แพน ราชเทวี ชูนโยบายการบริหารรัดกุม รับมือวิกฤตเศรษฐกิจโลกกระทบตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลผิว 2 หมื่นล้านบาท ระเบิดสงครามโปรโมชันเดือด รุกปั้นแบรนด์แพน เดอร์มาแคร์ลุยเซกเมนต์พรีเมียม เจาะกลุ่มผิวแพ้ง่าย ลั่นปีหน้าลุยไวท์เทนนิ่ง-เอจจิ้ง พร้อมดึงนุสบา ปุณณกันต์ แอมบาสเดอร์ ตั้งเป้า 3 ปี กวาด 330 ล้านบาท โกยแชร์ 4% ส่วนสิ้นปีรายได้รวม 1,500 ล้านบาท โต 15%
นายพรชาย พิริยบรรเจิด กรรมการผู้จัดการ บริษัท แพน ราชเทวี กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์แพน เดอร์มาแคร์ เปิดเผยว่า นโยบายการตลาดในปีหน้านี้บริษัทมุ่งการบริหารจัดการให้รัดกุม ทำให้บริษัทชะลอแผนเข้าตลาดหลักทรัพย์ในปีนี้ไปก่อน ส่วนการดำเนินธุรกิจโฟกัสธุรกิจที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญ ส่วนการใช้งบการตลาดวางไว้ใกล้เคียงกับปีนี้ โดยจะไม่หว่านงบในการทำตลาด
แต่ขณะเดียวกันยังคงตอกย้ำการสร้างแบรนด์อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เพื่อรองรับกับวิกฤตเศรษฐกิจโลก และแนวโน้มการแข่งขันตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลผิว ซึ่งปีหน้าคาดว่าการทำโปรโมชัน ลด แลก แจก แถม มีความรุนแรงมากขึ้นกว่าปีนี้ โดยผู้ประกอบการยอมกำไรลดลงเพื่อช่วงชิงกำลังซื้อและกระตุ้นยอดขาย
สำหรับตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลผิวมูลค่า 2 หมื่นล้านบาท ปีหน้าคาดว่าเติบโต 5-8% ใกล้เคียงกับปีนี้ โดยตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลผิวแมสมูลค่า 1.2 หมื่นล้านบาท มีอัตราการเติบโตดีกว่าเคาน์เตอร์เซลล์มูลค่า 8,000 ล้านบาท ทั้งนี้การเติบโตของตลาดดูแลผิว มาจากกลยุทธ์การทำโปรโมชัน และมีแบรนด์ใหม่ๆ นำเสนอสินค้าตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น ส่วนภาวะตลาดอาหารเสริมการเติบโตลดลง เพราะผู้บริโภคมีความระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอย และมีทางเลือกหลากหลายในการดูแลผิว
ล่าสุดบริษัทได้ดำเนินการตลาดเชิงรุกกลุ่มแพน เดอร์มาแคร์ หลังจากเปิดตัวลงสู่ตลาดมากว่า 1 ปี โดยผลิตภัณฑ์ดังกล่าววางโพซิชันนิง เป็นผลิตภัณฑ์ดูแลผิวเพื่อความงามสำหรับสภาพผิวบอบเบาและแพ้ง่ายระดับพรีเมียม แต่วางราคาถูกกว่าอินเตอร์แบรนด์ 30-40% ขณะเดียวกันยังสามารถขยายฐานลูกค้าในตลาดเวชสำอางมูลค่า 1,500 ล้านบาทา ซึ่งแพน เดอร์มาแคร์จะเติมเต็มพอร์ตโฟลิโอให้มีความหลากหลาย จากปัจจุบันมีแพนคอสเมติก เจาะตลาดเวชสำอาง และอิลิเซ่ เจาะตลาดเครื่องสำอาง
สำหรับปีหน้าบริษัทได้เตรียมใช้งบการตลาดแพน เดอร์มาแคร์เพิ่มขึ้น 30-40% จากปีนี้ใช้งบการตลาด 40 ล้านบาท เพื่อสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น โดยบริษัทมุ่งเปิดตัวสินค้าในกลุ่มชะลอริ้วรอยและไวท์เทนนิ่งและวางเป้าหมายให้เป็นสินค้าเรือธงรองจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ฝ้า จากปัจจุบันมีทั้งหมด 7 กลุ่ม เนื่องจากทั้งสองตลาดมีขนาดใหญ่ ด้วยการเปิดตัวสินค้าใหม่ไม่ต่ำกว่า 10 รายการ จากสิ้นปีนี้คาดว่าจะเปิดตัวสินค้าให้ครบ 18-20 รายการ และขยายจุดจำหน่าย 10-20 แห่ง จากสิ้นปีนี้ตั้งเป้าขยาย 50 แห่ง ทั้งในรูปแบบเคาน์เตอร์และคลีนิกแพน อีกทั้งยังได้เตรียมโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านมาโทรทัศน์ในปีหน้า
ล่าสุดดึงนุสบา ปุณณกันต์ มาเป็นแอมบาสเดอร์ พร้อมกันนี้ยังดำเนินกิจกรรมตลาด ควบคู่กับการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับลูกค้า อย่างไรก็ตามจากการดำเนินการตลาดในเชิงรุกสิ้นปีนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้ 120 ล้านบาท และภายใน 3 ปี มีรายได้ 330 ล้านบาท หรือมีส่วนแบ่ง 4% ของตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลผิว ขณะเดียวกันผลิตภัณฑ์แพน เดอร์มาแคร์ จะเป็นกลุ่มธุรกิจอีกหนึ่งขาที่สร้างรายได้เพิ่มจาก 7% เป็นสัดส่วน 30% ภายใน 3 ปี ส่วนแพนคอสเมติก 35% เป็น 30% อิลิเซ่ 20% เป็น 30% สำหรับผลประกอบการสิ้นปีนี้ 1,500 ล้านบาท เติบโต 15%
