นายวิทยา บูรณศิริ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรรัฐบาล(วิปรัฐบาล) กล่าวถึงการพิจารณา เพื่อบรรจุวาระการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 ที่มีกระแสข่าวว่าจะไม่มีการบรรจุญัตติการแก้ไขรัฐธรรมนูญในสมัยประชุมนี้ และสมัยวิสามัญว่า ไม่จริง เพราะภายใน1-2 วันนี้ ตนจะนัดหารือกับวิปวุฒิสภาว่าจะนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาหรือไม่ รวมทั้งจะหารือใน มาตรา 190 ด้วย เพราะประเด็นดังกล่าวถือเป็นปัญหาต่อการปฏิบัติหน้าที่ของส่วนราชการ ทั้งกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์
ทั้งนี้การเสนอญัตติแก้ไขมาตรา 291 ไม่ใช่เรื่องเลวร้าย แต่เป็นเรื่องที่ดี เป็นทางออกของปัญหา และยังเป็นไปตามนโยบายที่รัฐบาลแถลงไว้ต่อรัฐสภา เพราะหากการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นสิ่งที่ทุกคนคลางแคลงใจว่าจะแก้ไขเพื่อตัวเองหรือไม่ ฉะนั้นจึงต้องแก้ไข มาตรา 291 เพื่อให้มีการตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.3)
"วิปรัฐบาลจะยื่นญัตติดังกล่าวต่อนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา ภายในสมัยประชุมนี้อย่างแน่นอน เพื่อให้นายชัย บรรจุเป็นวาระการประชุม ส่วนจะนำเข้าสู่การพิจารณาหรือไม่ ก็เป็นอำนาจหน้าที่ของประธาน เพราะเมื่อมีสมาชิกรัฐสภายื่นในสิ่งที่ถูกต้อง ประธานก็ต้องพิจารณา" นายวิทยากล่าว
--------------
พิภพ ไม่เชื่อ วิปรัฐฯชงยื่นญัตติจริง ชี้แค่ซื้อเวลาให้ รบ. ลั่นเดินหน้าค้าน แก้ รธน.ให้โจร
นายพิภพ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า พันธมิตรฯขอยืนยันว่า จะเดินหน้าคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะเรื่องนี้เป็นเกมทางการเมือง เป็นการเคลื่อนไหวเพื่อช่วย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และนำไปสู่การร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรมให้กับ 111 กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย
"อย่าเพิ่งไปคิดว่าวิปรัฐบาลจะยื่นญัตติจริง แต่เป็นการแหย่ทางการเมือง ให้ประชาชนและนักวิชาการออกมาเคลื่อนไหว และรัฐบาลก็ต้องการที่จะให้เกิดความรุนแรง จะเห็นได้ว่ารัฐบาลเป็นผู้นิยมความรุนแรงเสียเอง ตรงนี้สังคมก็ควรที่จะต้องออกมายับยั้ง เพราะถ้ามีการเสนอญัตติเราจะคัดค้านอย่างแน่นอน" นายพิภพ กล่าว และว่า การที่วิปรัฐบาลออกมายืนยันเช่นนี้ จะต้องดูก่อนว่าเป็นความจริงแค่ไหน ต้องดูทางการเมืองว่ารัฐบาลจะแก้ไขมากน้อยแค่ไหน นอกจากนั้นยังเชื่อว่าการที่รัฐบาลพยายามทอดเวลา ด้วยการขอเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญเป็นการซื้อเวลาให้กับตัวเองเพื่อให้มีกิจกรรมทางการเมืองของตัวเองตลอดเวลา
นายพิภพ ยังกล่าวถึงกรณีที่คนในตระกูลชินวัตร มีแคนดิเดท ที่จะเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ว่า สังคมจะเห็นเองว่าคนในตระกูลนี้กำลังทำอะไรอยู่ และสังคมสมัยนี้มีความเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ซึ่งไม่สามารถที่จะทำให้เป็นการเมืองแบบตระกูลผูกขาดได้
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ จะลงรับสมัครผู้ว่าฯ กทม.นั้น เชื่อว่าเป็นเพียงข่าวลือ
ทั้งนี้การเสนอญัตติแก้ไขมาตรา 291 ไม่ใช่เรื่องเลวร้าย แต่เป็นเรื่องที่ดี เป็นทางออกของปัญหา และยังเป็นไปตามนโยบายที่รัฐบาลแถลงไว้ต่อรัฐสภา เพราะหากการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นสิ่งที่ทุกคนคลางแคลงใจว่าจะแก้ไขเพื่อตัวเองหรือไม่ ฉะนั้นจึงต้องแก้ไข มาตรา 291 เพื่อให้มีการตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.3)
"วิปรัฐบาลจะยื่นญัตติดังกล่าวต่อนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา ภายในสมัยประชุมนี้อย่างแน่นอน เพื่อให้นายชัย บรรจุเป็นวาระการประชุม ส่วนจะนำเข้าสู่การพิจารณาหรือไม่ ก็เป็นอำนาจหน้าที่ของประธาน เพราะเมื่อมีสมาชิกรัฐสภายื่นในสิ่งที่ถูกต้อง ประธานก็ต้องพิจารณา" นายวิทยากล่าว
--------------
พิภพ ไม่เชื่อ วิปรัฐฯชงยื่นญัตติจริง ชี้แค่ซื้อเวลาให้ รบ. ลั่นเดินหน้าค้าน แก้ รธน.ให้โจร
นายพิภพ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า พันธมิตรฯขอยืนยันว่า จะเดินหน้าคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะเรื่องนี้เป็นเกมทางการเมือง เป็นการเคลื่อนไหวเพื่อช่วย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และนำไปสู่การร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรมให้กับ 111 กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย
"อย่าเพิ่งไปคิดว่าวิปรัฐบาลจะยื่นญัตติจริง แต่เป็นการแหย่ทางการเมือง ให้ประชาชนและนักวิชาการออกมาเคลื่อนไหว และรัฐบาลก็ต้องการที่จะให้เกิดความรุนแรง จะเห็นได้ว่ารัฐบาลเป็นผู้นิยมความรุนแรงเสียเอง ตรงนี้สังคมก็ควรที่จะต้องออกมายับยั้ง เพราะถ้ามีการเสนอญัตติเราจะคัดค้านอย่างแน่นอน" นายพิภพ กล่าว และว่า การที่วิปรัฐบาลออกมายืนยันเช่นนี้ จะต้องดูก่อนว่าเป็นความจริงแค่ไหน ต้องดูทางการเมืองว่ารัฐบาลจะแก้ไขมากน้อยแค่ไหน นอกจากนั้นยังเชื่อว่าการที่รัฐบาลพยายามทอดเวลา ด้วยการขอเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญเป็นการซื้อเวลาให้กับตัวเองเพื่อให้มีกิจกรรมทางการเมืองของตัวเองตลอดเวลา
นายพิภพ ยังกล่าวถึงกรณีที่คนในตระกูลชินวัตร มีแคนดิเดท ที่จะเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ว่า สังคมจะเห็นเองว่าคนในตระกูลนี้กำลังทำอะไรอยู่ และสังคมสมัยนี้มีความเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ซึ่งไม่สามารถที่จะทำให้เป็นการเมืองแบบตระกูลผูกขาดได้
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ จะลงรับสมัครผู้ว่าฯ กทม.นั้น เชื่อว่าเป็นเพียงข่าวลือ
