รอยเตอร์ – บารัค โอบามา ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เร่งเลือกเฟ้นตัวบุคคลที่จะดำรงตำแหน่งสำคัญในคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของเขา โดยมีรายงานว่า วุฒิสมาชิกฮิลลารี คลินตันอาจยอมรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ หากสะสางเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนของสามี บิลล์ คลินตัน อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ลงตัว ส่วนกระทรวงยุติธรรมคาดว่าจะได้เอริก โฮลเดอร์ อดีตเจ้าหน้าที่ในคณะรัฐบาลคลินตัน วัย 57 ปีขึ้นแท่นเจ้ากระทรวงผิวสีคนแรก
เป็นที่คาดว่าทีมรับผิดชอบการรับมอบอำนาจประธานาธิบดีของโอบามา กำลังตรวจสอบว่า กิจกรรมการกุศลและธุรกิจระหว่างประเทศของบิลล์ คลินตันในช่วงหลังจากหมดวาระประธานาธิบดีแล้ว จะทำให้เกิดปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่ หากฮิลลารี คลินตันรับตำแหน่งในคณะรัฐบาลชุดใหม่
หลังจากที่บิลล์ คลินตันลงจากตำแหน่งผู้นำทำเนียบขาวแล้ว เขามีธุรกิจที่คาดว่ามูลค่าอาจสูงถึง 100 ล้านดอลลาร์ ทั้งจากการเขียนหนังสือ และการกล่าวสุนทรพจน์ในที่ต่างๆ นอกจากนั้น เขายังมีบทบาทเป็นเสมือนทูตสัญจร และจัดตั้งมูลนิธิวิลเลียม เจฟเฟอร์สัน คลินตัน ระดมทุนหลายล้านดอลลาร์จากทั่วโลกเพื่อแก้ปัญหาโรคเอดส์ มาเลเรีย และสภาวะโลกร้อน ผู้เชี่ยวชาญบางรายระบุว่าเขาอาจต้องเปิดเผยรายชื่อของผู้บริจาคเงินสนับสนุนการจัดตั้งห้องสมุดประธานาธิบดีในรัฐอาร์คันซอส์ และมูลนิธิของเขาด้วย
“ควรมีข้อกำหนดตายตัวเรื่องการเปิดเผยข้อมูลเหล่านี้” ลาร์รี เซบาโต นักรัฐศาสตร์ประจำมหาวิทยาลัยเวอร์จิเนีย ให้ความเห็น “เพราะมีอย่างหนึ่งที่เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับบิลล์ คลินตันก็คือ ถ้าหากเขาสามารถโน้มน้าวให้คนยอมรับว่าไม่จำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลนี้ก็ได้ เขาจะทำ”
ทีมงานของโอบามาอาจขอให้คลินตันลดทอนกิจกรรมบางอย่างลงเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อน เมื่อภรรยาของเขารับตำแหน่งรัฐมนตรี ซึ่งผู้สนับสนุนคลินตันเชื่อว่าสองสามีภรรยาถูกเฝ้าจับตาดูอย่างใกล้ชิดมาตลอดหลายปีที่ผ่านมาจนไม่มีอะไรหลงเหลือให้ตรวจสอบอีกแล้ว ทั้งเชื่อว่าบิลล์ คลินตันปฏิบัติตามระเบียบเรื่องการเปิดเผยข้อมูลอย่างเข้มงวดมากกว่าอดีตประธานาธิบดีคนใดๆ ด้วยซ้ำไป
