รอยเตอร์ - ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกดิ่งระนาว 4 ดอลลาร์ หรือกว่า 7 เปอร์เซ็นต์ ลดลงสู่ระดับต่ำกว่า 50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นราคาต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายนปี 2005 ในวันพฤหัสบดี (20) ก่อนจะกระเตื้องขึ้นมาเล็กน้อยเกือบ 1 ดอลลาร์ในวันศุกร์ (21) ภายหลังการเผยแพร่รายงานการจ้างงานของสหรัฐฯ ซึ่งปรากฏว่า ตัวเลขคนถูกเลิกจ้างเพิ่มสูงสุดในรอบ 16 ปี อันเป็นสัญญาณที่ตอกย้ำว่า ภาวะเศรษฐกิจซบเซาตัวทั่วโลก ยิ่งจะชะลอความต้องการพลังงาน
เมื่อวันพฤหัสบดี(20) สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ ดิ่งลง 4.00 ดอลลาร์ ปิดที่ 49.62 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล อันเป็นราคาต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายนปี 2005 ส่วนน้ำมันดิบเบรนต์ของลอนดอนขยับลงมา 3.64 ดอลลาร์ ปิดที่ 48.08 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ต่อมาระหว่างการซื้อขายผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ในวันศุกร์ (21) เมื่อถึงเวลา 12.00 น.จีเอ็มที (19.00 น. เวลาเมืองไทย) น้ำมันดิบไลต์สวีตครูดฉบับส่งมอบเดือนมกราคม มีแรงดีดขึ้นมา 96 เซ็นต์ อยู่ที่ 50.38 โดยช่วงหนึ่งระหว่างการซื้อขายราคาขยับลงมาอยู่ที่ 48.24 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนต์สูงขึ้น 1.40 ดอลลาร์ อยู่ที่ 49.48 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
เมื่อวันพฤหัสบดี(20) สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ ดิ่งลง 4.00 ดอลลาร์ ปิดที่ 49.62 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล อันเป็นราคาต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายนปี 2005 ส่วนน้ำมันดิบเบรนต์ของลอนดอนขยับลงมา 3.64 ดอลลาร์ ปิดที่ 48.08 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ต่อมาระหว่างการซื้อขายผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ในวันศุกร์ (21) เมื่อถึงเวลา 12.00 น.จีเอ็มที (19.00 น. เวลาเมืองไทย) น้ำมันดิบไลต์สวีตครูดฉบับส่งมอบเดือนมกราคม มีแรงดีดขึ้นมา 96 เซ็นต์ อยู่ที่ 50.38 โดยช่วงหนึ่งระหว่างการซื้อขายราคาขยับลงมาอยู่ที่ 48.24 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนต์สูงขึ้น 1.40 ดอลลาร์ อยู่ที่ 49.48 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล