“ชูวิทย์” สาบานต่อหน้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ กทม.ได้เป็นผู้ว่าฯ จะทำงานซื่อสัตย์ สะสางทุจริตในวงราชการ ลั่นผิดคำพูดให้ฉิบหายใน 3 วัน 7 วัน พร้อมเตรียมแฉทุจริตจัดซื้อรถดับเพลิง ไม่สนหากได้ใบแดง ชูเรดโซนปลอดแหล่งมอมเมาเยาวชน “อภิรักษ์” บุกถิ่นสามย่านขอคะแนนเสียงจากเด็กจุฬาฯ โชว์นโยบายเอาใจวัยโจ๋ พร้อมเปิดตัวใบแนะนำตัวแบบใหม่ขนาดโปสการ์ด
วันนี้ (19 ก.ย.) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) หมายเลข 8 ลงพื้นที่หาเสียงกับข้าราชการ ลูกจ้าง กทม.ที่ศาลาว่าการ กทม.โดยเริ่มแรกได้เข้าไปสักการะพระพุทธนวราชบพิตร พร้อมกับสาบานตนต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เจ้าที่ ว่า หากตนมีโอกาสได้เข้ามาบริหารงาน เป็นผู้ว่าฯ กทม.ตนให้คำมั่นสัญญาว่าจะทำงานด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต ตั้งใจจริง และจะเข้ามาทำหน้าที่สะสางเรื่องทุจริตในวงการข้าราชการ กทม.ทั้งนี้ จะส่งเสริมกำลังใจให้กับข้าราชการ ลูกจ้าง ของ กทม.หากความตั้งใจจริงของตนเป็นผลแล้วไซร้ ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใน กทม.ดลบันดาลให้ข้าพเจ้าได้รับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯ กทม.ทั้งนี้ หากตนผิดคำสาบานที่ได้ให้คำมั่นไว้ในวันนี้ ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ลงโทษ ให้ตน และครอบครัวมีอันเป็นไปภายใน 3 วัน 7 วัน
นายชูวิทย์ ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวท่ามกล่างหมู่ข้าราชการ ลูกจ้าง กทม.และประชาชนที่มาใช้บริการในศาลาว่าการ กทม.ว่า ในยุคที่ กทม.มีตน เป็นผู้ว่าฯ กทม.อย่างแรกตนจะใช้สัญลักษณ์ของกรุงเทพมหานครที่เป็นรูปช้างเอราวัณ เพียงอันเดียว จะไม่มีการไปใช้โลโก้กลีบลำดวน เหมือนอย่างที่อดีตผู้ว่าฯ กทม.คนก่อนได้กระทำ และถูกบริษัทเอกชนฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายเป็นเงินกว่า 8 ล้านบาท
นอกจากนั้นแล้ว จะให้ความเป็นธรรมกับข้าราชการในการเลื่อนตำแหน่งที่เหมาะสมของแต่ละหน่วยงาน จะไม่ให้ข้าราชการมาเดินถือกระเป๋าให้ภรรยาของตน หรือตั้งแถวรอต้อนรับตน เหมือนอย่างที่เคยทำมา ที่สำคัญตนจะมาทำงานแต่เช้า มาตรงตามเวลาที่นัดหมาย
“หากวันใดผมมีอาจวาสนามาเป็นผู้ว่าฯ กทม.จะบริหารงานด้านความเป็นธรรม ยึดประโยชน์ ของประชาชนคนกทม.เป็นสิ่งสูงสุด หากผมไม่ทำตามสิ่งที่พูดให้คนที่มาฟังวันนี้เอาคำที่ผมพูด มาชี้หน้าด่าได้เลย” นายชูวิทย์ กล่าว
