xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.ชักธงรบทักษิณ ศึกเดิมพันสถาบันฯแพ้ไม่ได้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ กล่าวถึงการจัดงานระดมทุนวันที่ 8 พ.ย.นี้ว่า จะจัดที่อิมแพค เมืองทองธานี อาคาร 2 และ 3 โดยเตรียมการเชิญแขก 4 พันคน เป็นผู้สนับสนุนพรรค และเห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นพรรคการเมืองพรรคเดียวที่เป็นของประชาชน และยืนหยัดต่อสู้เพื่อ ระบอบประชาธิปไตย ถือเป็นการส่งสัญญาณจากพรรคประชาธิปัตย์ ว่า จำเป็นต้องรวบรวมกำลังเตรียมการต่อสู้พรรคการเมืองในสนามเลือกตั้งทั่วไป ซึ่งอาจเกิดในช่วงเวลาใดก็ได้นับจากนี้ไป ปชป.เลือกต่อสู้การเมืองผ่านกระบวนการเลือกตั้ง และยอมรับความจริงว่า การเลือกตั้งต้องมีทุนรอนในการใช้จ่ายจึงประกาศให้ประชาชนทราบว่า กำหนดวันเวลาเริ่มต้นรวบรวมทุน เพื่อเตรียมการไว้ใช้ในการเลือกตั้งในวันที่ 8 พ.ย.นี้
"มีคนถามผมมากว่า ไปร่วมงานพรรคประชาธิปัตย์คราวนี้ จะมีเรื่องมีราวหรือมีประเด็นอะไรหรือไม่ ผมบอกเลยว่าไม่เกี่ยวเสื้อเหลือง เสื้อแดง ไม่ประลองกำลังกับใครทั้งสิ้น เราไม่วอกแวกไม่หวั่นไหว ไม่เปลี่ยนจุดยืนหรืออุดมการณ์ เป็นแผนที่วางไว้ก่อนแล้ว เพราะเห็นว่าสถานการณ์การเมืองอาจนำไปสู่การเลือกตั้งเมื่อไหร่ก็ตาม ไม่ใช่จัดงานแข่งกับงานเสื้อแดง ไม่คิดเป็นศัตรู หรือประชันขันแข่งกับใครทั้งสิ้น เรายึดมั่นอุดมการณ์ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข งานนี้ไม่มีอะไรเคร่งเครียด จัดแบบสบายๆ หน้างานจะมีของที่ระลึกจำหน่ายให้ผู้ร่วมงาน ทั้งเสื้อ หมวก แก้ว และเนคไท นอกจากนี้จะมีเหรียญพระแม่ธรณีบีบมวยผม รุ่นปราบมาร สัญลักษณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ เป็นสัญลักษณ์การต่อสู้กับมาร ความไม่ดีไม่งาม และหนังสือเชื่อมั่นประเทศไทยมั่นใจประชาธิปัตย์ ที่หัวหน้าพรรคเขียนขึ้นมาเป็นพิเศษ มอบให้ทุกคนที่ไปร่วมงานด้วย สำหรับบัตรเข้างานนั้นไม่ได้กำหนด อยู่ที่ความสมัครใจของผู้เข้าร่วมงาน” นายสุเทพ กล่าว
เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวด้วยว่า ในงานจะฉายสไลด์ เรื่องการต่อสู้ทางการเมืองของพรรคตั้งแต่อดีตเป็นต้นมา มีวงดนตรีบางกอกซิมโฟนีออเคสตร้า บรรเลงเพลงราชนิพนธ์ และมีศิลปิน คือ เจนนิเฟอร์ คิ้ม มาขับกล่อมในงานด้วย ที่สำคัญคือ จะมีการกล่าวสุนทรพจน์ครั้งสำคัญของ นาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ หัวข้อ “เชื่อมั่นประเทศไทย มั่นใจประชาธิปัตย์” เพื่อให้ตระหนักถึงทางออกในการแก้ปัญหาชาติ
นายสุเทพ กล่าวว่า สำหรับเงินที่ได้จะใช้สำหรับการเลือกตั้งทั่วไปเท่านั้น โดยเชื่อว่าตอนนี้ไม่มีใครทำนายได้ว่าจะมีการยุบสภาเมื่อไร เพราะแม้แต่นายกฯ ก็ไม่รู้ เนื่องจากต้องรอโทรศัพท์ทางไกล แต่พรรคประชาธิปัตย์ยึดหลักเตรียมพร้อมไว้ก่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่า การจัดงานระดมทุนครั้งนี้จะมีการขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดูแลความปลอดภัยเป็นพิเศษหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า