นายชินภัทร ภูมิรัตน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) เปิดเผยว่า วันที่ 26 พ.ย.นี้ศธ.จะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ทบทวนงบประมาณสำหรับโครงการอี-เลิร์นนิ่ง โดยจะของบประมาณเพิ่มเติมอีกจำนวน 1,348 ล้านบาทเพื่อใช้กับโรงเรียน 2,000 แห่ง หลังจากที่ถูกสำนักงบประมาณตัดงบไป
ทั้งนี้ ศธ.ได้กำหนดแผนเอาไว้ว่า ภายใน 5 ปีจะขยายโครงการออกไปให้ครบ 10,000 โรงเรียน โดยใช้งบประมาณสูงถึง 8,000-9,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าศธ.ทุ่มงบกับโครงการอี-เลิร์นนิ่งถึง 8,000-9,000 ล้านบาท เทียบกับนำเงินไปจ้างครูมาสอนอย่างไหนคุ้มค่ากว่ากัน นายชินภัทร กล่าวว่า ครูเป็นหัวใจของการศึกษา ทว่าที่ผ่านมาเรามีปัญหาขออัตราครูมาตลอด ฉะนั้น อี-เลิร์นนิ่งจะช่วยในส่วนที่ขาดแคลนได้ระดับหนึ่ง
วันเดียวกันนางศรีวิการ์ เมฆธวัชชัยกุล รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงการดำเนินโครงการจ้างนักเรียน นักศึกษา ทำงานเพื่อหารายได้ระหว่างปิดภาคเรียน ว่า จากการประชุมร่วมกับผู้แทนจาก 5 องค์กรหลักของ ศธ. เห็นตรงกันว่า ควรวางแผนการดำเนินโครงการการจ้างงานเป็นแผนระยะยาว และแบ่งการทำงานออกเป็น 2 ส่วน คือ การจ้างงานร่วมกับภาคเอกชน โดยประสานกับบริษัทเอกชน กรมการจัดหางาน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย
อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นจะขอความร่วมมือให้สำรวจว่าต้องการเด็กเข้าทำงานจำนวนเท่าใด ระบุประเภทงาน ทาง ศธ.จะได้นำข้อมูลเหล่านี้มาประกอบการรับเด็กเข้าทำงานต่อไป
สำหรับการจ้างงานในหน่วยงานราชการ เช่น ห้องสมุดประชาชน 800 แห่งทั่วประเทศนั้นจะใช้งบจ้างนักเรียนนักศึกษาให้เข้าไปจัดกิจกรรม หรือนิทรรศการต่างๆ เพื่อเพิ่มความรู้ให้กับประชาชนในชุมชน ส่วนโรงเรียนขนาดเล็ก ศธ.จะประสานไปยังองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ให้คัดเลือกโรงเรียน อบต.ละ 1 โรง ประมาณ 8,000 โรง จากนั้นจะให้นักศึกษาครุศาสตร์ ศึกษาศาสตร์ ที่ต้องการหารายได้ช่วงปิดเทอมไปช่วยสอนเด็ก ส่วนเด็กอาชีวะให้ช่วยดูแล ซ่อมแซมอาคาร สถานที่หรือสิ่งของที่ชำรุดต่างๆ ซึ่งตรงนี้ถือว่าเป็นการฝึกปฏิบัติงานจริงด้วย
ด้านนายชินภัทร กล่าวเสริมว่า สำหรับในปีนี้ ศธ.ได้เตรียมงบจ้างนักเรียน นักศึกษา ประมาณ 135 ล้านบาท ซึ่งสำนักงานปลัด ศธ.มีงบไว้ดำเนินการแล้ว 32 ล้านบาท ยังขาดอีก 103 ล้านบาท ได้ทำเรื่องของบกลางปี 2552 ไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนจะได้รับเงินหรือไม่นั้นต้องรอการพิจารณาจากสำนักงบประมาณ แต่ ศธ.ตั้งเป้าจ้างเด็กทำงานจำนวน 54,720 คน หากสำนักงบฯ ไม่อนุมัติเงิน ศธ.จะจ้างเด็กได้เพียง 8,500 คนตามจำนวนเงินที่มีอยู่เท่านั้น โดยเด็กจะได้รับค่าแรงวันละ 200 กว่าบาท