นายชูวิทย์ กล่าวด้วยว่า ในวันที่ 29 และ 30 ก.ย.นี้ ตนจะแถลงข่าวเรื่องทุจริตโครงการจัดซื้อรถ-เรือดับเพลิงของ กทม.ที่โรงแรมสุโขทัยจะเอาเอกสาร หลักฐานทุกอย่างมาแสดงให้กับประชาชนได้ดู ได้เห็นกันชัดเจน แม้ว่าการแถลงข่าวดังกล่าว จะทำให้ตนได้ใบแดง ใบเหลือง ใบเขียว ตนก็ไม่สน เป็นไงเป็นกัน
ผู้สื่อข่าวถามด้วยว่า สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหาข้าราชการที่มีความประพฤติทุจริตคอรัปชั่นจะจัดการอย่างไร นายชูวิทย์ กล่าวว่า เบื้องต้นหากมีการร้องเรียน หรือทราบเบาะแสมาตนก็จะตั้งคณะกรรมการสอบสวน โดยให้ข้าราชการ ผู้บริหารจากฝ่ายที่เกี่ยวข้องเข้ามามีส่วนร่วม ซึ่งหากพบว่ามีพฤติกรรมทุจริตก็จะปลดออกจากตำแหน่งทันที ดังนั้นข้าราชการ ลูกจ้าง กทม.ในยุคที่ตนมีโอกาสเป็นผู้ว่าฯ กทม.จะไม่มีเรื่องของการทุจริต คอรัปชั่น การปฏิบัติงานทุกอย่างจะต้องโปร่งใส เป็นธรรม ตรวจสอบได้
นอกจากนี้ นายชูวิทย์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ผลสำรวจระบุว่าสภาพแวดล้อมใกล้เคียงกับสถานศึกษาทั่วกรุงเทพฯ มีแหล่งมอมเมา แหล่งอบายมุขอยู่ใกล้พื้นที่ ว่า ตนมีนโยบายเรดโซน (RED ZONE) โดยพื้นที่ 500 เมตร รอบสถานศึกษาจะต้องไม่มีสถานบันเทิง แหล่งมั่วสุมที่มอมเมาประชาชน ส่วนสถานบันเทิง ร้านเหล้าที่เปิดอยู่ก่อนแล้วตนก็จะสั่งปิดทันที ทั้งนี้จะนำพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร มาใช้บังคับควบคู่กันไป ซึ่งการขออนุญาตก็ต้องระบุให้ชัดเจนว่าจะสร้างอาคารเพื่อใช้ประโยชน์อะไร หากจะทำเป็นสถานบันเทิง ร้านเหล้า ก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างที่นายชูวิทย์แถลงนโยบายกับสื่อมวลชนนั้น ได้มีข้าราชการ ลูกจ้าง กทม.ประชาชนทั่วไปสนในเข้ามาฟังเป็นจำนวนมาก และให้การตอบรับด้วยการปรบมือแสดงความพอใจ นอกจากนั้น ได้มี นางนภาพร จันทร์เพ็ญ ข้าราชบำนาญครูกทม. ได้เข้ามาพูดคุยกับนายชูวิทย์และกล่าวว่าครอบครัวตนมีทั้งหมด 5 คน จะลงคะแนนให้ทั้งหมด
หลังจากนั้น นายชูวิทย์ ได้เดินเข้าไปยังอาคารศาลาว่าการ กทม.เข้าไปเยี่ยมข้าราชการ กทม.ที่ห้องประชาสัมพันธ์ พร้อมกับกล่าวถึงแนวทางประชาสัมพันธ์ กทม.ว่า ตนจะไม่เน้นการประชาสัมพันธ์ เพราะถือว่าหากข้าราชการ ลูกจ้าง กทม.ปฏิบัติหน้าที่ดีแล้ว การประชาสัมพันธ์ไม่ต้องเน้นอะไรมาก จากนั้นได้ไปชมห้องประจำตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. ชั้น 2 ของศาลาว่าการกทม.พร้อมกับดูป้ายรายนามผู้ว่าฯ กทม.และกล่าวว่ารูปภาพที่เห็นทั้งหมดนี้ ว่า หวังว่าจะมีรูปตนประดับไว้ที่ตรงนี้บ้าง
วันเดียวกันนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) หมายเลข 5 พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ลงพื้นที่หาเสียงที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยเน้นเจาะกลุ่มนิสิต พร้อมเปิดตัวใบแนะนำตัวขนาดเทาโปสการ์ดพิมพ์ 4 สีรูป นายอภิรักษ์ ชู 5 นิ้วเป็นสัญลักษณ์แทนหมายเลขผู้สมัครของตนเอง โดยมีข้อความเขียนว่า “เพื่อสีสันของชีวิตวัยรุ่นกรุงเทพฯ..สนุกกับชีวิตอย่างมีสมอง” Future Bangkok for Teen ชูนโยบายเอาใจวัยโจ๋ 5 ด้าน ภายใต้สโลแกน “ร่วมฝัน ร่วมสร้าง อนาคตวัยรุ่นกรุงเทพฯ ร่วมกัน”
ทั้งนี้ โดยมี นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ อดีตรองผู้ว่าฯกทม. พร้อมด้วย นางนุสบา ปุณณกันต์ ภรรยา นางบรรณโศภิษฐ์ เมฆวิชัย อดีตรองผู้ว่าฯ กทม.และอาจารย์คณะสถาปัตย์ฯ จุฬาฯ หม่อมหลวงอภิมงคล โสณกุล ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ นายพรวุฒิ สารสิน และนายจักรพันธ์ พรนิมิตร อดีตที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม.และ นางเมธาวี ธารธำรง ส.ก.เขตปทุมวัน พรรคประชาธิปัตย์ ร่วมเดินหาเสียงอย่างคึกคัก
นายอภิรักษ์ เปิดเผยว่า ตนมีนโยบายที่จะส่งเสริมให้วัยรุ่นมีพื้นที่แสดงซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้พัฒนาเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ ดังนี้ 1.Edutainment ทำห้องสมุดแนวใหม่ เรียนรู้คู่ความบันเทิง ให้ยืมการ์ตูน ดีวีดีหนัง ซีดีเพลง 2.Cyber City เปิดเว็บไซต์ www.bkkteen.net เปิดสายด่วนปรึกษาปัญหาวัยรุ่น BKK Friend Hotline 3.Young Sport เพิ่มศูนย์กีฬา สนามฟุตซอล 4.Teen Playground เปิดลานปลดปล่อยความคิดของชีวิตวัยมันส์ อาทิ ลานปล่อยของ โชว์ไอเดียววัยรุ่น ทั้งแฟชั่น ศิลปะ ดนตรี 5.Entertainment Venue สถานที่พักผ่อนของวัยโจ๋ ทั้ง Shopping Street ถนนคนเดิน ตลาดนัด ไนท์บาร์ซาร์ เป็นต้น
นายอภิรักษ์ กล่าวต่อว่า การลงพื้นที่หาเสียงกับวัยรุ่น ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นที่แรก ซึ่งจากนี้จนถึงวันเลือกตั้ง ตนจะพยายามไปในมหาวิทยาลัยอื่นๆ และตามแหล่งที่รวมตัวของวัยรุ่นในพื้นที่ กทม. ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายอภิรักษ์เดินหาเสียงภายในมหาวิทยาลัย ได้รับความสนใจกับนิสิตนักศึกษาเดินตามขอถ่ายรูป จากนั้นนายอภิรักษ์เดินไปหาเสียงบริเวณใต้ถุนอาคารจุลจักรพงษ์ และได้ขอเล่นเทเบิลเทนนิสกับกลุ่มนิสิต โดยได้รับความสนใจจากเหล่านิสิตที่เดินผ่านในบริเวณซึ่งได้หยุดดูการแข่งขัน ภายหลังการตีปิงปองเสร็จ ทั้งนายอภิรักษ์และนิสิตจุฬาฯ ต่างชมกันและกันว่า “ฝีมือไม่ธรรมดา”