาลได้นัดตรวจพยาน ทั้งนี้ พรรคชาติไทยยังได้ขอให้ศาลอนุญาตให้นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย มาแถลงเปิดคดีด้วยวาจา ซึ่งศาลได้ขอรับเรื่องไว้ และจะใช้ดุลพินิจอีกครั้งว่าจะให้แถลงเปิดคดีมากน้อยเพียงไร ส่วนอัยการสูงสุดได้ยื่นขอให้ศาลสืบพยานบุคคล 19 ปาก
ส่วนพรรคพลังประชาชน ได้ขอนำสืบพยานบุคคลในส่วนของพรรค 60 ปาก และกรรมการบริหารพรรค ที่ไม่มีส่วนรู้เห็นหรือปล่อยปละละเลย ส่วนอัยการสูงสุดได้ขอให้ศาลนำสืบพยาน 23 ปาก โดยเป็นพยานที่เกี่ยวกับการรับเงินจากนายยงยุทธ พยานผู้บันทึกภาพ และพยานจากกกต. โดยศาลได้ให้ผู้ร้องทำสำเนาให้แก่ผู้ถูกร้องด้วย
อย่างไรก็ตาม ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ยังติดใจในกรอบการพิจารณาประเด็นเกี่ยวกับกรรมการบริหารพรรคไม่มีส่วนรู้เห็นในสำนวนนั้น และได้ถามไปยังอัยการสูงสุดในฐานะผู้ร้องว่ามีพยานหลักฐานใดที่ชี้ว่ากรรมการบริหารพรรคทั้ง 3 พรรค มีส่วนรู้เห็นหรือไม่ โดยนายเศกสรรค์ กล่าวว่า จากหลักฐานที่ได้มาจาก กกต.ไม่ปรากฏว่ามีกรรมการบริหารพรรคมีส่วนรู้เห็น หรือปล่อยปละให้กระทำผิดตามที่ถูกกล่าว นอกจากนี้ยังมีหลักฐานบันทึกในส่วน กกต.ที่ไม่ได้ระบุว่า กรรมการบริหารพรรคคนอื่นมีส่วนรู้เห็นด้วย
ต่อมาเวลา 14.00 น. คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ออกนั่งบัลลังก์อีกครั้ง อ่านรายงานกระบวนการวิธีพิจารณาและนัดตรวจพยาน ของ 3 พรรคการเมือง โดยศาลกำหนดนัดตรวจพยานในวันศุกร์ที่ 28 พ.ย. เวลา 09.30 น. หากไม่มาตามกำหนดนัดถือว่าไม่ติดใจ
ส่วนกรณีพรรคชาติไทยที่ยื่นคำร้องขอให้นายบรรหาร ได้มาแถลงเปิดคดีด้วยวาจานั้นศาลจะแถลงให้ทราบในวันดังกล่าว ส่วนพรรคพลังประชาชน ที่มีกรรมการบริหารบางราย ได้ยื่นขอเป็นคู่ความฝ่ายที่สามนั้น ศาลได้รับไว้เป็นคำชี้แจงของผู้ที่เกี่ยวข้อง และการอ้างพยานหลักฐานดังกล่าวให้ถือว่าเป็นพยานของฝ่ายผู้ถูกร้อง
กำลังโหลดความคิดเห็น