สตีเฟน เฮส ผู้เชี่ยวชาญด้านประธานาธิบดีสหรัฐฯ และได้เขียนหนังสือออกใหม่ชื่อ What Do We Do Now? -- A Workbook for the President-Elect (ขณะนี้เราทำอะไรกันอยู่หรือ? หนังสือแบบฝึกหัดสำหรับว่าที่ประธานาธิบดี) ซึ่งระบุว่าคงต้องใช้เวลาพอสมควรในการตรวจสอบครอบครัวคลินตัน แต่คาดว่าในที่สุดฮิลลารี คลินตันคงสามารถเข้ารับตำแหน่งสำคัญดังกล่าวได้
ทั้งนี้ทีมของโอบามาต้องการให้ผู้ที่จะเข้ารับตำแหน่งระดับสูงทั้งหมดได้รับการตรวจสอบประวัติอย่างละเอียด ซึ่งหมายความว่าพวกเขาจะต้องกรอกเอกสารถึง 7 หน้า โดยตอบคำถามทั้งหมด 63 คำถาม ที่ครอบคลุมทุกเรื่องตั้งแต่ข้อมูลฐานะการเงินส่วนบุคคลไปจนถึงเรื่องที่ว่าผู้ที่จะเข้ารับตำแหน่งดังกล่าวเคยเขียนอีเมลที่อาจจะสร้างปัญหาให้กับคณะรัฐบาลของโอบามาในวันข้างหน้าหรือไม่
แม้จะยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าครอบครัวคลินตันต้องกรอกเอกสารดังกล่าวนี้ด้วยหรือไม่ แต่แบบสอบถามนี้ก็มีวัตถุประสงค์ให้ฝ่ายบริหารมีความขาวสะอาดมากที่สุด เพื่อขจัดปัญหาอุปสรรคที่รัฐบาลชุดก่อนๆ เคยประสบมาแล้ว ดังเช่นในยุคของบิลล์ คลินตันเองก็เคยแต่งตั้งรัฐมนตรียุติธรรมที่ขาดคุณสมบัติ เนื่องจากว่าจ้างคนเลี้ยงเด็กซึ่งเป็นผู้อพยพเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย
สำหรับบุคคลอื่นๆ ที่จะเข้ามารับตำแหน่งสำคัญในคณะรัฐบาลโอบามา ชาวพรรคเดโมแครตระดับอาวุโสผู้หนึ่งเผยว่า โฮลเดอร์ ซึ่งเคยเป็นรัฐมนตรีช่วยยุติธรรมในสมัยคลินตัน ได้ยอมรับข้อเสนออย่างมีเงื่อนไขของโอบามาแล้ว เพื่อขึ้นเป็นรัฐมนตรียุติธรรม
ชาวเดโมแครตอาวุโสผู้นี้บอกด้วยว่า รัฐมนตรีกลาโหม รอเบิร์ต เกตส์ ก็ได้รับการทาบทามแล้วในเรื่องที่จะขอให้เขาอยู่ในตำแหน่งนี้ต่อไป
เป็นที่คาดว่าทีมรับผิดชอบการรับมอบอำนาจประธานาธิบดีของโอบามา กำลังตรวจสอบว่า กิจกรรมการกุศลและธุรกิจระหว่างประเทศของบิลล์ คลินตันในช่วงหลังจากหมดวาระประธานาธิบดีแล้ว จะทำให้เกิดปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่ หากฮิลลารี คลินตันรับตำแหน่งในคณะรัฐบาลชุดใหม่
หลังจากที่บิลล์ คลินตันลงจากตำแหน่งผู้นำทำเนียบขาวแล้ว เขามีธุรกิจที่คาดว่ามูลค่าอาจสูงถึง 100 ล้านดอลลาร์ ทั้งจากการเขียนหนังสือ และการกล่าวสุนทรพจน์ในที่ต่างๆ นอกจากนั้น เขายังมีบทบาทเป็นเสมือนทูตสัญจร และจัดตั้งมูลนิธิวิลเลียม เจฟเฟอร์สัน คลินตัน ระดมทุนหลายล้านดอลลาร์จากทั่วโลกเพื่อแก้ปัญหาโรคเอดส์ มาเลเรีย และสภาวะโลกร้อน ผู้เชี่ยวชาญบางรายระบุว่าเขาอาจต้องเปิดเผยรายชื่อของผู้บริจาคเงินสนับสนุนการจัดตั้งห้องสมุดประธานาธิบดีในรัฐอาร์คันซอส์ และมูลนิธิของเขาด้วย
