ยัมฯ เปิดเกมรุกกระหน่ำตลาดฟาสต์ฟู้ดไทย สวนกระแสวิกฤติเศรษฐกิจ ปีหน้าทุ่มงบ 1,700 ล้านบาทสูงเป็นประวัติการณ์รอบ 30 ปี ปูพรม เคเอฟซี 100 สาขา ลงรากลึกระดับอำเภอ พิซซ่าฮัท 20 สาขา รวมกว่า 120 สาขา
นายศรัณย์ สมุทรโคจร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ยัม เรสเทอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นแล ประเทศไทย จำกัด ผู้บริหารร้านเคเอฟซีและร้านพิซซ่าฮัท กล่าวว่า ในปีหน้าจะเป็นปีที่บริษัทยัมลงทุนในประเทศไทยมากที่สุดแทบจะเป็นประวัติการณ์ของธุรกิจเคเอฟซีและพิซซ่าฮัทที่เปิดดำเนินกิจการในไทยมานานเกือบ 30 ปีก็ว่าได้ โดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุนมากกว่า 1,700 ล้านบาท
"ในภาวะเศรษฐกิจตอนนี้ที่ทุกคนมองว่าเป็นวิกฤติ แต่เรามองว่ามันไม่ได้เป็นวิกฤตเพราะเราถือว่าทุกช่วงวิกฤตตลอดเวลา จึงทำให้เราปรับตัวมาตลอด ไม่ใช่มาปรับตอนที่มีเหตุไม่ดี หรือภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่ ดังนั้นเราจึงพร้อมตลอดเวลา ส่วนธุรกิจเราก็เป็นเงินสด มีเงินพร้อมลงทุนและบริษัทแม่ก็พร้อมสนับสนุน อีกทั้งตอนนี้พื้นที่เปิดร้านก็หาง่ายขึ้น มีคนมาเสนอพื้นที่มากมาย ซัปพลายเออร์ก็ให้การสนับสนุนอย่างดี ตอนนี้เราถือว่าเป็นโอกาสของเรามากกว่า"
ทั้งนี้งบลงทุน 1,700 ล้านบาทในปีหน้า แบ่งเป็น ร้านเคเอฟซี ลงทุน 1,400 ล้านบาท เปิดเพิ่มอีก 100 สาขา ส่วนร้านพิซซ่าฮัท ลงทุนอีก 300 ล้านบาท เปิดเพิ่มอีก 20 สาขา (แบ่งจำนวนสาขาและงบลงทุนเป็นของยัม 70% และของเครือเซ็นทรัล 30%) โดยคาดว่าจะใช้งบตลาดรวมมากกว่า 500 ล้านบาท ขณะที่ปีนี้เปิดร้านเคเอฟซีใหม่ประมาณ 50 สาขา ใช้งบกว่า 500 ล้านบาท และร้านพิซซ่าฮัทประมาณ 12 สาขา ใช้งบประมาณ 220 ล้านบาท
เป้าหมายร้านเคเอฟซีต้องการที่จะลงลึกในระดับอำเภอ โดยเป้าหมายว่าภายใน 5 ปี จะต้องมีทุกอำเภอที่ใหญ่ๆ ซึ่งในประเทศไทยมีมากกว่า 700 อำเภอ ซึ่งขณะนี้เริ่มทยอยเปิดในระดับอำเภอแล้วเช่น อ.ฝาง, ทุ่งสง, เวียงสะ, บ้านบึง,หลังสวน และเตรียมที่จะเปิดอีกเช่นที่ อ.บ้านหือ ปัจจุบันบริษัทฯมีร้านพิซซ่าฮัท ประมาณ 87 สาขา ส่วนเคเอฟซีจำนวน 350 สาขา
อย่างไรก็ตามหากมองภาพรวมธุรกิจฟาสต์ฟู้ดหรือคิวเอสอาร์แล้วไม่มีการเติบโตเลย แต่ของบริษัทฯ นั้นมีการเติบโตที่ดีจากการทำตลาดโปรโมชัน ออกเมนูใหม่ และการเติบโตจากสาขาเดิม โดยที่พิซซ่าฮัทเติบโต 34% ในเดือนตุลาคม และไตรมาสที่สามนี้เติบโต 30% และมองว่าปีหน้าทั้งปีพิซซ่าฮัทจะเติบโต 15%
ล่าสุดในส่วนของพิซซ่าฮัทนั้น ได้ปรับเปลี่ยนแผนกลยุทธ์การตลาดด้วยการเปิดตัวเมนูใหม่ล่วงหน้านานถึงครึ่งปี และตั้งเป้าหมายการเติบโตที่ 15% สัดส่วนมาจากดิลิเวอรี่ 60% และนั่งทานในร้าน 40% ส่วนเมนูใหม่ที่ทยอยออกมาในปีหน้าคือ "ชีสซี่ ชริมป์ ซอสเซจ ไบท์", พิซซ่าหน้านกกระจอกเทศ, พิซซ่าสตัฟฟ์, พิซซ่าข้าว, ชริมป์การ์ลิคครีมมี่ เป็นต้น โดยยึดคอนเซปต์การพัฒนา 3 ประการคือ 1.ท็อปปิ้งหรือหน้าพิซซ่า 2.รูปแบบพิซซ่า และ 3. แป้งพิซซ่า
