xs
xsm
sm
md
lg

ศรีไทยฯร่วมทุนเกาหลีขยายล็อกฯทั่วอาเซียน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน – ศรีไทยฯ เดินหน้าร่วมทุนบริษัทแดนโสมล็อกแอนด์ล็อก ผุดบริษัท ศรีไทย ซุปเปอร์แวร์ ลุยขยายธุรกิจในและต่างประเทศ ชูความได้เปรียบภาษีนำเข้าลดลง อัดกลยุทธ์มัลติชาแนลทะลวงคนไทย
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการ บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯได้ร่วมทุนกับล็อกแอนด์ล็อก จากประเทศเกาหลี ตั้งบริษัท ศรีไทย ซุปเปอร์แวร์ ล็อกแอนด์ล็อก จำกัด ขึ้น ด้วยทุนจดทะเบียน 17 ล้านบาท โดยบริษัท ศรีไทย ซุปเปอร์แวร์ ถือหุ้นสัดส่วน 51% และบริษัทล็อกแอนด์ล็อก 49% ซึ่งการร่วมทุนดังกล่าว เพื่อขยายธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศร่วมกัน โดยเป้าหมายของศรีไทยต้องการสร้างแบรนด์ไปสู่โกลเบิ้ลแบรนด์ ซึ่งวางแผนในเชิงรุกปีหน้านี้ผ่านทางเอเยนต์เป็นหลัก ในขณะที่ล็อกแอนด์ล็อกต้องการขยายตลาดอาเซียน ทั้งนี้บริษัทล็อกแอนด์ล็อกเป็นผู้ดำเนินกลยุทธ์การตลาด ส่วนบริษัทศรีไทยบริหารด้านการจัดการ และการดำเนินการ
สำหรับการร่วมทุนในครั้งนี้ บริษัทล็อกแอนด์ล็อกมีศักยภาพด้านการพัฒนาบรรจุภัณฑ์สูญญากาศ เครื่องแก้ว เซรามิก โดยมีสินค้ากว่า 500 รายการ ส่วนบริษัทเป็นผู้ผลิตเม็ดพลาสติก เมลามีน ทำให้เสริมศักยภาพซึ่งกันและกัน นอกจากนี้ยังมีผลทำให้ภาษีนำเข้าผลิตภัณฑ์ล็อกแอนด์ล็อกจากประเทศจีน ซึ่งเป็นผลมาจากเอฟทีเอ ลดลงจาก 30% เป็น 12% ส่วนในเวียดนามซึ่งบริษัทศรีไทยมีโรงงานผลิตเม็ดพลาสติก เมลามีน ส่วนล็อกแอนด์ล็อกมีโรงงานผลิตสินค้า ดังนั้นคาดว่าภาษีนำเข้าลดลงจาก 30% เป็นเหลือ 5% และคาดว่าภายใน 2-3 ปี ไม่ต้องเสียภาษีนำเข้า อย่างไรก็ตามบริษัทได้วางเป้าหมายว่าในปี 2553 จะเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 200 ล้านบาท
นายสนั่น กล่าวว่า การร่วมทุนในครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งแรกของล็อกแอนด์ล็อก จากปกติจะเป็นผู้ลงทุนเองทั้งหมด อีกทั้งยังเป็นการทำโคแบรนด์ร่วมกันภายใต้ชื่อ ศรีไทย ล็อกแอนด์ล็อก และร่วมกันเปิดแฟลกชิก ชอป ขึ้น ซึ่งในปีหน้านี้บริษัททุ่มงบ 10 ล้านบาท เปิด 3 สาขา เช่น พัทยา เป็นต้น  สำหรับการดำเนินการตลาดในไทยมุ่งเน้นมัลติมาร์เก็ตติงชาแนล หรือจำหน่ายผ่านช่องทางหลากหลาย อาทิ ขายตรง ห้างสรรพสินค้า และแฟลกชิป สำหรับสิ้นปีนี้ตั้งเป้ารายได้ 140 ล้านบาท เกินเป้าหมายที่ตั้งเป้า 100 ล้านบาท ส่วนในปีหน้านี้ตั้งเป้า 300 ล้านบาท
นายคิม จูน ประธาน บริษัท ล็อกแอนด์ล็อก จำกัด มหาชน กล่าวว่า การร่วมทุนดังกล่าวเนื่องจากบริษัทต้องการขยายตลาดอาเซียน โดยบริษัทจะโฟกัสตลาดในประเทศไทยและเวียดนามเป็นหลัก  ส่วนวิกฤตเศรษฐกิจโลกมองว่าในภูมิภาคเอเชียได้รับผลกระทบน้อย อย่างไรก็ตามจากการร่วมทุนในครั้งนี้จะผลักดันให้บริษัทร่วมทุนมีอัตราการเติบโต 170% ต่อปี  หรือมีรายได้ 9 ล้านดอลลาร์ จากปกติมีอัตราการเติบโต 160% ส่วนปีนี้ตั้งเป้ารายได้ 4 ล้านดอลลาร์
**ศรีไทยสวนกระแสลงทุน400ล.**
นายสนั่น กล่าวว่า ในปีหน้านี้บริษัทศรีไทยได้วางแผนลงทุน 400 ล้านบาท ในอุตสาหกรรมเม็ดพลาสติก และเมลามีน ซึ่งล่าสุดมีออร์เดอร์สั่งผลิตสินค้ามูลค่า 500 ล้านบาท  โดยการลงทุนครั้งนี้มองว่าเป็นโอกาสมากกว่าวิกฤต เพราะราคาเม็ดพลาสติกจากที่เคยขึ้นไปถึง 80 บาทต่อกิโลกรัม เหลือเพียง 20 บาทต่อกิโลกรัม แต่คาดว่าจะปรับขึ้นมา 30 บาทต่อกิโลกรัม

