ผู้จัดการรายวัน – ผลประกอบกาบริษัทอสังหาริมทรัพย์ในรอบ 9 เดือน ยังไม่ตก ชีสาเหตุหลักอานิสงส์จากมาตรการภาษีช่วยลดค่าใช้จ่าย เพิ่มกำไร ส่วนบริษัทพัฒนาคอนโดฯรายได้โตยกแผงรับผลดีจากการโอนคอนโดฯ ด้าน NC ยอดขายตกส่งผลขาดทุนต่อเนื่อง ส่วนแผ่นดินทองไม่น้อยหน้ารายได้วูบเกือบ 50% ฉ
แม้ว่าเศรษฐกิจโดยรวมของไทยมีการชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจโลก จนทำให้ผู้ประกอบการส่วนใหญ่มีความกังวลต่อภาวะตลาดที่การขายชะลอตัว จากความไม่เชื่อมั่นของผู้บริโภค รวมไปความไม่สงบทางการเมือง ที่เริ่มมีการชุมนุมประท้วงในช่วงเดือนมิถุนายน
ส่วนภาวะปัจจัยลบจากวิฤตการเงินโลกนั้น จุดศูนย์กลางอยู่ที่สหรัฐอเมริกา และกลุ่มประเทศมหาอำนาจทางการเงิน แต่สำหรับประเทศไทยนั้นไม่ได้รับผลกระทบโดยตรง แต่การลดการบริโภคลงของประเทศส่งออกหลักทำให้ไทยได้รับผลกระทบตามมาในภายหลังและเริ่มเห็นผลในช่วงปลายไตรมาส 3
นอกจากนี้ในช่วง 1-2 ปีก่อนหน้านี้ตลาดคอนโดมิเนียมได้รับความนิยมอย่างมาก ซึ่งโครงการที่ถูกขายออกไปจะใช้เวลาก่อสร้าง 1-2 ปี ทำให้โครงการส่วนใหญ่ทยอยโอนมาจนถึงปัจจุบันและต่อเนื่องไปในอนาคต สาเหตุข้างต้นจึงสะท้อนออกมาในผลการะดำเนินงานของบริษัทที่เป็นบวก
อย่างไรก็ดี นับจากปลายปี 2550 เป็นต้นมาราคาวัสดุก่อสร้างได้ปรับตัวขึ้นสูงมากจากราคาน้ำมัน ส่งผลให้ผู้บริโภคมีความกังวลว่าราคาอสังหาฯจะเพิ่มสูงขึ้นในอนาคตทำให้เร่งตัดสินใจซื้อ กอปรกับได้รับอานิสงส์จากมาตรการภาษีอสังหาริมทรัพย์ ที่ออกมาในวันที่ 28 มีนาคม 51 ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายแก่ผู้บริโภคทำให้ส่วนช่วยกระตุ้นการตัดสินใจซื้อได้เป็นอย่างดี อีกทั้งผู้ประกอบการยังได้รับอานิสงส์ค่าใช้จ่ายในส่วนของภาษีลดลง ทำให้รายได้เพิ่มขึ้น
โดยบริษัท เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ได้ชีแจงว่า สาเหตุหลักที่ทำให้ขอชี้แจงผลการดำเนินงาน มีกำไรสุทธิในไตรมาส 3/51 เพิ่มขึ้นร้อยละ 85.3 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ว่ามีสาเหตุหลักมาจากรายได้รวมเพิ่มขึ้น นอกจากนี้อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 33.4 ในไตรมาส 3/50 เป็นร้อยละ 34.3 เนื่องจากในไตรมาส 3/51 มีการรับรู้รายได้จากโครงการคอนโดมิเนียมซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นสูง ในสัดส่วนร้อยละ 50 ของรายได้รวม ในขณะที่ในไตรมาส 3/50 มีการรับรู้รายได้จากโครงการคอนโดมิเนียม ร้อยละ 43 เท่านั้น นอกจากนี้การลดภาษีธุรกิจเฉพาะและค่าธรรมเนียมการโอนที่มีผลบังคับใช้ในไตรมาส 2/51 ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลง
บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ผลประกอบการในไตรมาสนี้เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนเนื่องจากบริษัท ฯ มียอดขายที่รอส่งมอบทั้งอาคารชุดและบ้านจำนวนมากที่มาโอนกรรมสิทธิ์ในไตรมาสนี้ กอปรกับประโยชน์จากมาตรการการลดอัตราภาษีธุรกิจเฉพาะอัตรา ค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์และค่าจดจำนอง ส่งผลให้บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีรายได้เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปี ก่อนเกือบเท่าตัว รวมถึงค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลงอยู่ที่ระดับ 9 % ของรายได้รวม ขณะที่งวดเดียวกันของปีก่อน 15 % ของรายได้รวม นอกจากนี้ ผลของการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวในไตรมาส 3 และภาระภาษีธุรกิจเฉพาะและค่าธรรมเนียมโอนลดลง ส่งผลให้กำไรสุทธิของบริษัทเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ บริษัท แสนสริ จำกัด (มหาชน) ได้ชีแจงว่าสาเหตุการเปลี่ยนแปลงของผลการดำเนินงานของบริษัท ผลประกอบการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในไตรมาส 3 สาเหตุหลักมาจากรายได้จากการขายโครงการที่เติบโตขึ้นในมูลค่าที่สูงขึ้นมากประมาณ 1,122 ล้านบาท เป็น 4,021 ล้านบาท เนื่องจากการรับรู้โครงการคอนโดมิเนียมที่เพิ่มมากขึ้น กอปรกับอัตราค่าใช้จ่ายรวมต่อรายได้ลดลง อย่างมีสาระเป็นร้อยละ 14 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่ร้อยละ 22 หรือลดลงถึงร้อยละ 37 เหตุดังกล่าวเป็นประเด็นที่สำคัญอันส่งผลให้ผลการดำเนินงานของบริษัทและบริษัทย่อยเปลี่ยนแปลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเกินกว่าร้อยละ 20
ส่วนบริษัทที่มีผลการดำเนินที่ลดลงนั้นส่วนหนึ่งมาจากขายสินค้าประเภทเดียว และกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ อาทิ บริษัท เอ็น.ซี. เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) ชีแจงว่าสาเหตุที่ผลการดำเนินงานของบริษัทขาดทุนสุทธิ 49.01 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2550 ซึ่งขาดทุนสุทธิ 41.33 ล้านบาท มีสาเหตุหลักมาจาก บริษัทฯ มีรายได้จากการขายลดลงทำให้ยอดโอนลดลง และรายได้จากการบริการลดลง เนื่องจากภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ และการชะลอการ ตัดสินใจซื้อบ้านของผู้บริโภค
สำหรับ บริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ได้ให้เหตุผลว่า การแข่งขันที่สูง รวมทั้งราคาน้ำมันและราคาวัสดุก่อสร้างที่เพิ่มขึ้น ได้ส่งผลต่อการประกอบการของบริษัทมีผลการดำเนินงานที่ลดลง โดยในงวดเก้าเดือนบริษัทมีกำไรสุทธิจำนวน 9 ล้านบาท ในขณะที่งวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรถึง 939 ล้านบาท เนื่องจากการรับรู้รายได้ของขายลดลงในโครงการบ้านเดี่ยว รวมทั้งการบันทึกรายได้ที่ลดลงของโครงการ ดิ อินฟินิตี้ เนื่องจากการก่อสร้างคอนโดมิเนียมของโครงการได้แล้วเสร็จในเดือนพฤษภาคม ปี 2551
แม้ว่าเศรษฐกิจโดยรวมของไทยมีการชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจโลก จนทำให้ผู้ประกอบการส่วนใหญ่มีความกังวลต่อภาวะตลาดที่การขายชะลอตัว จากความไม่เชื่อมั่นของผู้บริโภค รวมไปความไม่สงบทางการเมือง ที่เริ่มมีการชุมนุมประท้วงในช่วงเดือนมิถุนายน
ส่วนภาวะปัจจัยลบจากวิฤตการเงินโลกนั้น จุดศูนย์กลางอยู่ที่สหรัฐอเมริกา และกลุ่มประเทศมหาอำนาจทางการเงิน แต่สำหรับประเทศไทยนั้นไม่ได้รับผลกระทบโดยตรง แต่การลดการบริโภคลงของประเทศส่งออกหลักทำให้ไทยได้รับผลกระทบตามมาในภายหลังและเริ่มเห็นผลในช่วงปลายไตรมาส 3
นอกจากนี้ในช่วง 1-2 ปีก่อนหน้านี้ตลาดคอนโดมิเนียมได้รับความนิยมอย่างมาก ซึ่งโครงการที่ถูกขายออกไปจะใช้เวลาก่อสร้าง 1-2 ปี ทำให้โครงการส่วนใหญ่ทยอยโอนมาจนถึงปัจจุบันและต่อเนื่องไปในอนาคต สาเหตุข้างต้นจึงสะท้อนออกมาในผลการะดำเนินงานของบริษัทที่เป็นบวก
อย่างไรก็ดี นับจากปลายปี 2550 เป็นต้นมาราคาวัสดุก่อสร้างได้ปรับตัวขึ้นสูงมากจากราคาน้ำมัน ส่งผลให้ผู้บริโภคมีความกังวลว่าราคาอสังหาฯจะเพิ่มสูงขึ้นในอนาคตทำให้เร่งตัดสินใจซื้อ กอปรกับได้รับอานิสงส์จากมาตรการภาษีอสังหาริมทรัพย์ ที่ออกมาในวันที่ 28 มีนาคม 51 ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายแก่ผู้บริโภคทำให้ส่วนช่วยกระตุ้นการตัดสินใจซื้อได้เป็นอย่างดี อีกทั้งผู้ประกอบการยังได้รับอานิสงส์ค่าใช้จ่ายในส่วนของภาษีลดลง ทำให้รายได้เพิ่มขึ้น