นายศรัณย์ สมุทรโคจร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ยัม เรสเทอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นแล ประเทศไทย จำกัด ผู้บริหารร้านเคเอฟซีและร้านพิซซ่าฮัท กล่าวว่า ในปีหน้าจะเป็นปีที่บริษัทยัมลงทุนในประเทศไทยมากที่สุดแทบจะเป็นประวัติการณ์ของธุรกิจเคเอฟซีและพิซซ่าฮัทที่เปิดดำเนินกิจการในไทยมานานเกือบ 30 ปีก็ว่าได้ โดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุนมากกว่า 1,700 ล้านบาท
"ในภาวะเศรษฐกิจตอนนี้ที่ทุกคนมองว่าเป็นวิกฤติ แต่เรามองว่ามันไม่ได้เป็นวิกฤตเพราะเราถือว่าทุกช่วงวิกฤตตลอดเวลา จึงทำให้เราปรับตัวมาตลอด ไม่ใช่มาปรับตอนที่มีเหตุไม่ดี หรือภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่ ดังนั้นเราจึงพร้อมตลอดเวลา ส่วนธุรกิจเราก็เป็นเงินสด มีเงินพร้อมลงทุนและบริษัทแม่ก็พร้อมสนับสนุน อีกทั้งตอนนี้พื้นที่เปิดร้านก็หาง่ายขึ้น มีคนมาเสนอพื้นที่มากมาย ซัปพลายเออร์ก็ให้การสนับสนุนอย่างดี ตอนนี้เราถือว่าเป็นโอกาสของเรามากกว่า"
ทั้งนี้งบลงทุน 1,700 ล้านบาทในปีหน้า แบ่งเป็น ร้านเคเอฟซี ลงทุน 1,400 ล้านบาท เปิดเพิ่มอีก 100 สาขา ส่วนร้านพิซซ่าฮัท ลงทุนอีก 300 ล้านบาท เปิดเพิ่มอีก 20 สาขา (แบ่งจำนวนสาขาและงบลงทุนเป็นของยัม 70% และของเครือเซ็นทรัล 30%) โดยคาดว่าจะใช้งบตลาดรวมมากกว่า 500 ล้านบาท ขณะที่ปีนี้เปิดร้านเคเอฟซีใหม่ประมาณ 50 สาขา ใช้งบกว่า 500 ล้านบาท และร้านพิซซ่าฮัทประมาณ 12 สาขา ใช้งบประมาณ 220 ล้านบาท
เป้าหมายร้านเคเอฟซีต้องการที่จะลงลึกในระดับอำเภอ โดยเป้าหมายว่าภายใน 5 ปี จะต้องมีทุกอำเภอที่ใหญ่ๆ ซึ่งในประเทศไทยมีมากกว่า 700 อำเภอ ซึ่งขณะนี้เริ่มทยอยเปิดในระดับอำเภอแล้วเช่น อ.ฝาง, ทุ่งสง, เวียงสะ, บ้านบึง,หลังสวน และเตรียมที่จะเปิดอีกเช่นที่ อ.บ้านหือ ปัจจุบันบริษัทฯมีร้านพิซซ่าฮัท ประมาณ 87 สาขา ส่วนเคเอฟซีจำนวน 350 สาขา
อย่างไรก็ตามหากมองภาพรวมธุรกิจฟาสต์ฟู้ดหรือคิวเอสอาร์แล้วไม่มีการเติบโตเลย แต่ของบริษัทฯ นั้นมีการเติบโตที่ดีจากการทำตลาดโปรโมชัน ออกเมนูใหม่ และการเติบโตจากสาขาเดิม โดยที่พิซซ่าฮัทเติบโต 34% ในเดือนตุลาคม และไตรมาสที่สามนี้เติบโต 30% และมองว่าปีหน้าทั้งปีพิซซ่าฮัทจะเติบโต 15%
ล่าสุดในส่วนของพิซซ่าฮัทนั้น ได้ปรับเปลี่ยนแผนกลยุทธ์การตลาดด้วยการเปิดตัวเมนูใหม่ล่วงหน้านานถึงครึ่งปี และตั้งเป้าหมายการเติบโตที่ 15% สัดส่วนมาจากดิลิเวอรี่ 60% และนั่งทานในร้าน 40% ส่วนเมนูใหม่ที่ทยอยออกมาในปีหน้าคือ "ชีสซี่ ชริมป์ ซอสเซจ ไบท์", พิซซ่าหน้านกกระจอกเทศ, พิซซ่าสตัฟฟ์, พิซซ่าข้าว, ชริมป์การ์ลิคครีมมี่ เป็นต้น โดยยึดคอนเซปต์การพัฒนา 3 ประการคือ 1.ท็อปปิ้งหรือหน้าพิซซ่า 2.รูปแบบพิซซ่า และ 3. แป้งพิซซ่า