****

3000

ผู้จัดการรายวัน – ศรีไทยฯ ทุ่มงบลงทุน 400 ล้านบาท ลุยขยายธุรกิจเม็ดพลาสติก พร้อมเดินหน้าร่วมทุนบริษัทแดนโสมล็อกแอนด์ล็อก ผุดบริษัท ศรีไทย ซุปเปอร์แวร์ ลุยขยายธุรกิจในและต่างประเทศ หวังปั้นสินค้าสู่โกลเบิ้ลแบรนด์ ชูความได้เปรียบภาษีนำเข้าลดลง อัดกลยุทธ์มัลติชาแนลทะลวงคนไทย ลั่นปี 2553 เพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 17 ล้านบาท เป็น 200 ล้านบาท ส่วนปีหน้าโกย 300 ล้านบาท  

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการ บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด มหาชน เปิดเผยว่า บริษัทได้ร่วมทุนกับล็อกแอนด์ล็อก จากประเทศเกาหลี ตั้งบริษัท ศรีไทย ซุปเปอร์แวร์ ล็อกแอนด์ล็อก จำกัด ขึ้น ด้วยทุนจดทะเบียน 17 ล้านบาท โดยบริษัทศรีไทย ซุปเปอร์แวร์ ถือหุ้นสัดส่วน 51% และบริษัทล็อกแอนด์ล็อก 49% ซึ่งการร่วมทุนดังกล่าว เพื่อขยายธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศร่วมกัน โดยเป้าหมายของศรีไทยต้องการสร้างแบรนด์ไปสู่โกลเบิ้ลแบรนด์ ซึ่งวางแผนในเชิงรุกปีหน้านี้ผ่านทางเอเยนต์เป็นหลัก ในขณะที่ล็อกแอนด์ล็อกต้องการขยายตลาดอาเซียน ทั้งนี้บริษัทล็อกแอนด์ล็อกเป็นผู้ดำเนินกลยุทธ์การตลาด ส่วนบริษัทศรีไทยบริหารด้านการจัดการ และการดำเนินการ

