เอเจนซี - ผลศึกษาพบผู้ชายจับพิรุธแฟนนอกใจเก่งกว่าผู้หญิง แต่ขณะเดียวกัน มีแนวโน้มว่าผู้ชายจะคิดมากเกินเหตุทั้งที่ภรรยาหรือแฟนรักเดียวใจเดียว
นักวิจัยสัมภาษณ์หญิง-ชาย 203 คู่ว่าเคยออกนอกลู่นอกทางหรือไม่ และเคยสงสัยหรือรู้ว่าแฟนกำลังสวมเขาให้หรือเปล่า ซึ่งพบว่าแม้ผู้ชายมีแนวโน้มออกนอกลู่นอกทางมากกว่าผู้หญิง โดย 29% ยอมรับว่าแอบมีกิ๊กอย่างน้อยหนึ่งคน เทียบกับ 18.5% สำหรับผู้หญิง แต่ผู้ชายมีแนวโน้มจับพิรุธเรื่องนี้เก่งกว่า
ผู้หญิงเดาถูกถึง 80% ว่าถูกสวมเขา แต่ผู้ชายกลับทำได้ดีกว่าคือ 94% ทั้งนี้ จากรายงานการศึกษาของดร.พอล แอนดริวส์ จากมหาวิทยาลัยเวอร์จิเนีย คอมมอนเวลท์ในริชมอนด์
“เราอยากรู้ว่าผู้ชายหรือผู้หญิงจับได้ไล่ทันเรื่องแฟนนอกใจเก่งกว่ากัน และเราพบว่าถ้าผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมดพูดความจริง ผู้ชายจะมีความสามารถในเรื่องนี้มากกว่า แต่เรายังพบว่าผู้ชายมีแนวโน้มหึงหวงไม่ดูตาม้าตาเรือทั้งที่แฟนหรือภรรยาไม่เคยชายตาให้หนุ่มอื่นเลย
“เรายังพัฒนาวิธีการทางสถิติเพื่อประเมินการนอกใจที่เจ้าตัวไม่ยอมรับ ซึ่งเราพบว่าผู้ชายมีแนวโน้มซื่อสัตย์กับพฤติกรรมเจ้าชู้ของตัวเอง ขณะที่ผู้หญิงมักปกปิดพฤติกรรมดังกล่าวมากกว่าผู้ชายถึง 10%
“ผู้หญิงมักไม่ปริปากเรื่องพวกนี้ และดูเหมือนจะปกปิดเก่งกว่า อย่างไรก็ตาม ผู้ชายมีความสามารถมากกว่าในการจับโกหกว่าถูกแฟนสวมเขาให้”
ผลวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสารฮิวแมน เนเจอร์ สนับสนุนแนวคิดที่ว่าผู้ชายถูกหล่อหลอมมาจากวิวัฒนาการให้ระแวดระวังว่าอาจถูกคู่ครองเล่นไม่ซื่อ เนื่องจากไม่สามารถมั่นใจได้ว่าลูกที่อุ้มชูดูแลอยู่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของตนเองหรือว่าเป็นลูกชู้กันแน่
การค้นพบนี้ยังจำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมต่อไป อย่างไรก็ดี ผลการศึกษานี้บ่งชี้ว่ามีการแข่งขันกันระหว่างเพศในช่วงเวลาของวิวัฒนาการ โดยผู้ชายพยายามที่จะจับให้ได้ไล่ให้ทันว่าถูกคู่ครองสวมเขาให้ ขณะที่ผู้หญิงมีความสามารถในการปกปิดเรื่องรักนอกใจแนบเนียนขึ้น
“เราพบว่าผู้ชายจะถูกเร่งเร้าให้พยายามหาข้อมูลเพื่อแก้ข้อสงสัยเรื่องที่คิดว่าตัวเองกำลังถูกสวมเขา ซึ่งอาจทำให้ผู้ชายคาดเดาเรื่องนี้ได้แม่นยำกว่าผู้หญิง” ดร.แอนดริวส์อธิบาย
เดวิด บัสส์ จากมหาวิทยาลัยเทกซัส แสดงความเห็นว่าการศึกษาชิ้นนี้ตอกย้ำหลักฐานที่ว่า ผู้ชายวิวัฒนาการความสามารถในการป้องกันตัวเองโดยการจับพฤติกรรมนอกใจของแฟน แต่ขณะเดียวกัน ก็แสดงถึงความอคติที่ทำให้ผู้ชายมีแนวโน้มผิดพลาดในการระแวงเกินเหตุ ทั้งที่คู่ของตนซื่อสัตย์ก็ตาม
