รอยเตอร์ – ผู้นำเบอร์สองกลุ่มอัลกออิดะห์ออกโรงกล่าวหาว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา ว่าเป็น “นิโกรประจำบ้าน” ที่ทรยศคนผิวสีด้วยกันและทรยศความเป็นมุสลิมของพ่อด้วย พร้อมระบุนโยบาย “เปลี่ยนแปลง”ของโอบามา ไม่มีความหมาย และจะโจมตีระลอกใหม่เพื่อตอบโต้กับกระแสความนิยมทั่วโลกที่มีต่อว่าที่ผู้นำใหม่สหรัฐฯ
ไอมาน อัล ซอวาฮิรี ผู้นำหมายเลข 2 ของกลุ่มอัลกออิดะห์ รองจาก อุซามะห์ บินลาดิน ได้กล่าวผ่านเทปเสียงความยาว 11 นาที ซึ่งเผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ตเมื่อวันพุธ(19) โดยเขาโจมตีโอบามาว่าเป็น “นิโกรประจำบ้าน” ซึ่งเป็นถ้อยคำที่ มัลคอล์ม เอ็กซ์ ผู้นำมุสลิมอเมริกันผิวสีในยุคทศวรรษ 1960 เคยใช้พูดดูถูกทาสผิวดำที่จงรักภักดีต่อเจ้านายผิวขาว
“คุณเป็นตัวแทนฝั่งตรงข้ามโดยตรงของคนอเมริกันผิวสีที่มีเกียรติ อย่างเช่น มัลคอล์ม เอ็กซ์” ซอวาฮิรีกล่าว
ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ผู้นำระดับสูงของกลุ่มอัลกออิดะห์ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ ซึ่งนักวิเคราะห์ยังคาดด้วยว่าบินลาดินก็อาจเผยแพร่ข้อคิดเห็นของเขาต่อตัวโอบามาภายในหนึ่งหรือสองสัปดาห์ข้างหน้านี้เช่นกัน
นอกจากนั้น ซาวาฮิรียังวิจารณ์การที่โอบามาสนับสนุนอิสราเอล รวมทั้งแผนการเสริมกำลังทหารสหรัฐฯ เข้าไปในอัฟกานิสถานว่า มีแต่จะประสบความล้มเหลว และซอวาฮิรียังเรียกร้องให้นักรบอิสลามิสต์โจมตี “อาชญากร” สหรัฐฯ ต่อไปอีกจนกว่าจะยอมถอนทหารออกไปจากแผ่นดินของชาวมุสลิม
ทั้งนี้เทปเสียงดังกล่าวมีการเผยแพร่รวมอยู่บนวิดีโอเทปซึ่งทำเป็นภาพของโอบามาที่ “เวสเทิร์น วอลล์” ในกรุงเยรูซาเลม และมัลคอล์ม เอ็กซ์ โดยทั้งสองอยู่ขนาบข้างซอวาฮิรีซึ่งอยู่ตรงกลาง
ส่วนทางการสหรัฐฯ และพวกนักวิเคราะห์ซึ่งเตรียมระวังการโจมตีจากผู้ก่อการร้ายในช่วงระยะเวลาการส่งมอบอำนาจประธานาธิบดี ก็กล่าวว่า ยังไม่มีสัญญาณเตือนเรื่องเหตุโจมตีในระยะเวลาใกล้ๆ นี้ และมองว่าข้อความของซอวาฮิรีนั้นเป็นการพยายามเบี่ยงเบนจุดสนใจของอัลกออิดะห์จากประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช และให้พวกผู้สนับสนุนกลุ่มยังคงถือว่าสหรัฐฯ คือศัตรูของตนต่อไป
นอกจากนั้น ซอวาฮิรียังวิจารณ์นโยบาย “เปลี่ยนแปลง” ของโอบามาว่า “แนวทางในเรื่องการเปลี่ยนแปลงที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เชื้อสายแอฟริกันนำเสนอในช่วงหาเสียงเลือกตั้งนั้นก็คือการยืนกรานว่าไม่มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงเลย”