ทั้งนี้ ศธ.ได้กำหนดแผนเอาไว้ว่า ภายใน 5 ปีจะขยายโครงการออกไปให้ครบ 10,000 โรงเรียน โดยใช้งบประมาณสูงถึง 8,000-9,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าศธ.ทุ่มงบกับโครงการอี-เลิร์นนิ่งถึง 8,000-9,000 ล้านบาท เทียบกับนำเงินไปจ้างครูมาสอนอย่างไหนคุ้มค่ากว่ากัน นายชินภัทร กล่าวว่า ครูเป็นหัวใจของการศึกษา ทว่าที่ผ่านมาเรามีปัญหาขออัตราครูมาตลอด ฉะนั้น อี-เลิร์นนิ่งจะช่วยในส่วนที่ขาดแคลนได้ระดับหนึ่ง
วันเดียวกันนางศรีวิการ์ เมฆธวัชชัยกุล รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงการดำเนินโครงการจ้างนักเรียน นักศึกษา ทำงานเพื่อหารายได้ระหว่างปิดภาคเรียน ว่า จากการประชุมร่วมกับผู้แทนจาก 5 องค์กรหลักของ ศธ. เห็นตรงกันว่า ควรวางแผนการดำเนินโครงการการจ้างงานเป็นแผนระยะยาว และแบ่งการทำงานออกเป็น 2 ส่วน คือ การจ้างงานร่วมกับภาคเอกชน โดยประสานกับบริษัทเอกชน กรมการจัดหางาน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย
อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นจะขอความร่วมมือให้สำรวจว่าต้องการเด็กเข้าทำงานจำนวนเท่าใด ระบุประเภทงาน ทาง ศธ.จะได้นำข้อมูลเหล่านี้มาประกอบการรับเด็กเข้าทำงานต่อไป
สำหรับการจ้างงานในหน่วยงานราชการ เช่น ห้องสมุดประชาชน 800 แห่งทั่วประเทศนั้นจะใช้งบจ้างนักเรียนนักศึกษาให้เข้าไปจัดกิจกรรม หรือนิทรรศการต่างๆ เพื่อเพิ่มความรู้ให้กับประชาชนในชุมชน ส่วนโรงเรียนขนาดเล็ก ศธ.จะประสานไปยังองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ให้คัดเลือกโรงเรียน อบต.ละ 1 โรง ประมาณ 8,000 โรง จากนั้นจะให้นักศึกษาครุศาสตร์ ศึกษาศาสตร์ ที่ต้องการหารายได้ช่วงปิดเทอมไปช่วยสอนเด็ก ส่วนเด็กอาชีวะให้ช่วยดูแล ซ่อมแซมอาคาร สถานที่หรือสิ่งของที่ชำรุดต่างๆ ซึ่งตรงนี้ถือว่าเป็นการฝึกปฏิบัติงานจริงด้วย
ด้านนายชินภัทร กล่าวเสริมว่า สำหรับในปีนี้ ศธ.ได้เตรียมงบจ้างนักเรียน นักศึกษา ประมาณ 135 ล้านบาท ซึ่งสำนักงานปลัด ศธ.มีงบไว้ดำเนินการแล้ว 32 ล้านบาท ยังขาดอีก 103 ล้านบาท ได้ทำเรื่องของบกลางปี 2552 ไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนจะได้รับเงินหรือไม่นั้นต้องรอการพิจารณาจากสำนักงบประมาณ แต่ ศธ.ตั้งเป้าจ้างเด็กทำงานจำนวน 54,720 คน หากสำนักงบฯ ไม่อนุมัติเงิน ศธ.จะจ้างเด็กได้เพียง 8,500 คนตามจำนวนเงินที่มีอยู่เท่านั้น โดยเด็กจะได้รับค่าแรงวันละ 200 กว่าบาท