นายพรชาย พิริยบรรเจิด กรรมการผู้จัดการ บริษัท แพน ราชเทวี กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์แพน เดอร์มาแคร์ เปิดเผยว่า นโยบายการตลาดในปีหน้านี้บริษัทมุ่งการบริหารจัดการให้รัดกุม ทำให้บริษัทชะลอแผนเข้าตลาดหลักทรัพย์ในปีนี้ไปก่อน ส่วนการดำเนินธุรกิจโฟกัสธุรกิจที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญ ส่วนการใช้งบการตลาดวางไว้ใกล้เคียงกับปีนี้ โดยจะไม่หว่านงบในการทำตลาด
แต่ขณะเดียวกันยังคงตอกย้ำการสร้างแบรนด์อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เพื่อรองรับกับวิกฤตเศรษฐกิจโลก และแนวโน้มการแข่งขันตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลผิว ซึ่งปีหน้าคาดว่าการทำโปรโมชัน ลด แลก แจก แถม มีความรุนแรงมากขึ้นกว่าปีนี้ โดยผู้ประกอบการยอมกำไรลดลงเพื่อช่วงชิงกำลังซื้อและกระตุ้นยอดขาย
สำหรับตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลผิวมูลค่า 2 หมื่นล้านบาท ปีหน้าคาดว่าเติบโต 5-8% ใกล้เคียงกับปีนี้ โดยตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลผิวแมสมูลค่า 1.2 หมื่นล้านบาท มีอัตราการเติบโตดีกว่าเคาน์เตอร์เซลล์มูลค่า 8,000 ล้านบาท ทั้งนี้การเติบโตของตลาดดูแลผิว มาจากกลยุทธ์การทำโปรโมชัน และมีแบรนด์ใหม่ๆ นำเสนอสินค้าตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น ส่วนภาวะตลาดอาหารเสริมการเติบโตลดลง เพราะผู้บริโภคมีความระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอย และมีทางเลือกหลากหลายในการดูแลผิว
ล่าสุดบริษัทได้ดำเนินการตลาดเชิงรุกกลุ่มแพน เดอร์มาแคร์ หลังจากเปิดตัวลงสู่ตลาดมากว่า 1 ปี โดยผลิตภัณฑ์ดังกล่าววางโพซิชันนิง เป็นผลิตภัณฑ์ดูแลผิวเพื่อความงามสำหรับสภาพผิวบอบเบาและแพ้ง่ายระดับพรีเมียม แต่วางราคาถูกกว่าอินเตอร์แบรนด์ 30-40% ขณะเดียวกันยังสามารถขยายฐานลูกค้าในตลาดเวชสำอางมูลค่า 1,500 ล้านบาทา ซึ่งแพน เดอร์มาแคร์จะเติมเต็มพอร์ตโฟลิโอให้มีความหลากหลาย จากปัจจุบันมีแพนคอสเมติก เจาะตลาดเวชสำอาง และอิลิเซ่ เจาะตลาดเครื่องสำอาง
สำหรับปีหน้าบริษัทได้เตรียมใช้งบการตลาดแพน เดอร์มาแคร์เพิ่มขึ้น 30-40% จากปีนี้ใช้งบการตลาด 40 ล้านบาท เพื่อสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น โดยบริษัทมุ่งเปิดตัวสินค้าในกลุ่มชะลอริ้วรอยและไวท์เทนนิ่งและวางเป้าหมายให้เป็นสินค้าเรือธงรองจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ฝ้า จากปัจจุบันมีทั้งหมด 7 กลุ่ม เนื่องจากทั้งสองตลาดมีขนาดใหญ่ ด้วยการเปิดตัวสินค้าใหม่ไม่ต่ำกว่า 10 รายการ จากสิ้นปีนี้คาดว่าจะเปิดตัวสินค้าให้ครบ 18-20 รายการ และขยายจุดจำหน่าย 10-20 แห่ง จากสิ้นปีนี้ตั้งเป้าขยาย 50 แห่ง ทั้งในรูปแบบเคาน์เตอร์และคลีนิกแพน อีกทั้งยังได้เตรียมโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านมาโทรทัศน์ในปีหน้า
ล่าสุดดึงนุสบา ปุณณกันต์ มาเป็นแอมบาสเดอร์ พร้อมกันนี้ยังดำเนินกิจกรรมตลาด ควบคู่กับการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับลูกค้า อย่างไรก็ตามจากการดำเนินการตลาดในเชิงรุกสิ้นปีนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้ 120 ล้านบาท และภายใน 3 ปี มีรายได้ 330 ล้านบาท หรือมีส่วนแบ่ง 4% ของตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลผิว ขณะเดียวกันผลิตภัณฑ์แพน เดอร์มาแคร์ จะเป็นกลุ่มธุรกิจอีกหนึ่งขาที่สร้างรายได้เพิ่มจาก 7% เป็นสัดส่วน 30% ภายใน 3 ปี ส่วนแพนคอสเมติก 35% เป็น 30% อิลิเซ่ 20% เป็น 30% สำหรับผลประกอบการสิ้นปีนี้ 1,500 ล้านบาท เติบโต 15%