อย่างไรก็ตาม ชัยชนะของโอบามาได้รับการขานรับอย่างดีจากโลกตะวันออกกลางซึ่งคาดหวังว่าความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับประเทศอาหรับจะดีขึ้นกว่าในยุคของบุชซึ่งมีแนวโน้มปีนเกลียวกันมากขึ้น
แดเนียล เบนจามิน เจ้าหน้าที่ฝ่ายต่อต้านการก่อการร้ายในยุคของอดีตประธานาธิบดีบิลล์ คลินตัน กล่าวว่า ชัยชนะของโอบามาในการหาเสียงว่าจะล้มนโยบายเก่าของบุชนั้น เป็นการเน้นให้เห็นว่าสหรัฐฯ จะหันไปใช้แนวทางที่เรียกว่า “อำนาจอ่อน” ซึ่งเป็นการเน้นสร้างอิทธิพลในเวทีระหว่างประเทศโดยไม่ใช้กำลังทหารนั่นเอง
“ผมคิดว่าพวกเขา (อัลกออิดะห์) คงหวั่นเกรงประธานาธิบดีคนใหม่ซึ่งจะเข้ารับตำแหน่งโดยเน้นการสร้างความสัมพันธ์เชิงสร้างสรรค์กับชาวมุสลิมหนึ่งพันล้านคนในโลก” ดังนั้นซอวาฮิรีจึง “รู้สึกเหมือนมีคู่แข่งที่จะมาแย่งชิงความรักและศรัทธาไป”
ซอวาฮิรียังพูดถึงบิดาของโอบามาซึ่งเป็นชาวเคนยาว่าเติบโตมาในครอบครัวมุสลิม แต่ต่อมาเลือกหันไปเป็นพวกอเทวนิยม ส่วนโอบามาก็หันไปนับถือคริสต์ ซึ่งซาวาฮิรีมองว่า “คุณมีพ่อเป็นมุสลิม แต่เลือกไปยืนข้างเดียวกับศัตรูของชาวมุสลิม”
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2007 ซอวาฮิรีเคยใช้คำว่า “นิโกรบ้าน” กล่าวดูถูกคอนโดลีซซา ไรซ์ รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ และคอลิน พาวเวลล์ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศมาแล้ว ซึ่งทั้งสองเป็นคนผิวสีเช่นกัน
ไอมาน อัล ซอวาฮิรี ผู้นำหมายเลข 2 ของกลุ่มอัลกออิดะห์ รองจาก อุซามะห์ บินลาดิน ได้กล่าวผ่านเทปเสียงความยาว 11 นาที ซึ่งเผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ตเมื่อวันพุธ(19) โดยเขาโจมตีโอบามาว่าเป็น “นิโกรประจำบ้าน” ซึ่งเป็นถ้อยคำที่ มัลคอล์ม เอ็กซ์ ผู้นำมุสลิมอเมริกันผิวสีในยุคทศวรรษ 1960 เคยใช้พูดดูถูกทาสผิวดำที่จงรักภักดีต่อเจ้านายผิวขาว
“คุณเป็นตัวแทนฝั่งตรงข้ามโดยตรงของคนอเมริกันผิวสีที่มีเกียรติ อย่างเช่น มัลคอล์ม เอ็กซ์” ซอวาฮิรีกล่าว
ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ผู้นำระดับสูงของกลุ่มอัลกออิดะห์ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ ซึ่งนักวิเคราะห์ยังคาดด้วยว่าบินลาดินก็อาจเผยแพร่ข้อคิดเห็นของเขาต่อตัวโอบามาภายในหนึ่งหรือสองสัปดาห์ข้างหน้านี้เช่นกัน
นอกจากนั้น ซาวาฮิรียังวิจารณ์การที่โอบามาสนับสนุนอิสราเอล รวมทั้งแผนการเสริมกำลังทหารสหรัฐฯ เข้าไปในอัฟกานิสถานว่า มีแต่จะประสบความล้มเหลว และซอวาฮิรียังเรียกร้องให้นักรบอิสลามิสต์โจมตี “อาชญากร” สหรัฐฯ ต่อไปอีกจนกว่าจะยอมถอนทหารออกไปจากแผ่นดินของชาวมุสลิม
