xs
xsm
sm
md
lg

โออิชิปรับดิสทริบิวเตอร์เครื่องดื่มชูพรีเซ็นเตอร์-หั่นราคาดันคอฟฟิโอ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน – โออิชิปรับระบบจัดจำหน่าย ดึงไทยเบฟฯรับผิดชอบกลุ่มเครื่องดื่มทั้งหมด ยกเว้นชาเขียวโออิชิที่ยังเป็นเสริมสุขเหมือนเดิม เปิดแผนรุกกาแฟคอฟฟิโอ ทุ่มอีก 100 ล้านแค่ 2 เดือนท้ายปี หั่นราคาลง 5 บาท เปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ขยายฐานกลุ่มวัยรุ่น

นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯได้ปรับดิสทริบิวเตอร์ผลิตภัณฑ์กลุ่มเครื่องดื่ม โดยจะมีบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เป็นดิสทริบิวเตอร์เครื่องดื่มทุกแบรนด์ทั้งในเครือโออิชิเช่น คอฟฟิโอ อะมิโนโอเค เป็นต้น ยกเว้นเครื่องดื่มชาเขียวโออิชิเท่านั้น โดยจะเริ่มเป็นทางการวันที่ 1 ธันวาคม 2551 นี้ แทนบริษัท ดีทแฮล์ม จำกัด ที่เป็นผู้จัดจำหน่ายรายเดิม ส่วนเครื่องดื่มชาเขียวโออิชินั้นยังคงอยู่ในความรับผิดชอบของบริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) เป็นดิสทริบิวเตอร์เหมือนเดิม
โดยการได้ไทยเบฟฯครั้งนี้จะทำให้กาแฟคอฟฟิโอสามารถขยายฐานช่องทางตลาดเทรดดิชันแนลเทรดมากขึ้น จากเดิมที่บริษัทฯจะมีช่องทางหลักอยู่ที่โมเดิร์นเทรดเท่านั้นมากกว่า 80% โดยเฉพาะกาแฟสดคั่วบดพรีเมียมคอฟฟิโอ สินค้าใหม่ในเครือซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งนการดำเนินตลาดเชิงรุกของกาแฟคอฟฟิโอจากนี้ไป
ปัจจุบันมียอดขายคอฟฟิโอ 300 ล้านบาท และคาดว่าสิ้นปีนี้จะมียอดขายรวม 500 ล้านบาทและตั้งเป้ายอดขายคอฟฟิโอปีหน้าที่ 1,000 ล้านบาทโดยแผนตลาดนั้น ล่าสุดได้ปรับลดราคาคอฟฟิโอลงมาเหลือ 20 บาทจากเดิมราคา 25 บาท เพราเศรษฐกิจไม่ดีกำลังซื้อลด อีกทั้งการเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ 3 คนคือ บุรินทร์ บุญวิสุทธิ์ นักร้องนำวงกรู๊ฟไรเดอร์, ศรุดา นิ่มพิทักษ์พงศ์ ดีไซน์เนอร์เจ้าของแบรนด์ KUNITAR และ วิชชพัชร์ โกจิ๋ว ผู้กำกับภาพยนตร์ ซึ่งจะมีผลช่วยให้ขยายฐานกลุ่มผู้ดื่มได้มากขึ้น จากเดิมเป็นกลุ่มผู้ใหญ่ที่ชื่นชอบกาแฟสดพรีเมียม เพราะแต่ละคนที่เป็นพรีเซ็นเตอร์ถือเป็นไอดอลในแต่ละวงการและเป็นครั้งแรกที่โออิชิกรุ๊ปใช้พรีเซ็นเตอร์
ทั้งนี้บริษัทฯได้ใช้งบตลาดรวม 200 ล้านบาท โดยก่อนหน้านี้ใช้ไปแล้ว 100 ล้านบาท และในช่วง 2 เดือนท้ายปีนี้จะใช้อีก 100 ล้านบาท ทั้งการจัดกิจกรรม โรดโชว์ แจกสินค้า หนังโฆษณา เป็นต้น
นายตันกล่าวต่อว่า ปีนี้คาดว่าบริษัทฯจะมีรายได้รวมทั้งประมาณ 6,000 ล้านบาท เพิ่มจากปีที่แล้วที่ทำได้ 4,800 ล้านบาท สัดส่วนรายได้เป็น เครื่องดื่ม 55% และอาหาร 45% ซึ่งปีหน้าจะปรับสัดส่วนรายได้ให้เท่ากัน
สำหรับตลาดรวมกาแฟมีประมาณ 20,000 ล้านบาท แบ่งเป็น กาแฟพรีเมียมตามร้านกาแฟ 20% เติบโต 5-7% และอีก 80% เป็นกาแฟอินสแตนท์
กำลังโหลดความคิดเห็น