เอเอฟพี - ศึกภายในพรรครีพับลิกันปะทุ หลังแซราห์ แพลินแตกคอกับทีมรณรงค์หาเสียงของแมคเคนจนกลายเป็นข่าวแพร่ออกมาในวันเสาร์ (25) ทั้งๆ ที่เหลือเวลาเพียงราว 10 วันก็จะถึงกำหนดชี้ชะตาผู้นำสหรัฐฯ คนใหม่ และผลสำรวจความคิดเห็นหลายสำนักระบุตรงกันว่าแพลินกำลังเป็นตัวถ่วงชัยชนะของจอห์น แมคเคน ในขณะที่บารัค โอบามามีคะแนนนำแบบลอยลำ
ปัญหาความไม่ลงรอยกันภายในทีมรณรงค์หาเสียงของแมคเคนปรากฏเป็นรายงานเผยแพร่ในเว็บไซต์ข่าวเลือกตั้งสหรัฐฯชื่อดัง Politico.com ซึ่งระบุว่าทีมหาเสียงของแพลินได้กล่าวหาว่าที่ปรึกษาอาวุโสของแมคเคนจัดการเรื่องการหาเสียงของเธอผิดพลาด โดยเว็บไซต์ดังกล่าวได้อ้างแหล่งข่าวจากคนของรีพับลิกันที่ใกล้ชิดกับแพลิน 4 คน ซึ่งระบุว่า แพลินรู้สึกอึดอัดมากขึ้นเรื่อยๆ กับทีมรณรงค์หาเสียงของพรรคที่ให้คำแนะนำต่างๆ กับเธอ นอกจากนั้นผู้สนับสนุนเธอก็กล่าวหาพวกที่ปรึกษาด้วยว่าทำเรื่องผิดพลาดในด้านการประชาสัมพันธ์หลายต่อหลายครั้ง
รายงานดังกล่าวระบุว่า ยิ่งวันแพลินก็ยิ่งไม่สนใจกับคำแนะนำต่างๆ ของเหล่าที่ปรึกษา และชี้ว่าแพลินกำลังเริ่มสร้างภาพความเป็นตัวตนของเธอเองเพื่อการไต่เต้าสู่ทำเนียบขาวในอนาคต
"เธอหมดความมั่นใจในตัวทีมงานส่วนใหญ่แล้ว" Politico.com อ้างคนของรีพับลิกันและเสริมว่าแพลินนั้นเริ่ม "เล่นไปตามใจตัวเอง" ต่อหน้าสาธารณชนบ้างแล้ว
ส่วนพวกผู้สนับสนุนแพลินก็กล่าวหาว่า สตีฟ ชมิดท์ นักยุทธศาสตร์ของแมคเคน และนิโคล วอลเลซ ผู้ช่วยอาวุโสของแมคเคน โยนความผิดให้กับแพลินในเรื่องความล้มเหลวของแผนการหาเสียง เพื่อเบี่ยงเบนไม่ให้ตนเองต้องถูกกล่าวโทษ
ทางด้านวอลเลซได้ให้ความเห็นต่อเรื่องนี้ผ่านทางอีเมลว่า "ผมไม่มีความเห็นอื่นใดในเรื่องนี้ ถ้าหากมีใครต้องการดึงผมเข้าไปร่วมขบวนด้วย ผมก็มีความเชื่อส่วนตัวว่าสิ่งที่ดีที่สุดที่ควรทำก็คือปล่อยมันไว้อย่างนั้น"
อย่างไรก็ดี Polotico.com ได้อ้างคำพูดของที่ปรึกษาของแมคเคนที่ตอบโต้รายงานดังกล่าวอย่างโกรธเกรี้ยว โดยยกให้แพลินเป็นพวก "ดีวา (นักร้องสตรีคนดัง)ที่ไม่ฟังคำแนะนำของใครอีกแล้ว เธอไม่มีความรู้สึกไว้วางใจพวกเรา รวมทั้งครอบครัวของเธอ หรือใครทั้งนั้น"
ทั้งนี้ ซีเอ็นเอ็นอ้างแหล่งข่าวคนหนึ่งในทีมหาเสียงของแมคเคนที่บอกว่า "เธอกำลังเล่นเกมเพื่ออนาคตของตัวเอง และมองว่าตัวเองจะเป็นผู้นำคนต่อไปของพรรค คุณว่าจริงไหมล่ะ พวกดีวาเชื่อมั่นแต่ตัวเอง เพราะมองเห็นตัวเองเป็นจุดเริ่มต้นและจุดจบของภูมิปัญญาทั้งปวง"
