“เสื้อแดง” เชียงใหม่เชิดชู ตร.ใช้กำลังสลายชุมนุม-โวยอาจารย์หมอสวนดอกปฏิเสธรักษา ตร.

ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - สมาพันธ์ชาวเหนือเพื่อประชาธิปไตย บุกโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ยื่นหนังสือประท้วง หลังอาจารย์แพทย์ ม.เชียงใหม่ แถลงการณ์ไม่รับรักษา รมต.-ส.ส.รัฐบาล และเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อตอบโต้กรณีใช้ความรุนแรงทำร้ายประชาชน กล่าวหาทำผิดจรรยาบรรณแพทย์ แต่ขณะเดียวกันกลับเชิดชูว่า การใช้กำลังสลายการชุมนุมจนมีคนบาดเจ็บและตายเอื้อของตำรวจ เป็นการกระทำที่ถูกต้องและสมเกียรติผู้พิทักษ์สันติราษฎร์

เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น.วันนี้ (10 ต.ค.) กลุ่มสมาพันธ์ชาวเหนือเพื่อประชาธิปไตย ประมาณ 20 คน นำโดย นายจิรภัทร์ เรือนแก้ว ได้รวมตัวที่บริเวณหน้าโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อประท้วงกรณีที่กลุ่มอาจารย์แพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ประมาณ 30 คน ได้ร่วมกันออกแถลงการณ์ประณามและตอบโต้การใช้ความรุนแรงเข้าสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 7 ต.ค.2551 จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก ด้วยการจะงดการตรวจรักษาผู้รับบริการที่มีรายชื่ออยู่ในคณะรัฐมนตรีและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคร่วมรัฐบาลชุดปัจจุบัน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจยกเว้นในกรณีฉุกเฉิน

ทั้งนี้ สมาพันธ์ชาวเหนือเพื่อประชาธิปไตย ได้ออกแถลงการณ์เนื้อหาตอนหนึ่ง ระบุว่า การที่กลุ่มนักวิชาการและแพทย์ออกมาประกาศว่าจะไม่รับรักษาคนไข้ที่เป็นตำรวจ เป็นการกระทำที่ขัดหลักจรรยาบรรณของวิชาชีพแพทย์อย่างชัดเจน

นอกจากนี้ ในแถลงการณ์เดียวกันนี้ ยังได้ระบุว่า การเข้าปฏิบัติการสลายการชุมนุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นการปฏิบัติหน้าที่อย่างเหมาะสมที่สุดแล้ว อย่างสมเกียรติ และศักดิ์ศรีของตำรวจไทย

สมาพันธ์ชาวเหนือเพื่อประชาธิปไตย ได้ยื่นแถลงการณ์ดังกล่าวให้กับรองศาสตราจารย์ชัยรัตน์ คุณาวิกติกุล รองคณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ก่อนที่จะเดินทางต่อไปที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เพื่อมอบกระเช้าดอกไม้ให้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในการทำงาน

รองคณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า แถลงการณ์ของกลุ่มอาจารย์แพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ดังกล่าว เป็นการแสดงความคิดเห็นของอาจารย์แพทย์จำนวนหนึ่ง แต่ไม่ได้หมายรวมถึงทั้งหมด โดยเวลานี้ทางโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ยังคงให้การรักษาพยาบาลเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาเข้ารับการรักษาตามปกติ ไม่มีการปฏิเสธการรักษาแต่อย่างใด ซึ่งในช่วงวันที่ 7-9 ต.ค.2551 มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ารับการรักษาตัวทั้งสิ้น 32 คน ซึ่งขณะนี้ยังคงมีที่นอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลอีก 2 คน

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับแถลงการณ์กลุ่มอาจารย์แพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่มีการออกมาก่อนหน้านี้นั้น มีเนื้อว่า สืบเนื่องจากแถลงการณ์ของกลุ่มอาจารย์แพทย์ 8 สถาบัน เมื่อวันที่ 7 ต.ค.2551 ที่ได้แสดงความเห็นคัดค้านการใช้ความรุนแรงของตำรวจโดยใช้ระเบิด-แก๊สน้ำตา ยิงใส่ผู้ชุมนุมที่ไร้อาวุธจน ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมากและมีผู้เสียชีวิต เหตุการณ์ต่อมาได้แสดงให้เห็นว่าผู้บริหารประเทศ และเจ้าหน้าที่ตำรวจยังมิได้ตระหนักถึงผลร้ายจากการกระทำดังกล่าวที่มีต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่มีเพียงความเห็นแตกต่างจากรัฐบาล

กลุ่มอาจารย์แพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จึงมีความเห็นร่วมกันว่า ควรจะมีมาตรการทางสังคมที่แสดงถึงการไม่เห็นด้วยและไม่ยอมรับการกระทำดังกล่าวต่อผู้นำรัฐบาล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่สนับสนุนรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กระทำสิ่งที่ทารุณโหดร้ายต่อประชาชนโดย

1.จะงดการตรวจรักษาผู้รับบริการที่มีรายชื่ออยู่ในคณะรัฐมนตรีและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคร่วมรัฐบาลชุดปัจจุบัน ยกเว้นในกรณีฉุกเฉิน (ในกรณีฉุกเฉินการช่วยชีวิตบุคคลดังกล่าว แม้แพทย์จะไม่มีความมั่นใจว่า จะเป็นการช่วยเหลือหรือการทำร้ายสังคมก็ตาม แต่ตามจริยธรรมแพทย์ได้กำหนดให้การช่วยเหลือไปก่อน)

2.จะงดการตรวจรักษาผู้รับบริการที่เป็นตำรวจ เนื่องจากที่ผ่านมาได้แสดงให้เห็นว่าตำรวจไม่มีวุฒิภาวะเพียงพอในการแยกแยะความถูกผิดในวิชาชีพของตนเองได้ ทั้งๆ ที่เหน้าที่ของตำรวจคือ รักษาความสงบเรียบร้อย ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน แต่ตำรวจในปัจจุบันกลับเป็นผู้ทำร้ายประชาชนและเป็นผู้จุดชนวนความรุนแรงให้เกิดขึ้นในบ้านเมืองเสียเอง โดยยอมปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งที่ไม่ชอบธรรมของผู้บริหารบ้านเมือง ที่ต้องการเพียงแต่รักษาอำนาจตนเองบนเลือดเนื้อและชีวิตของประชาชน

3.ขอเรียกร้องให้เพื่อนแพทย์ทั่วประเทศ ร่วมกันดำเนินมาตรการกดดันทางสังคมต่อผู้นำรัฐบาล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่สนับสนุนรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่กระทำสิ่งที่ทารุณโหดร้ายต่อประชาชนโดยพร้อมเพรียงให้เป็นบทเรียน ต่อผู้ที่กระทำสิ่งที่ทารุณโหดร้ายต่อประชาชนเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก

อนึ่ง ตำรวจท่านใดที่มีความจำเป็นและมีความต้องการจะตรวจรักษากับแพทย์ อาจขอตรวจรักษากับแพทย์ได้โดยแจ้งที่แผนกทะเบียนของโรงพยาบาล ให้ทำการลบชื่อยศ-ตำแหน่ง ออกจากสมุดทะเบียนประวัติผู้ป่วย และไม่ใส่ชุดข้าราชการตำรวจมาขอรับบริการ รวมทั้งแสดงออกว่าไม่เห็นด้วยและประณามการกระทำอันโหดร้ายป่าเถื่อนเมื่อ 7 ต.ค.2551