ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ร้านติดตั้งแก๊สแอลพีจี และเอ็นจีวีใน จ.สงขลาซบเซาอย่างหนัก ลูกค้าเมินหลังจากที่ราคาน้ำมันลดลงมาอย่างต่อเนื่อง สัดส่วนที่นำรถมาติดตั้งแก๊สหายไปกว่า 80% หวังพึ่งพิงรัฐบาลให้ช่วยสนับสนุนต่อไป ผู้ประกอบการเผยใช้กลยุทธ์ปรับลดราคา เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าหันมาติดตั้งแก๊ส ในสภาวะที่เศรษฐกิจกำลังผันผวน หากไม่สามารถกู้ทุนคืนได้ บรรดาอู่ติดตั้งถังแก๊สก็จะหันไปประกอบกิจการอื่นแทน
ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา การติดตั้งแก๊สแอลพีจีและเอ็นจีวีในรถยนต์ได้รับความนิยมสูงสุด เพื่อเป็นทางเลือกหนึ่งที่หลีกเลี่ยงการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงซึ่งราคาแพง ทำให้เกิดธุรกิจรับติดตั้งทั้งรายย่อยและรายใหญ่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะแอลพีจี ซึ่งมีอู่และช่างผันตัวรับติดตั้งรับกระแสบานสะพรั่ง แต่ในห้วงที่ราคาน้ำมันอ่อนตัวส่งผลดีต่อผู้ใช้รถยนต์ทุกชนิด แต่สำหรับผู้ประกอบการรับติดตั้งและผู้ให้บริการกลับได้รับความเดือดร้อนในขณะนี้
นายภควัตร ศิริมหาชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็นจีวี พาวเวอร์ จำกัด ผู้ให้บริการติดแก๊สเอ็นจีวีระบบมาตรฐานจาก ปตท. เปิดเผยว่า ช่วงนี้ราคาน้ำมันลดลงทำให้ยอดลูกค้าหายไปราว 70% บริษัทฯ จึงหันมาเน้นการบำรุงรักษาเครื่องยนต์เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ดูแลรักษาเปลี่ยนถ่ายอะไหล่แก๊ส กรองอากาศ กรองแก๊ส ส่วนอู่ติดตั้งเอ็นจีวีรถใหญ่ ยังคงมีเข้ามารับบริการอยู่ตามเดิม
ช่วงนี้ได้ปรับกลยุทธ์หันมาจัดแคมเปญลดราคาติดตั้งลง เนื่องจากอุปกรณ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศถูกลงทั้งราคาเหล็กที่ปรับลดลงค่าเงินบาทที่แข็งขึ้น จากการที่ได้สั่งออเดอร์ไว้ในสต๊อกทำให้อุปกรณ์การติดตั้งถูกลง โดยปรับลดค่าบริการติดตั้งระบบดูดเครื่องยนต์ 4 สูบถังขนาด 70 ลิตร จากเดิม 46,000 บาทเหลือ 41,000 บาท ระบบหัวฉีด 4 สูบ 5 ถัง 70 ลิตร จากเดิม 64,000 บาทเหลือ 51,000 บาท เครื่องยนต์ 6 สูบถังขนาด 100 ลิตร จากเดิม 76,000 บาทเหลือ 59,000 บาท
“ช่วงนี้ถือเป็นโอกาสทองของลูกค้ามารับบริการสามารถติดตั้งได้ เลยแถมราคาถูกลงจากเดิมมาก จากต้นทุนอุปกรณ์ที่ปรับลดลง เราก็ลดลงมาให้ และในปีหน้าสถานีเอ็นจีวีแม่ที่จะนะจะเสร็จพอดี ตอนนี้ก่อสร้างคืบหน้าไปกว่า 80 % แล้ว ต่อไปจะมีแก๊สอย่างเพียงพอไม่ต้องรอนาน และเมื่อคิดต้นทุนน้ำมันแม้จะถูกแต่ก็ยังแพงกว่าแก๊สเอ็นจีวีมาก รัฐบาลยังคงให้การสนับสนุนต่อไป เพียงแต่ตอนนี้ลูกค้าอาจยังชะลอการตัดสินใจ คิดว่าปีหน้าคงจะกลับมาใช้บริการเดิม” นายภควัตรกล่าว
ด้านนางหนูทิพย์ คงทิพย์พยัคฆ์ เจ้าของร้านโอเคโมโต้แอร์ ซึ่งเป็นผู้รับติดตั้งแอลพีจีรถยนต์เป็นเจ้าแรกๆ ของ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เปิดเผยว่า กล่าวว่า หลังจากที่น้ำมันเริ่มปรับราคาลงมาอย่างต่อเนื่องเมื่อประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมา ส่งผลทำให้ลูกค้าเข้ามาติดตั้งแก๊สแอลพีจีลดลงไปอย่างเห็นได้ชัด จากเดิมมีลูกค้ามาใช้บริการโดยเฉลี่ยวันละ 1-2 คัน และมีการจองคิวล่วงหน้าอีกไม่ต่ำกว่า 30-40 คัน
