ผู้จัดการรายวัน – “วีระศักดิ์” ทำเก๋ ออกปากชวน ประธานคณะกรรมการท่องเที่ยวแห่งชาติจีนมาไทย เพื่อสำรวจข้อมูลท่องเที่ยว พร้อมเสนอตั้งสำนักงานของแต่ละประเทศเพื่อผลักดันให้เกิดการท่องเที่ยวซึ่งกันและกันทั้งสองประเทศ ด้านปลัดฯเผยเตรียมเชิญบิ๊กดับบลิวทีโอมาวิเคราะห์การเก็บสถิติท่องเที่ยวของไทยหวังยกระดับความเป็นสากล
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า การนำคณะภาครัฐและเอกชนของไทยไปเยือนประเทศจีนช่วงที่ผ่านมา และได้มีโอกาสเข้าพบนายเส้า ฉี เหว่ย ประธานคณะกรรมการการท่องเที่ยวแห่งชาติจีน จึงได้ถือโอกาสนี้เชิญชวนให้ นายเส้า ฉี เหว่ย เดินทางเข้ามาประเทศไทย เพื่อสำรวจแหล่งท่องเที่ยว โดยนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีน ได้แก่ เกาะสมุย เกาะช้าง เชียงใหม่ อยุธยา และสุพรรณบุรี นอกจากนั้นยังเจรจาขอให้รัฐบาลจีนสนับสนุนให้ชาวจีนเดินทางเข้ามาเที่ยวประเทศไทยเพิ่มขึ้น
ขณะเดียวกันรัฐบาลไทยก็จะสนับสนุนคนไทยให้เดินทางไปเที่ยวประเทศเทศจีนด้วย ที่ผ่านมา คนไทยเดินทางไปจีนปีละ 4-5 แสนคน จากจำนวนประชากรทั้งประเทศที่ 60 ล้านคน ส่วนชาวจีนเดินทางมาประเทศไทยประมาณปีละ 1 ล้านคน จากประชากรทั้งหมดกว่า 1.2 พันล้านคน จึงน่าจะเพิ่มจำนวนได้อีกมาก
จากข้อเสนอในความร่วมมือดังกล่าวนี้ นายเส้าเองก็เห็นด้วย อย่างไรก็ตาม ทางฝ่ายไทยยังได้เจรจาขอเปิดสำนักงาน ททท. ที่เซี่ยงไฮ้ ซึ่งนายเส้า ฉี เหว่ย ได้รับไปพิจารณา ในทางกลับกันได้ชวนให้จีนมาเปิดสำนักงานการท่องเที่ยวจีนที่กรุงเทพฯด้วย เพราะปัจจุบันจีนมีสำนักงานในอาเซียนแค่ที่สิงคโปร์ ประเทศเดียว ซึ่งนายเส้า ฉี เหว่ย ระบุว่า ต้องรอเวลาที่เหมาะสมก่อน
นางสาวศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ได้เตรียมรายงานข้อมูลสถิติท่องเที่ยวของประเทศไทย ให้แก่องค์การท่องเที่ยวโลก (ดับลิวทีโอ) ได้รับทราบ เพื่อจะได้นำข้อมูลที่ถูกต้องไปใช้วิเคราะห์ และรายงานออกสู่สาธารณะชน เนื่องจากปัจจุบัน ดับบลิวทีโอใช้ข้อมูลที่ได้ค้นได้จากอินเทอร์เน็ต ซึ่งอาจไม่ตรงความจริงมากนักไปวิเคราะห์ จึงเป็นผลเสียต่อประเทศไทย
ขณะเดียวกันยังเตรียมเชิญเจ้าหน้าที่ของดับบลิวทีโอให้เดินทางมาประเทศไทย เพื่อประเมินการทำหน้าที่จัดเก็บสถิติด้านท่องเที่ยว ที่สำนักพัฒนาการท่องเที่ยว (สพท.) ได้ดำเนินการอยู่ว่าวิธีการจัดเก็บเป็นหลักสากลเพียงพอหรือไม่และต้องปรับปรุงเพิ่มเติมเรื่องใดอีกบ้าง เพื่อให้การเก็บสถิตินั้นมีความเป็นมาตรฐานสากลและมีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะนำไปใช้งานได้
