ผู้จัดการรายวัน – ไวตามิ้ลค์ เชื่อปีหน้ารากหญ้าสะเทือน ต้านพิษเศรษฐกิจไม่ไหว ซุ่มหาหมัดเด็ดสอยรายได้ปีหน้า ภายใต้งบการตลาดเท่าเดิม หวังเติบโตตามตลาดนมเด็กพร้อมดื่ม รักษมาร์เก็ตแชร์ให้ได้ ส่วนปีนี้ยังไปได้ดี ไวตามิ้ลค์แชมป์โต 20% ไวตามิ้ลค์ เจ โต 40% ช่วงเทศกาลเจ อานิสงส์เมลามีน พบปัญหาขาดสต๊อก
นายชนิต สุวรรณพรินทร์ ผู้จัดการทั่วไปสายการตลาด บริษัท กรีนสปอต จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่ม กรีนสปอต, ไวตามิ้ลค์ และ วี-ซอย เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดนมเด็กพร้อมดื่ม(ไซส์ไม่เกิน 200 มล. มีลวดลายการ์ตูนข้างกล่อง) มูลค่า 5,150 ล้านบาท ปีนี้มีการเติบโตประมาณ 10% แบ่งออกเป็น 4 กลุ่มใหญ่ คือ 1. กลุ่มนมถั่วเหลือง สัดส่วน 16% มูลค่า800 ล้านบาท อัตราการเติบโตตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 17% 2.กลุ่มโทนิคฟรุ้ตดิ้ง สัดส่วน 42%, 3.กลุ่มโยเกิร์ตพร้อมดื่ม สัดส่วน 13% และ 4.กลุ่มนมวัว สัดส่วน 31%
ทั้งนี้ในส่วนของกลุ่มนมถั่วเหลืองในตลาดนมเด็กพร้อมดื่มนี้ ไวตามิ้ลค์ แชมป์ มีส่วนแบ่งประมาณ 32% มีการเติบโตสูงกว่าตลาดที่ 20% อยู่ในอันดับสองรองจาก แลคตาซอย มีส่วนแบ่งมากถึง 62% การเติบโตที่ 19%ในปีนี้ ขณะที่ภาพรวมตลาดนมถั่วเหลืองทั้งหมดมีอัตราการเติบโต 10% โดยตัวเลขการเติบโตของนมถั่วเหลืองพร้อมดื่มยังไม่ออกมา แต่เท่าที่สังเกตพบว่า ไวตามิ้ลค์ สูตรเจ มีอัตราการเติบโตประมาณ 40% เทียบกับช่วงเวลาปกติจะมีการเติบโตในแต่ละเดือนประมาณ 20%
นายชนิต กล่าวว่า สาเหตุที่ทำให้นมถั่วเหลืองมีอัตราการเติบโตสูงในช่วงเทศกาลเจ ส่วนหนึ่งที่สำคัญนอกจากคนหันมาดื่มมากขึ้นแล้ว ปัญหาสารเมลามีนปนเปื้อนในนมถือเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผู้บริโภคหันมาดื่มนมถั่วเหลืองมากขึ้น จนทำให้ช่วงดังกล่าวบริษัทฯไม่สามารถผลิตสินค้าได้ทัน จนทางคู่ค้ารายสำคัญอย่างเซเว่นอีเลฟเว่น ต้องขอเพิ่มสินค้าเข้ามา แต่ทางบริษัทฯไม่สามารถทำได้ ซึ่งปัญหาดังกล่าวได้มีการเจรจาตกลงกันได้แล้ว
“ปกติต่อปีบริษัทฯบริษัทฯได้ถั่วเหลือง ซึ่งมาจากในประเทศ 80% และนำเข้า 20% อัตราการผลิตต่อปีจึงวางไว้ตั้งแต่ต้นปีแล้ว ซึ่งเหตุการณ์ในช่วงเทศกาลเจที่เกิดขึ้น ถือเป็นเหตุสุดวิสัย ที่ทางบริษัทฯไม่สามารถผลิตสินค้าได้ทัน จึงได้มีการแจ้งให้ทางเซเว่นอีเลฟเว่นทราบ จนทำให้ตกลงกันได้”
ทั้งนี้ในอีก 2 เดือนที่เหลือนี้ ซึ่งหมดช่วงหน้าขายของนมถั่วเหลืองไปแล้ว แต่บริษัทฯยังจะทำตลาดอย่างต่อเนื่อง ภายใต้งบการตลาดกว่า 85 ล้านบาท ในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะในแง่ของภาพยนตร์โฆษณาจะมีถึง 2 เรื่อง สำหรับไวตามิ้ลค์ และไวตามิ้ลค์ แชมป์
อย่างไรก็ตามในปีหน้า มองว่าปัญหาเรื่องเศรษฐกิจจะรุนแรงกว่าในปีนี้ และผู้บริโภคกลุ่มรากหญ้าจะได้รับผลกระทบมากที่สุด ดังนั้นทางบริษัทฯมองว่าการทำตลาดในปีหน้า ควรจะต้องเดินตามรอยพระราชดำรัส เรื่องเศรษฐกิจพอเพียง ภายใต้งบการตลาดใกล้เคียงกับปีนี้ แต่ต้องใช้ให้ดีให้เกิดผลประโยชน์สูงสุด ซึ่งในส่วนของผลิตภัณฑ์นั้น มองว่าจะมุ่งเน้นเพิ่มรสชาติใหม่ๆ หรือเพิ่มคุณค่าทางอาหารให้มาขึ้น แต่จำหน่ายในราคาเดิม คาดว่าจะเป็นกลยุทธ์หลักที่จะสร้างรายได้ในปีหน้า ซึ่งตั้งเป้าไว้ว่า จะต้องมีการเติบโตใกล้เคียงกับตลาด หรือต้องรักษามาร์เก็ตแชร์ไว้ให้ได้