แต่หลังจากที่ราคาน้ำมันลดลงมาก็ทำให้ลูกค้าเริ่มลดน้อยลงเรื่อยๆ เดือนที่ผ่านมามีลูกค้าเข้ามาติดตั้งเพียงแค่ 2 คันเท่านั้น และแทบจะไม่มีลูกค้าแวะเวียนเข้ามาเลยทำให้กิจการชะงัก ประกอบกับมีข่าวว่าแก๊สสำหรับรถยนต์จะขึ้นราคายิ่งทำให้ลูกค้าเกิดความลังเลว่าจะไม่คุ้มทุนกับการลงทุนติดแก๊ส
นางหนูทิพย์ กล่าวต่อด้วยว่า ถ้าหากสถานการณ์ยังเป็นแบบนี้ก็คงจะมีร้านติดตั้งต่างๆ ที่เปิดกันเยอะมากในช่วงหลังนี้ ก็ต้องเดือดร้อนตามๆ กัน ต้องปิดกิจการหรือปรับเปลี่ยนไปทำอย่างอื่นแทนต่อไป เพราะเป็นผลกระทบใหญ่ เพราะแต่ละร้านก็จะมีสต๊อกสินค้าถ้าไม่มีลูกค้าใช้บริการทุนก็จะจม จึงต้องหาทางระบายอุปกรณ์ที่ซื้อมาสต๊อกเป็นจำนวนมากให้หมดก่อน แต่สำหรับที่ร้านโชคดีที่ร้านมีงานอย่างอื่นมาเสริม คือ ติดตั้งและซ่อมแอร์ซึ่งจะเป็นงานหลักแทน” นางหนูทิพย์กล่าวต่อและว่า
นอกจากลูกค้าจะลดจำนวนลงแล้ว ค่าบริการติดตั้งระบบแก๊สแอลพีจี ก็มีการปรับลดราคาลงมาเช่นกัน เนื่องจากราคาอุปกรณ์ก็ถูกลง โดยค่าอุปกรณ์รวมค่าติดตั้งรถยนต์ 4 สูบ ลดลงมาอยู่ที่ 35,000 บาท จากเดิมที่เคยติดตั้งในราคา 45,000 บาท ส่วนระบบดูดตอนนี้ราคาอยู่ที่ 16,000 จากเดิม 24,000 บาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระบบเครื่องยนต์
“จากเดิมที่ธุรกิจเคยบูมสุดขีดก็คิดว่าจะไปเปิดปั๊มแอลพีจีที่ จ.ตรัง เพราะช่วงก่อนหน้านี้ราคาน้ำมันแพง ทำให้คนหันมาใช้รถติดแก๊สกันมากขึ้น และเมื่อศึกษาแล้วใช้เงินทุนไม่สูงเท่ากับเอ็นจีวี คือมีเงินราว 3 ล้านบาทก็ทำได้ และเป็นธุรกิจที่สามารถส่งต่อถึงรุ่นลูกได้ด้วย จึงให้ลูกไปศึกษาการติดตั้งเพิ่มเติม แต่ปัจจุบันสถานการณ์กลับพลิกผัน ขอแค่ได้ระบายของในสต๊อกหมดก็คงจะไม่ทำด้านนี้แล้ว” นางหนูทิพย์กล่าว
นายอนันตสิทธิ์ วิรัชธนกุล เจ้าของกิจการ เอวี ออโต้แก๊ส หนึ่งในผู้ประกอบการรับติดตั้งแก๊สรถยนต์ทุกระบบใน จ.สงขลา กล่าวว่า จากภาวะราคาน้ำมันที่ลดต่ำลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ผู้ใช้รถยนต์นำรถมาติดตั้งแก๊สลดลง จากในช่วงที่ราคาน้ำมันแพงมีรถมาใช้บริการติดตั้งแก๊สเดือนละกว่า 100 คันจนต้องจองคิวล่วงหน้าเพราะทำไม่ทัน แต่ขณะนี้ในแต่ละเดือนมีรถมาติดตั้งแก๊สไม่ถึง 20 คัน ซึ่งสัดส่วนของผู้ใช้บริการหายไปกว่า 80 %
โดยเฉพาะในกลุ่มของผู้ใช้รถยนต์ส่วนตัวต่างชะลอนำรถมาติดตั้งแก๊สเพราะราคาน้ำมันลดต่ำลง ที่เหลืออยู่จึงเป็นกลุ่มของรถยนต์รับจ้างหรือรถโดยสารที่ต้องวิ่งตลอดทั้งวัน เช่น รถตุ๊กตุ๊ก และรถตู้ กิจการรับติดตั้งแก๊สรถยนต์ขณะนี้จึงซบเซาอย่างหนัก
ผู้ประกอบการรับติดตั้งแก๊สรถยนต์จึงต้องปรับตัวโดยกลยุทธ์หนึ่ง คือ ลดราคาการติดตั้ง โดยขณะนี้การติดตั้งแก๊สระบบมิกเซอร์หรือระบบดูดจะอยู่ที่คันละ 15,000บาท จากเดิม 23,000 บาท ส่วนระบบหัวฉีดคันละ 35,000 บาท จากเดิม 40,000 บาท โดยเป็นราคาที่ใกล้เคียงกับกรุงเทพฯ