ศุลกากรหนองคาย ติดตั้งเครื่องเอกซเรย์ตรวจสอบสัมภาระผู้โดยสารเข้าออกประเทศ ช่วยเสริมประสิทธิภาพเจ้าหน้าที่ป้องกันและปราบปรามปัญหาการลักลอบขนยาเสพติดเข้าประเทศ พร้อมเตรียมปรับนโยบายแนวรุกทั้งเจ้าหน้าที่และเทคโนโลยีเข้มงวดยาเสพติดชายแดน
เมื่อเร็วๆนี้ ที่ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย – ลาว ฝั่งขาเข้าประเทศ อ.เมืองหนองคาย นายภราดร พงษ์สุวรรณ นายด่านศุลกากรหนองคาย นายเผดิมเดช มั่งคั่ง หัวหน้าฝ่ายควบคุมทางศุลกากร ได้ตรวจติดตามการติดตั้งเครื่องเอกซเรย์ตรวจสอบสัมภาระและหีบห่อผู้โดยสารชนิดติดตั้งถาวร ที่นำเข้าจากประเทศจีน โดยบริษัทเอเอนุกเทคจำกัด เป็นผู้จัดจำหน่าย มูลค่า 2 ล้านบาท
เครื่องเอกซเรย์ดังกล่าวนี้ได้รับการสนับสนุนงบประมาณ จากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส. จัดสรรให้สำหรับติดตั้งที่ด่านสะพานมิตรภาพไทย – ลาว จ.หนองคาย 1 เครื่อง และด่านพิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี 1 เครื่อง
นายภราดร พงษ์สุวรรณ นายด่านศุลกากรหนองคาย กล่าวว่า เครื่องเอกซเรย์ตรวจสอบสัมภาระและหีบห่อผู้โดยสาร จะเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่จะนำมาใช้ในการสกัดกั้นยาเสพติด และสิ่งผิดกฎหมาย ซึ่งถือว่าเป็นการพัฒนาเครื่องมือ อุปกรณ์เทคโนโลยี ที่จะใช้สกัดกั้นป้องกันการลักลอบนำเข้ายาเสพติด ก่อนหน้านี้มีการนำเครื่องเอกซเรย์ตู้คอนเทนเนอร์และเครื่องเอกซเรย์ร่างกายบุคคลมาใช้
ที่ผ่านมาการใช้เครื่องมือเหล่านี้สามารถช่วยให้เจ้าหน้าที่ทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น จับกุมผู้ลักลอบนำเข้ายาเสพติดและสิ่งของผิดกฎหมายได้อย่างแม่นยำ นอกจากจะใช้งานภายในด่านสะพานมิตรภาพไทย – ลาว แล้ว การตรวจสอบพัสดุภัณฑ์ทางไปรษณีย์หรือหีบห่อต่าง ๆ ก็สามารถกระทำได้
ในช่วงแรกของการติดตั้ง เจ้าหน้าที่จากบริษัทผู้จัดจำหน่ายจะคอยแนะนำให้ความช่วยเหลือจนเจ้าหน้าที่มีความชำนาญในการใช้เครื่องมือ และในอนาคตด่านสะพานมิตรภาพไทย – ลาว จ.หนองคาย จะมีการนำเครื่องตรวจสารยาเสพติดแบบเคลื่อนที่มาติดตั้งเพิ่มเติมด้วย
เครื่องเอกซเรย์ตรวจสอบสัมภาระและหีบห่อผู้โดยสาร เป็นเทคโนโลยีการเอกซเรย์ตรวจหาสิ่งผิดกฎหมายรุ่นใหม่ของโลก ที่เป็นที่ยอมรับของนานาชาติ หลายประเทศได้นำเครื่องเอกซเรย์จากประเทศจีนไปใช้ โดย มีประเทศไทย บังกลาเทศ อาร์เจนตินา ตูนิเซีย และไอร์แลนด์ ซึ่งระบบเอกซเรย์ของเครื่องนี้จะไม่เป็นอันตรายต่อบุคคล ส่วนประสิทธิภาพในการตรวจจับและประสิทธิภาพการทำงานอยู่ในขั้นสูง
