ผู้จัดการรายวัน-“พาณิชย์”กล่อมสำเร็จ อาหารสัตว์ปรับลดราคา 5% มีผลทันที หลังราคาวัตถุดิบลดลงต่อเนื่อง พร้อมหาทางลดราคาอาหารสัตว์ลงอีกทาง ด้วยการพิจารณาปรับลดภาษีนำเข้ากากถั่วเหลืองจาก 4% เหลือ 0-2%
นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังการหารือกับผู้ประกอบการอาหารสัตว์ เพื่อหารือเรื่องราคาอาหารสัตว์ วานนี้ (27 ต.ค.) ว่า ผู้ประกอบการยินดีที่จะให้ความร่วมมือในการปรับลดราคาอาหารสัตว์ลงมา 5% จากราคาในปัจจุบัน ตามราคาวัตถุดิบในการผลิตอาหารสัตว์หลายๆ รายการที่ได้ปรับราคาลดลง โดยเฉพาะอาหารสัตว์บกจะลดลงมากกว่าอาหารสัตว์น้ำ มีผลตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ซึ่งจะช่วยให้ต้นทุนในการเลี้ยงสัตว์ของเกษตรกรลดลง
“ผู้ประกอบการจะปรับลดราคาอาหารสัตว์ลงทันที 5% แต่อาจจะปรับลดลงมากน้อยไม่เท่ากัน แต่โดยเฉลี่ย คือ 5% ตามราคาวัตถุดิบที่นำมาผลิตอาหารสัตว์ที่ได้ปรับราคาลดลง โดยอาหารสัตว์บก สำหรับเลี้ยงไก่เนื้อ ไก่ไข่ และหมู จะลดลงมากกว่า เพราะวัตถุดิบลดมากกว่า แต่อาหารสัตว์น้ำ สำหรับเลี้ยงกุ้ง จะลดลงน้อยกว่า เพราะวัตถุดิบ ลดลงไม่มาก แต่ทั้งนี้ การปรับลดราคาอาหารสัตว์ทุกชนิดจะมีผลทันที”นายยรรยงกล่าว
สำหรับราคาวัตถุดิบในการผลิตอาหารสัตว์ ได้แก่ ข้าวโพดในเดือนก.ค. ราคาอยู่ที่ 9.32 บาท/กก. เดือนต.ค.อยู่ที่ 8.07 บาท/กก. กากถั่วเหลืองจาก 17.34 บาท/กก. เหลือ 16.99 บาท/กก. มันเม็ด จาก 5.60 บาท/กก. เหลือ 4.50 บาท/กก. ปลายข้าว ราคา 14.08 บาท ไม่มีการเปลี่ยนแปลง รำข้าว จาก 9.70 บาท/กก. เหลือ 6.70 บาท/กก. และปลาป่น มีการปรับขึ้นราคาจาก 28.85 บาท/กก. เป็น 30.78 บาท/กก.
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์จะไม่มีการปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบทุกรายการ มีแนวโน้มราคาทรงตัว และการแทรกแซงของรัฐบาลก็ไม่ส่งผลให้ราคาปรับเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันมาก โดยมันสำปะหลังจะรับจำนำแบบขั้นบันได 1.80-2.05 บาท/กก. ข้าวโพด ราคา 8.50 บาท/กก.
นายยรรยงกล่าวว่า กรมฯ ได้ขอให้ผู้ประกอบการแจ้งราคาอาหารสัตว์ที่ปรับลดลงแล้วมาให้กรมฯ ทุกรายการ เพื่อที่จะได้ตรวจสอบว่าราคาขายปลายทางมีการปรับลดลงตามที่ผู้ประกอบการได้แจ้งหรือไม่ เช่น ราคาอาหารสัตว์สำหรับเลี้ยงไก่ไข่ ราคาเดือนก.ค.อยู่ที่ 454 บาท/ถุง 30 กก. ราคาใหม่หน้าโรงงานจะอยู่ที่ 418 บาท/ถุง 30 กก. และราคาขายปลีกจะอยู่ที่ 431 บาท/ถุง 30 กก. อาหารหมู เดิม 489 บาท/ถุง 30 กก. ราคาใหม่หน้าโรงงานอยู่ที่ 435 บาท/ถุง 30 กก. และขายปลีก 460 บาท/ถุง 30 กก.