นายชนิต สุวรรณพรินทร์ ผู้จัดการทั่วไปสายการตลาด บริษัท กรีนสปอต จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่ม กรีนสปอต, ไวตามิ้ลค์ และ วี-ซอย เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดนมเด็กพร้อมดื่ม(ไซส์ไม่เกิน 200 มล. มีลวดลายการ์ตูนข้างกล่อง) มูลค่า 5,150 ล้านบาท ปีนี้มีการเติบโตประมาณ 10% แบ่งออกเป็น 4 กลุ่มใหญ่ คือ 1. กลุ่มนมถั่วเหลือง สัดส่วน 16% มูลค่า800 ล้านบาท อัตราการเติบโตตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 17% 2.กลุ่มโทนิคฟรุ้ตดิ้ง สัดส่วน 42%, 3.กลุ่มโยเกิร์ตพร้อมดื่ม สัดส่วน 13% และ 4.กลุ่มนมวัว สัดส่วน 31%
ทั้งนี้ในส่วนของกลุ่มนมถั่วเหลืองในตลาดนมเด็กพร้อมดื่มนี้ ไวตามิ้ลค์ แชมป์ มีส่วนแบ่งประมาณ 32% มีการเติบโตสูงกว่าตลาดที่ 20% อยู่ในอันดับสองรองจาก แลคตาซอย มีส่วนแบ่งมากถึง 62% การเติบโตที่ 19%ในปีนี้ ขณะที่ภาพรวมตลาดนมถั่วเหลืองทั้งหมดมีอัตราการเติบโต 10% โดยตัวเลขการเติบโตของนมถั่วเหลืองพร้อมดื่มยังไม่ออกมา แต่เท่าที่สังเกตพบว่า ไวตามิ้ลค์ สูตรเจ มีอัตราการเติบโตประมาณ 40% เทียบกับช่วงเวลาปกติจะมีการเติบโตในแต่ละเดือนประมาณ 20%
นายชนิต กล่าวว่า สาเหตุที่ทำให้นมถั่วเหลืองมีอัตราการเติบโตสูงในช่วงเทศกาลเจ ส่วนหนึ่งที่สำคัญนอกจากคนหันมาดื่มมากขึ้นแล้ว ปัญหาสารเมลามีนปนเปื้อนในนมถือเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผู้บริโภคหันมาดื่มนมถั่วเหลืองมากขึ้น จนทำให้ช่วงดังกล่าวบริษัทฯไม่สามารถผลิตสินค้าได้ทัน จนทางคู่ค้ารายสำคัญอย่างเซเว่นอีเลฟเว่น ต้องขอเพิ่มสินค้าเข้ามา แต่ทางบริษัทฯไม่สามารถทำได้ ซึ่งปัญหาดังกล่าวได้มีการเจรจาตกลงกันได้แล้ว
“ปกติต่อปีบริษัทฯบริษัทฯได้ถั่วเหลือง ซึ่งมาจากในประเทศ 80% และนำเข้า 20% อัตราการผลิตต่อปีจึงวางไว้ตั้งแต่ต้นปีแล้ว ซึ่งเหตุการณ์ในช่วงเทศกาลเจที่เกิดขึ้น ถือเป็นเหตุสุดวิสัย ที่ทางบริษัทฯไม่สามารถผลิตสินค้าได้ทัน จึงได้มีการแจ้งให้ทางเซเว่นอีเลฟเว่นทราบ จนทำให้ตกลงกันได้”
ทั้งนี้ในอีก 2 เดือนที่เหลือนี้ ซึ่งหมดช่วงหน้าขายของนมถั่วเหลืองไปแล้ว แต่บริษัทฯยังจะทำตลาดอย่างต่อเนื่อง ภายใต้งบการตลาดกว่า 85 ล้านบาท ในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะในแง่ของภาพยนตร์โฆษณาจะมีถึง 2 เรื่อง สำหรับไวตามิ้ลค์ และไวตามิ้ลค์ แชมป์
อย่างไรก็ตามในปีหน้า มองว่าปัญหาเรื่องเศรษฐกิจจะรุนแรงกว่าในปีนี้ และผู้บริโภคกลุ่มรากหญ้าจะได้รับผลกระทบมากที่สุด ดังนั้นทางบริษัทฯมองว่าการทำตลาดในปีหน้า ควรจะต้องเดินตามรอยพระราชดำรัส เรื่องเศรษฐกิจพอเพียง ภายใต้งบการตลาดใกล้เคียงกับปีนี้ แต่ต้องใช้ให้ดีให้เกิดผลประโยชน์สูงสุด ซึ่งในส่วนของผลิตภัณฑ์นั้น มองว่าจะมุ่งเน้นเพิ่มรสชาติใหม่ๆ หรือเพิ่มคุณค่าทางอาหารให้มาขึ้น แต่จำหน่ายในราคาเดิม คาดว่าจะเป็นกลยุทธ์หลักที่จะสร้างรายได้ในปีหน้า ซึ่งตั้งเป้าไว้ว่า จะต้องมีการเติบโตใกล้เคียงกับตลาด หรือต้องรักษามาร์เก็ตแชร์ไว้ให้ได้