สำหรับการร่วมทุนในครั้งนี้ บริษัทล็อกแอนด์ล็อกมีศักยภาพด้านการพัฒนาบรรจุภัณฑ์สูญญากาศ เครื่องแก้ว เซรามิก โดยมีสินค้ากว่า 500 รายการ ส่วนบริษัทเป็นผู้ผลิตเม็ดพลาสติก เมลามีน ทำให้เสริมศักยภาพซึ่งกันและกัน นอกจากนี้ยังมีผลทำให้ภาษีนำเข้าผลิตภัณฑ์ล็อกแอนด์ล็อกจากประเทศจีน ซึ่งเป็นผลมาจากเอฟทีเอ ลดลงจาก 30% เป็น 12% ส่วนในเวียดนามซึ่งบริษัทศรีไทยมีโรงงานผลิตเม็ดพลาสติก เมลามีน ส่วนล็อกแอนด์ล็อกมีโรงงานผลิตสินค้า ดังนั้นคาดว่าภาษีนำเข้าลดลงจาก 30% เป็นเหลือ 5% และคาดว่าภายใน 2-3 ปี ไม่ต้องเสียภาษีนำเข้า อย่างไรก็ตามบริษัทได้วางเป้าหมายว่าในปี 2553 จะเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 200 ล้านบาท

นายสนั่น กล่าวว่า การร่วมทุนในครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งแรกของล็อกแอนด์ล็อก จากปกติจะเป็นผู้ลงทุนเองทั้งหมด อีกทั้งยังเป็นการทำโควแบรนด์ร่วมกันภายใต้ชื่อ ศรีไทย ล็อกแอนด์ล็อก และร่วมกันเปิดแฟลกชิก ชอป ขึ้น ซึ่งในปีหน้านี้บริษัททุ่มงบ 10 ล้านบาท เปิด 3 สาขา ได้แก่ พัทยา เป็นต้น  สำหรับการดำเนินการตลาดในไทยมุ่งเน้นมัลติมาร์เก็ตติงชาแนล หรือจำหน่ายผ่านช่องทางหลากหลาย อาทิ ขายตรง ห้างสรรพสินค้า และแฟลกชิป สำหรับสิ้นปีนี้ตั้งเป้ารายได้ 140 ล้านบาท เกินเป้าหมายที่ตั้งเป้า 100 ล้านบาท ส่วนในปีหน้านี้ตั้งเป้า 300 ล้านบาท

ด้านนายคิม จูน ประธาน บริษัท ล็อกแอนด์ล็อก จำกัด มหาชน กล่าวว่า การร่วมทุนดังกล่าวเนื่องจากบริษัทต้องการขยายตลาดอาเซียน โดยบริษัทจะโฟกัสตลาดในประเทศไทยและเวียดนามเป็นหลัก  ส่วนวิกฤตเศรษฐกิจโลกมองว่าในภูมิภาคเอเชียได้รับผลกระทบน้อย อย่างไรก็ตามจากการร่วมทุนในครั้งนี้จะผลักดันให้บริษัทร่วมทุนมีอัตราการเติบโต 170% ต่อปี  หรือมีรายได้ 9 ล้านดอลลาร์ จากปกติมีอัตราการเติบโต 160% ส่วนปีนี้ตั้งเป้ารายได้ 4 ล้านดอลลาร์

**ศรีไทยสวนกระแสลงทุน400ล.**
นายสนั่น กล่าวว่า ในปีหน้านี้บริษัทศรีไทยได้วางแผนลงทุน 400 ล้านบาท ในอุตสาหกรรมเม็ดพลาสติก และเมลามีน เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจ ซึ่งล่าสุดมีออร์เดอร์สั่งผลิตสินค้ามูลค่า 500 ล้านบาท  โดยการลงทุนครั้งนี้มองว่าเป็นโอกาสมากกว่าวิกฤต โดยเฉพาะในภาวะที่คู่แข่งไม่มีศักยภาพ เพราะราคาเม็ดพลาสติกจากที่เคยขึ้นไปถึง 80 บาทต่อกิโลกรัม เหลือเพียง 20 บาทต่อกิโลกรัม แต่คาดว่าจะปรับขึ้นมา 30 บาทต่อกิโลกรัม โดยบริษัทจะเน้นการบริหารอย่างรัดกุม และลดความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน อย่างไรก็ตามวิกฤตเศรษฐกิจโลกมองว่า กระทบต่อตลาดเอเชียน้อย เพราะคาดการณ์ว่าเอเชียเป็นภูมิภาคที่นักลงทุนให้ความสนใจ โดยเฉพาะประเทศไทย หลังจากที่ประเทศจีนมีปัญหาสารปนเปื้อนเมลามีนและนม
กำลังโหลดความคิดเห็น