โดยบริษัท เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ได้ชีแจงว่า สาเหตุหลักที่ทำให้ขอชี้แจงผลการดำเนินงาน มีกำไรสุทธิในไตรมาส 3/51 เพิ่มขึ้นร้อยละ 85.3 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ว่ามีสาเหตุหลักมาจากรายได้รวมเพิ่มขึ้น นอกจากนี้อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 33.4 ในไตรมาส 3/50 เป็นร้อยละ 34.3 เนื่องจากในไตรมาส 3/51 มีการรับรู้รายได้จากโครงการคอนโดมิเนียมซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นสูง ในสัดส่วนร้อยละ 50 ของรายได้รวม ในขณะที่ในไตรมาส 3/50 มีการรับรู้รายได้จากโครงการคอนโดมิเนียม ร้อยละ 43 เท่านั้น นอกจากนี้การลดภาษีธุรกิจเฉพาะและค่าธรรมเนียมการโอนที่มีผลบังคับใช้ในไตรมาส 2/51 ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลง
บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ผลประกอบการในไตรมาสนี้เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนเนื่องจากบริษัท ฯ มียอดขายที่รอส่งมอบทั้งอาคารชุดและบ้านจำนวนมากที่มาโอนกรรมสิทธิ์ในไตรมาสนี้ กอปรกับประโยชน์จากมาตรการการลดอัตราภาษีธุรกิจเฉพาะอัตรา ค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์และค่าจดจำนอง ส่งผลให้บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีรายได้เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปี ก่อนเกือบเท่าตัว รวมถึงค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลงอยู่ที่ระดับ 9 % ของรายได้รวม ขณะที่งวดเดียวกันของปีก่อน 15 % ของรายได้รวม นอกจากนี้ ผลของการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวในไตรมาส 3 และภาระภาษีธุรกิจเฉพาะและค่าธรรมเนียมโอนลดลง ส่งผลให้กำไรสุทธิของบริษัทเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ บริษัท แสนสริ จำกัด (มหาชน) ได้ชีแจงว่าสาเหตุการเปลี่ยนแปลงของผลการดำเนินงานของบริษัท ผลประกอบการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในไตรมาส 3 สาเหตุหลักมาจากรายได้จากการขายโครงการที่เติบโตขึ้นในมูลค่าที่สูงขึ้นมากประมาณ 1,122 ล้านบาท เป็น 4,021 ล้านบาท เนื่องจากการรับรู้โครงการคอนโดมิเนียมที่เพิ่มมากขึ้น กอปรกับอัตราค่าใช้จ่ายรวมต่อรายได้ลดลง อย่างมีสาระเป็นร้อยละ 14 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่ร้อยละ 22 หรือลดลงถึงร้อยละ 37 เหตุดังกล่าวเป็นประเด็นที่สำคัญอันส่งผลให้ผลการดำเนินงานของบริษัทและบริษัทย่อยเปลี่ยนแปลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเกินกว่าร้อยละ 20
ส่วนบริษัทที่มีผลการดำเนินที่ลดลงนั้นส่วนหนึ่งมาจากขายสินค้าประเภทเดียว และกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ อาทิ บริษัท เอ็น.ซี. เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) ชีแจงว่าสาเหตุที่ผลการดำเนินงานของบริษัทขาดทุนสุทธิ 49.01 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2550 ซึ่งขาดทุนสุทธิ 41.33 ล้านบาท มีสาเหตุหลักมาจาก บริษัทฯ มีรายได้จากการขายลดลงทำให้ยอดโอนลดลง และรายได้จากการบริการลดลง เนื่องจากภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ และการชะลอการ ตัดสินใจซื้อบ้านของผู้บริโภค
สำหรับ บริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ได้ให้เหตุผลว่า การแข่งขันที่สูง รวมทั้งราคาน้ำมันและราคาวัสดุก่อสร้างที่เพิ่มขึ้น ได้ส่งผลต่อการประกอบการของบริษัทมีผลการดำเนินงานที่ลดลง โดยในงวดเก้าเดือนบริษัทมีกำไรสุทธิจำนวน 9 ล้านบาท ในขณะที่งวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรถึง 939 ล้านบาท เนื่องจากการรับรู้รายได้ของขายลดลงในโครงการบ้านเดี่ยว รวมทั้งการบันทึกรายได้ที่ลดลงของโครงการ ดิ อินฟินิตี้ เนื่องจากการก่อสร้างคอนโดมิเนียมของโครงการได้แล้วเสร็จในเดือนพฤษภาคม ปี 2551