“ควรมีข้อกำหนดตายตัวเรื่องการเปิดเผยข้อมูลเหล่านี้” ลาร์รี เซบาโต นักรัฐศาสตร์ประจำมหาวิทยาลัยเวอร์จิเนีย ให้ความเห็น “เพราะมีอย่างหนึ่งที่เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับบิลล์ คลินตันก็คือ ถ้าหากเขาสามารถโน้มน้าวให้คนยอมรับว่าไม่จำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลนี้ก็ได้ เขาจะทำ”
ทีมงานของโอบามาอาจขอให้คลินตันลดทอนกิจกรรมบางอย่างลงเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อน เมื่อภรรยาของเขารับตำแหน่งรัฐมนตรี ซึ่งผู้สนับสนุนคลินตันเชื่อว่าสองสามีภรรยาถูกเฝ้าจับตาดูอย่างใกล้ชิดมาตลอดหลายปีที่ผ่านมาจนไม่มีอะไรหลงเหลือให้ตรวจสอบอีกแล้ว ทั้งเชื่อว่าบิลล์ คลินตันปฏิบัติตามระเบียบเรื่องการเปิดเผยข้อมูลอย่างเข้มงวดมากกว่าอดีตประธานาธิบดีคนใดๆ ด้วยซ้ำไป
สตีเฟน เฮส ผู้เชี่ยวชาญด้านประธานาธิบดีสหรัฐฯ และได้เขียนหนังสือออกใหม่ชื่อ What Do We Do Now? -- A Workbook for the President-Elect (ขณะนี้เราทำอะไรกันอยู่หรือ? หนังสือแบบฝึกหัดสำหรับว่าที่ประธานาธิบดี) ซึ่งระบุว่าคงต้องใช้เวลาพอสมควรในการตรวจสอบครอบครัวคลินตัน แต่คาดว่าในที่สุดฮิลลารี คลินตันคงสามารถเข้ารับตำแหน่งสำคัญดังกล่าวได้
ทั้งนี้ทีมของโอบามาต้องการให้ผู้ที่จะเข้ารับตำแหน่งระดับสูงทั้งหมดได้รับการตรวจสอบประวัติอย่างละเอียด ซึ่งหมายความว่าพวกเขาจะต้องกรอกเอกสารถึง 7 หน้า โดยตอบคำถามทั้งหมด 63 คำถาม ที่ครอบคลุมทุกเรื่องตั้งแต่ข้อมูลฐานะการเงินส่วนบุคคลไปจนถึงเรื่องที่ว่าผู้ที่จะเข้ารับตำแหน่งดังกล่าวเคยเขียนอีเมลที่อาจจะสร้างปัญหาให้กับคณะรัฐบาลของโอบามาในวันข้างหน้าหรือไม่
แม้จะยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าครอบครัวคลินตันต้องกรอกเอกสารดังกล่าวนี้ด้วยหรือไม่ แต่แบบสอบถามนี้ก็มีวัตถุประสงค์ให้ฝ่ายบริหารมีความขาวสะอาดมากที่สุด เพื่อขจัดปัญหาอุปสรรคที่รัฐบาลชุดก่อนๆ เคยประสบมาแล้ว ดังเช่นในยุคของบิลล์ คลินตันเองก็เคยแต่งตั้งรัฐมนตรียุติธรรมที่ขาดคุณสมบัติ เนื่องจากว่าจ้างคนเลี้ยงเด็กซึ่งเป็นผู้อพยพเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย
สำหรับบุคคลอื่นๆ ที่จะเข้ามารับตำแหน่งสำคัญในคณะรัฐบาลโอบามา ชาวพรรคเดโมแครตระดับอาวุโสผู้หนึ่งเผยว่า โฮลเดอร์ ซึ่งเคยเป็นรัฐมนตรีช่วยยุติธรรมในสมัยคลินตัน ได้ยอมรับข้อเสนออย่างมีเงื่อนไขของโอบามาแล้ว เพื่อขึ้นเป็นรัฐมนตรียุติธรรม
ชาวเดโมแครตอาวุโสผู้นี้บอกด้วยว่า รัฐมนตรีกลาโหม รอเบิร์ต เกตส์ ก็ได้รับการทาบทามแล้วในเรื่องที่จะขอให้เขาอยู่ในตำแหน่งนี้ต่อไป