ทั้งนี้เทปเสียงดังกล่าวมีการเผยแพร่รวมอยู่บนวิดีโอเทปซึ่งทำเป็นภาพของโอบามาที่ “เวสเทิร์น วอลล์” ในกรุงเยรูซาเลม และมัลคอล์ม เอ็กซ์ โดยทั้งสองอยู่ขนาบข้างซอวาฮิรีซึ่งอยู่ตรงกลาง
ส่วนทางการสหรัฐฯ และพวกนักวิเคราะห์ซึ่งเตรียมระวังการโจมตีจากผู้ก่อการร้ายในช่วงระยะเวลาการส่งมอบอำนาจประธานาธิบดี ก็กล่าวว่า ยังไม่มีสัญญาณเตือนเรื่องเหตุโจมตีในระยะเวลาใกล้ๆ นี้ และมองว่าข้อความของซอวาฮิรีนั้นเป็นการพยายามเบี่ยงเบนจุดสนใจของอัลกออิดะห์จากประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช และให้พวกผู้สนับสนุนกลุ่มยังคงถือว่าสหรัฐฯ คือศัตรูของตนต่อไป
นอกจากนั้น ซอวาฮิรียังวิจารณ์นโยบาย “เปลี่ยนแปลง” ของโอบามาว่า “แนวทางในเรื่องการเปลี่ยนแปลงที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เชื้อสายแอฟริกันนำเสนอในช่วงหาเสียงเลือกตั้งนั้นก็คือการยืนกรานว่าไม่มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงเลย”
อย่างไรก็ตาม ชัยชนะของโอบามาได้รับการขานรับอย่างดีจากโลกตะวันออกกลางซึ่งคาดหวังว่าความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับประเทศอาหรับจะดีขึ้นกว่าในยุคของบุชซึ่งมีแนวโน้มปีนเกลียวกันมากขึ้น
แดเนียล เบนจามิน เจ้าหน้าที่ฝ่ายต่อต้านการก่อการร้ายในยุคของอดีตประธานาธิบดีบิลล์ คลินตัน กล่าวว่า ชัยชนะของโอบามาในการหาเสียงว่าจะล้มนโยบายเก่าของบุชนั้น เป็นการเน้นให้เห็นว่าสหรัฐฯ จะหันไปใช้แนวทางที่เรียกว่า “อำนาจอ่อน” ซึ่งเป็นการเน้นสร้างอิทธิพลในเวทีระหว่างประเทศโดยไม่ใช้กำลังทหารนั่นเอง
“ผมคิดว่าพวกเขา (อัลกออิดะห์) คงหวั่นเกรงประธานาธิบดีคนใหม่ซึ่งจะเข้ารับตำแหน่งโดยเน้นการสร้างความสัมพันธ์เชิงสร้างสรรค์กับชาวมุสลิมหนึ่งพันล้านคนในโลก” ดังนั้นซอวาฮิรีจึง “รู้สึกเหมือนมีคู่แข่งที่จะมาแย่งชิงความรักและศรัทธาไป”
ซอวาฮิรียังพูดถึงบิดาของโอบามาซึ่งเป็นชาวเคนยาว่าเติบโตมาในครอบครัวมุสลิม แต่ต่อมาเลือกหันไปเป็นพวกอเทวนิยม ส่วนโอบามาก็หันไปนับถือคริสต์ ซึ่งซาวาฮิรีมองว่า “คุณมีพ่อเป็นมุสลิม แต่เลือกไปยืนข้างเดียวกับศัตรูของชาวมุสลิม”
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2007 ซอวาฮิรีเคยใช้คำว่า “นิโกรบ้าน” กล่าวดูถูกคอนโดลีซซา ไรซ์ รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ และคอลิน พาวเวลล์ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศมาแล้ว ซึ่งทั้งสองเป็นคนผิวสีเช่นกัน