นักวิจัยสัมภาษณ์หญิง-ชาย 203 คู่ว่าเคยออกนอกลู่นอกทางหรือไม่ และเคยสงสัยหรือรู้ว่าแฟนกำลังสวมเขาให้หรือเปล่า ซึ่งพบว่าแม้ผู้ชายมีแนวโน้มออกนอกลู่นอกทางมากกว่าผู้หญิง โดย 29% ยอมรับว่าแอบมีกิ๊กอย่างน้อยหนึ่งคน เทียบกับ 18.5% สำหรับผู้หญิง แต่ผู้ชายมีแนวโน้มจับพิรุธเรื่องนี้เก่งกว่า
ผู้หญิงเดาถูกถึง 80% ว่าถูกสวมเขา แต่ผู้ชายกลับทำได้ดีกว่าคือ 94% ทั้งนี้ จากรายงานการศึกษาของดร.พอล แอนดริวส์ จากมหาวิทยาลัยเวอร์จิเนีย คอมมอนเวลท์ในริชมอนด์
“เราอยากรู้ว่าผู้ชายหรือผู้หญิงจับได้ไล่ทันเรื่องแฟนนอกใจเก่งกว่ากัน และเราพบว่าถ้าผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมดพูดความจริง ผู้ชายจะมีความสามารถในเรื่องนี้มากกว่า แต่เรายังพบว่าผู้ชายมีแนวโน้มหึงหวงไม่ดูตาม้าตาเรือทั้งที่แฟนหรือภรรยาไม่เคยชายตาให้หนุ่มอื่นเลย
“เรายังพัฒนาวิธีการทางสถิติเพื่อประเมินการนอกใจที่เจ้าตัวไม่ยอมรับ ซึ่งเราพบว่าผู้ชายมีแนวโน้มซื่อสัตย์กับพฤติกรรมเจ้าชู้ของตัวเอง ขณะที่ผู้หญิงมักปกปิดพฤติกรรมดังกล่าวมากกว่าผู้ชายถึง 10%
“ผู้หญิงมักไม่ปริปากเรื่องพวกนี้ และดูเหมือนจะปกปิดเก่งกว่า อย่างไรก็ตาม ผู้ชายมีความสามารถมากกว่าในการจับโกหกว่าถูกแฟนสวมเขาให้”
ผลวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสารฮิวแมน เนเจอร์ สนับสนุนแนวคิดที่ว่าผู้ชายถูกหล่อหลอมมาจากวิวัฒนาการให้ระแวดระวังว่าอาจถูกคู่ครองเล่นไม่ซื่อ เนื่องจากไม่สามารถมั่นใจได้ว่าลูกที่อุ้มชูดูแลอยู่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของตนเองหรือว่าเป็นลูกชู้กันแน่
การค้นพบนี้ยังจำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมต่อไป อย่างไรก็ดี ผลการศึกษานี้บ่งชี้ว่ามีการแข่งขันกันระหว่างเพศในช่วงเวลาของวิวัฒนาการ โดยผู้ชายพยายามที่จะจับให้ได้ไล่ให้ทันว่าถูกคู่ครองสวมเขาให้ ขณะที่ผู้หญิงมีความสามารถในการปกปิดเรื่องรักนอกใจแนบเนียนขึ้น
“เราพบว่าผู้ชายจะถูกเร่งเร้าให้พยายามหาข้อมูลเพื่อแก้ข้อสงสัยเรื่องที่คิดว่าตัวเองกำลังถูกสวมเขา ซึ่งอาจทำให้ผู้ชายคาดเดาเรื่องนี้ได้แม่นยำกว่าผู้หญิง” ดร.แอนดริวส์อธิบาย
เดวิด บัสส์ จากมหาวิทยาลัยเทกซัส แสดงความเห็นว่าการศึกษาชิ้นนี้ตอกย้ำหลักฐานที่ว่า ผู้ชายวิวัฒนาการความสามารถในการป้องกันตัวเองโดยการจับพฤติกรรมนอกใจของแฟน แต่ขณะเดียวกัน ก็แสดงถึงความอคติที่ทำให้ผู้ชายมีแนวโน้มผิดพลาดในการระแวงเกินเหตุ ทั้งที่คู่ของตนซื่อสัตย์ก็ตาม