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า การนำคณะภาครัฐและเอกชนของไทยไปเยือนประเทศจีนช่วงที่ผ่านมา และได้มีโอกาสเข้าพบนายเส้า ฉี เหว่ย ประธานคณะกรรมการการท่องเที่ยวแห่งชาติจีน จึงได้ถือโอกาสนี้เชิญชวนให้ นายเส้า ฉี เหว่ย เดินทางเข้ามาประเทศไทย เพื่อสำรวจแหล่งท่องเที่ยว โดยนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีน ได้แก่ เกาะสมุย เกาะช้าง เชียงใหม่ อยุธยา และสุพรรณบุรี นอกจากนั้นยังเจรจาขอให้รัฐบาลจีนสนับสนุนให้ชาวจีนเดินทางเข้ามาเที่ยวประเทศไทยเพิ่มขึ้น
ขณะเดียวกันรัฐบาลไทยก็จะสนับสนุนคนไทยให้เดินทางไปเที่ยวประเทศเทศจีนด้วย ที่ผ่านมา คนไทยเดินทางไปจีนปีละ 4-5 แสนคน จากจำนวนประชากรทั้งประเทศที่ 60 ล้านคน ส่วนชาวจีนเดินทางมาประเทศไทยประมาณปีละ 1 ล้านคน จากประชากรทั้งหมดกว่า 1.2 พันล้านคน จึงน่าจะเพิ่มจำนวนได้อีกมาก
จากข้อเสนอในความร่วมมือดังกล่าวนี้ นายเส้าเองก็เห็นด้วย อย่างไรก็ตาม ทางฝ่ายไทยยังได้เจรจาขอเปิดสำนักงาน ททท. ที่เซี่ยงไฮ้ ซึ่งนายเส้า ฉี เหว่ย ได้รับไปพิจารณา ในทางกลับกันได้ชวนให้จีนมาเปิดสำนักงานการท่องเที่ยวจีนที่กรุงเทพฯด้วย เพราะปัจจุบันจีนมีสำนักงานในอาเซียนแค่ที่สิงคโปร์ ประเทศเดียว ซึ่งนายเส้า ฉี เหว่ย ระบุว่า ต้องรอเวลาที่เหมาะสมก่อน
นางสาวศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ได้เตรียมรายงานข้อมูลสถิติท่องเที่ยวของประเทศไทย ให้แก่องค์การท่องเที่ยวโลก (ดับลิวทีโอ) ได้รับทราบ เพื่อจะได้นำข้อมูลที่ถูกต้องไปใช้วิเคราะห์ และรายงานออกสู่สาธารณะชน เนื่องจากปัจจุบัน ดับบลิวทีโอใช้ข้อมูลที่ได้ค้นได้จากอินเทอร์เน็ต ซึ่งอาจไม่ตรงความจริงมากนักไปวิเคราะห์ จึงเป็นผลเสียต่อประเทศไทย
ขณะเดียวกันยังเตรียมเชิญเจ้าหน้าที่ของดับบลิวทีโอให้เดินทางมาประเทศไทย เพื่อประเมินการทำหน้าที่จัดเก็บสถิติด้านท่องเที่ยว ที่สำนักพัฒนาการท่องเที่ยว (สพท.) ได้ดำเนินการอยู่ว่าวิธีการจัดเก็บเป็นหลักสากลเพียงพอหรือไม่และต้องปรับปรุงเพิ่มเติมเรื่องใดอีกบ้าง เพื่อให้การเก็บสถิตินั้นมีความเป็นมาตรฐานสากลและมีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะนำไปใช้งานได้