พรรคไม่ได้ขอกำลังคุ้มครองพิเศษจากเจ้าที่ตำรวจ เพราะเห็นว่าเป็นหน้าที่อยู่แล้ว และไม่ห่วงว่าจะมีการปิดล้อมสถานที่จัดงาน เหมือนที่เกิดขึ้นในการจัดกิจกรรมประชุมสาขาภาคเหนือที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งในวันนั้นมีกลุ่มคนเสื้อแดงมาปิดล้อมโรงแรมเชียงใหม่ ออร์คิด สถานที่จัดงานทำให้ตนเข้าไปไม่ได้ และเห็นชัดเจนว่า เป็นการจัดตั้งรุนแรงมาก โดยตั้งใจมาหาเรื่อง แต่ตนไม่ต้องการให้เกิดเหตุรุนแรงมากกว่านั้น จึงถอยออกมา ทั้งนี้ ตนเรียนที่ ม.เชียงใหม่ รู้จักคนเชียงใหม่ดี ว่าไม่ใช่คนก้าวร้าวรุนแรง และสอบสวนดูแล้วพบว่าวันนั้น เสื้อแดงเชียงใหม่ เข้ากทม.แล้ว แต่มีการระดมคนจากจังหวัดใกล้เคียงมา ซึ่งตนยืนยันกับเพื่อนสมาชิกพรรคว่า อย่าเสียความรู้สึกกับคนเชียงใหม่ เพราะเรื่องที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องกิเลสของคนที่ไม่คิดถึงความเสียหายของชาติ และตนยังยืนยัน เดินทางทั่วประเทศเหมือนที่เคยปฏิบัติมา
"ผมหลีกเลี่ยงที่จะวิจารณ์พ.ต.ท .ทักษิณ เพราะเป็นพรรคคู่แข่ง แต่ยืนยันว่า เราคิดว่าได้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง มีจุดยืนที่ถูกต้องในทางการเมือง ไม่หวั่นเกรงไม่ย่อท้อ เตรียมตัวสู้ และจะสู้จนชนะ ไม่ชนะวันนี้ มะรืนนี้ ก็สู้ใหม่ สู้จนกว่าชนะ เพราะพ.ต.ท.ทักษิณไม่ใช่นักประชาธิปไตยที่แท้จริง แต่เป็นผู้ทำลายประชาธิปไตย ผมมั่นใจเราสู้เต็มที่ สู้แบบเอาเป็นเอาตาย เพราะมีชีวิตประชาชน อนาคตประเทศ และสถาบันหลักของประเทศเป็นเดิมพัน ผมเชื่อว่าพฤติกรรมที่เขาพยายามจะทำต่อเนื่องมาจะทำให้ประชาชนเจ้าของประเทศฉุกคิด มองเห็นข้อเท็จจริงได้ การเมืองในประเทศจะเปลี่ยนแปลงได้ด้วยประชาชนเท่านั้น เชื่อว่าในระยะยาวไม่มีใครหลอกประชาชนทั้งประเทศได้ ผมคิดว่าที่สุดแล้วประชาชนจะเห็นความจำเป็นว่า พรรคประชาธิปัตย์ทำหน้าที่ในฐานะเป็นพรรคการเมืองของประชาชน และมั่นใจว่ามีโอกาสที่จะได้เป็นฝ่ายบริหารในการเลือกตั้งครั้งหน้า เพราะประชาชนจะเห็นชัดเจนว่า มิตรแท้ทางการเมืองคือพรรคประชาธิปัตย์" นายสุเทพกล่าว
สำหรับคดียุบพรรคที่จะเกิดขึ้น จะมีผลต่อการเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่นั้น นายสุเทพ กล่าวว่า การยุบพรรคเป็นกระบวนการยุติธรรมอย่างหนึ่ง คนที่ทำผิดกฎหมายก็ต้องถูกตัดสิน ตนไม่สามารถทำนายได้ว่าจะมีการยุบพรรคหรือไม่ แต่สังเกตเห็นว่า กรณีพรรคการเมืองเหล่านี้สามารถเปลี่ยนสีสัน รูปแบบได้ทุกเวลา แต่ในที่สุดประชาชนจับได้ไล่ทัน ซึ่งหากต้องสู้ก็คงเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นพรรคไทยรักไทยในอดีต พรรคพลังประชาชน หรือจะเป็นพรรคเพื่อไทย ทั้งหมดคือระบอบทักษิณนั่นเองไม่ว่าจะใส่เสื้อสีอะไรเปลี่ยนเป็นชื่ออะไรก็ตาม แต่เนื้อแท้คือ ระบอบทักษิณ ตนเป็นศิษย์พระตถาคต ยึดแนวทางว่า ทุกอย่างไม่จีรังไม่ยั่งยืน ยิ่งสิ่งที่เป็นของเทียมไม่แท้ก็เสื่อมได้เร็วขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น