นอกจากนี้ กรมฯ กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาการปรับลดภาษีนำเข้ากากถั่งเหลือง จาก 4% โดยได้ศึกษา 2 แนวทาง คือ ลดเหลือ 0% กับลดเหลือ 0-2% ซึ่งจะพิจารณาดูว่าการปรับลดภาษีดังกล่าวจะช่วยลดต้นทุนในการผลิตอาหารสัตว์ลงเท่าใด และจะต้องเสนอให้คณะกรรมการนโยบายวัตถุดิบอาหารสัตว์พิจารณา เพราะการปรับลดภาษีทำให้กระทรวงการคลังเสียรายได้จากภาษีประมาณ 1,300 ล้านบาท แต่การปรับลดภาษี จะช่วยให้ต้นทุนในการผลิตอาหารสัตว์ถูกลง
ผู้ประกอบการอาหารสัตว์ที่ได้เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ ได้แก่ สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย บริษัท กรุงเทพผลิตผลอุตสาหกรรมการเกษตร จำกัด บริษัท ลีพัฒนาอาหารสัตว์ จำกัด บริษัท เบทาโกร จำกัด บริษัท แหลมทองสหการ จำกัด บริษัท ผลิตภัณฑ์อาหารเซ็นทรัล จำกัด และบริษัท กรุงไทยอาหารสัตว์ จำกัด ซึ่งมีสัดส่วนการผลิตรวมกันประมาณ 70%
นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังการหารือกับผู้ประกอบการอาหารสัตว์ เพื่อหารือเรื่องราคาอาหารสัตว์ วานนี้ (27 ต.ค.) ว่า ผู้ประกอบการยินดีที่จะให้ความร่วมมือในการปรับลดราคาอาหารสัตว์ลงมา 5% จากราคาในปัจจุบัน ตามราคาวัตถุดิบในการผลิตอาหารสัตว์หลายๆ รายการที่ได้ปรับราคาลดลง โดยเฉพาะอาหารสัตว์บกจะลดลงมากกว่าอาหารสัตว์น้ำ มีผลตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ซึ่งจะช่วยให้ต้นทุนในการเลี้ยงสัตว์ของเกษตรกรลดลง
“ผู้ประกอบการจะปรับลดราคาอาหารสัตว์ลงทันที 5% แต่อาจจะปรับลดลงมากน้อยไม่เท่ากัน แต่โดยเฉลี่ย คือ 5% ตามราคาวัตถุดิบที่นำมาผลิตอาหารสัตว์ที่ได้ปรับราคาลดลง โดยอาหารสัตว์บก สำหรับเลี้ยงไก่เนื้อ ไก่ไข่ และหมู จะลดลงมากกว่า เพราะวัตถุดิบลดมากกว่า แต่อาหารสัตว์น้ำ สำหรับเลี้ยงกุ้ง จะลดลงน้อยกว่า เพราะวัตถุดิบ ลดลงไม่มาก แต่ทั้งนี้ การปรับลดราคาอาหารสัตว์ทุกชนิดจะมีผลทันที”นายยรรยงกล่าว
สำหรับราคาวัตถุดิบในการผลิตอาหารสัตว์ ได้แก่ ข้าวโพดในเดือนก.ค. ราคาอยู่ที่ 9.32 บาท/กก. เดือนต.ค.อยู่ที่ 8.07 บาท/กก. กากถั่วเหลืองจาก 17.34 บาท/กก. เหลือ 16.99 บาท/กก. มันเม็ด จาก 5.60 บาท/กก. เหลือ 4.50 บาท/กก. ปลายข้าว ราคา 14.08 บาท ไม่มีการเปลี่ยนแปลง รำข้าว จาก 9.70 บาท/กก. เหลือ 6.70 บาท/กก. และปลาป่น มีการปรับขึ้นราคาจาก 28.85 บาท/กก. เป็น 30.78 บาท/กก.
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์จะไม่มีการปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบทุกรายการ มีแนวโน้มราคาทรงตัว และการแทรกแซงของรัฐบาลก็ไม่ส่งผลให้ราคาปรับเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันมาก โดยมันสำปะหลังจะรับจำนำแบบขั้นบันได 1.80-2.05 บาท/กก. ข้าวโพด ราคา 8.50 บาท/กก.
นายยรรยงกล่าวว่า กรมฯ ได้ขอให้ผู้ประกอบการแจ้งราคาอาหารสัตว์ที่ปรับลดลงแล้วมาให้กรมฯ ทุกรายการ เพื่อที่จะได้ตรวจสอบว่าราคาขายปลายทางมีการปรับลดลงตามที่ผู้ประกอบการได้แจ้งหรือไม่ เช่น ราคาอาหารสัตว์สำหรับเลี้ยงไก่ไข่ ราคาเดือนก.ค.อยู่ที่ 454 บาท/ถุง 30 กก. ราคาใหม่หน้าโรงงานจะอยู่ที่ 418 บาท/ถุง 30 กก. และราคาขายปลีกจะอยู่ที่ 431 บาท/ถุง 30 กก. อาหารหมู เดิม 489 บาท/ถุง 30 กก. ราคาใหม่หน้าโรงงานอยู่ที่ 435 บาท/ถุง 30 กก. และขายปลีก 460 บาท/ถุง 30 กก.
นอกจากนี้ กรมฯ กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาการปรับลดภาษีนำเข้ากากถั่งเหลือง จาก 4% โดยได้ศึกษา 2 แนวทาง คือ ลดเหลือ 0% กับลดเหลือ 0-2% ซึ่งจะพิจารณาดูว่าการปรับลดภาษีดังกล่าวจะช่วยลดต้นทุนในการผลิตอาหารสัตว์ลงเท่าใด และจะต้องเสนอให้คณะกรรมการนโยบายวัตถุดิบอาหารสัตว์พิจารณา เพราะการปรับลดภาษีทำให้กระทรวงการคลังเสียรายได้จากภาษีประมาณ 1,300 ล้านบาท แต่การปรับลดภาษี จะช่วยให้ต้นทุนในการผลิตอาหารสัตว์ถูกลง
ผู้ประกอบการอาหารสัตว์ที่ได้เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ ได้แก่ สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย บริษัท กรุงเทพผลิตผลอุตสาหกรรมการเกษตร จำกัด บริษัท ลีพัฒนาอาหารสัตว์ จำกัด บริษัท เบทาโกร จำกัด บริษัท แหลมทองสหการ จำกัด บริษัท ผลิตภัณฑ์อาหารเซ็นทรัล จำกัด และบริษัท กรุงไทยอาหารสัตว์ จำกัด ซึ่งมีสัดส่วนการผลิตรวมกันประมาณ 70%