ที่ปรึกษาอาวุโสของแมคเคนอีกคนหนึ่งบอกว่า "เรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นกับทีมหาเสียงที่เป็นฝ่ายตามหลัง มันเปิดเผยให้เห็นด้านเลวร้ายที่สุดของผู้คน การชี้นิ้วว่าคนอื่น และการโยนบาปกันไปมา"
ทั้งนี้ ข่าวความขัดแย้งภายในทีมรณรงค์หาเสียงของแมคเคนมีขึ้นหลังจากผลสำรวจความคิดเห็นหลายสำนักระบุว่าขณะนี้แพลินกำลังเป็นตัวถ่วงโอกาสชนะของรีพับลิกัน โดยผลสำรวจของวอลล์สตรีทเจอร์นัล/เอ็นบีซีระบุเมื่อวันพุธ(22)ว่า นับวันชาวอเมริกันก็จะยิ่งเชื่อน้อยลงว่าเธอมีคุณสมบัติเหมาะสำหรับตำแหน่งผู้นำเบอร์สองของประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับผลสำรวจก่อนหน้านี้ของเอบีซี/วอชิงตันโพสต์ที่ว่า 6 ใน 10 ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งมองว่าแพลินนั้นขาดประสบการณ์สำหรับการเป็นประธานาธิบดีที่มีประสิทธิภาพ และ "ผู้ออกเสียงราวหนึ่งในสามคงจะเลือกแมคเคนน้อยลงเพราะตัวเธอ"
ยิ่งกว่านั้น หลังจากที่แพลินถูกสภามลรัฐตัดสินว่าทำผิดในกรณีใช้อำนาจหน้าที่ของผู้ว่าการรัฐแอลาสกาในทางมิชอบ โดยสั่งปลดอดีตน้องเขยของเธอในกรณีอื้อฉาว "ทรูปเปอร์เกต" ขณะนี้เธอยังกำลังถูกสอบสวนอีกว่าเธอได้กระทำการละเมิดจริยธรรมในกรณีดังกล่าวหรือไม่ ทั้งนี้ยังไม่นับรวมกรณีที่เธอตกเป็นข่าวในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ได้ใช้เงินกองกลางของพรรคซื้อเสื้อผ้าไปถึง 150,000 ดอลลาร์ตั้งแต่เดือนสิงหาคม ซึ่งทำลายภาพลักษณ์ความเป็นคนติดดินแบบคุณแม่นักทำงานที่ต้องดูแลลูกไปด้วยของเธอ
ปัญหาความไม่ลงรอยกันภายในทีมรณรงค์หาเสียงของแมคเคนปรากฏเป็นรายงานเผยแพร่ในเว็บไซต์ข่าวเลือกตั้งสหรัฐฯชื่อดัง Politico.com ซึ่งระบุว่าทีมหาเสียงของแพลินได้กล่าวหาว่าที่ปรึกษาอาวุโสของแมคเคนจัดการเรื่องการหาเสียงของเธอผิดพลาด โดยเว็บไซต์ดังกล่าวได้อ้างแหล่งข่าวจากคนของรีพับลิกันที่ใกล้ชิดกับแพลิน 4 คน ซึ่งระบุว่า แพลินรู้สึกอึดอัดมากขึ้นเรื่อยๆ กับทีมรณรงค์หาเสียงของพรรคที่ให้คำแนะนำต่างๆ กับเธอ นอกจากนั้นผู้สนับสนุนเธอก็กล่าวหาพวกที่ปรึกษาด้วยว่าทำเรื่องผิดพลาดในด้านการประชาสัมพันธ์หลายต่อหลายครั้ง
รายงานดังกล่าวระบุว่า ยิ่งวันแพลินก็ยิ่งไม่สนใจกับคำแนะนำต่างๆ ของเหล่าที่ปรึกษา และชี้ว่าแพลินกำลังเริ่มสร้างภาพความเป็นตัวตนของเธอเองเพื่อการไต่เต้าสู่ทำเนียบขาวในอนาคต
"เธอหมดความมั่นใจในตัวทีมงานส่วนใหญ่แล้ว" Politico.com อ้างคนของรีพับลิกันและเสริมว่าแพลินนั้นเริ่ม "เล่นไปตามใจตัวเอง" ต่อหน้าสาธารณชนบ้างแล้ว
ส่วนพวกผู้สนับสนุนแพลินก็กล่าวหาว่า สตีฟ ชมิดท์ นักยุทธศาสตร์ของแมคเคน และนิโคล วอลเลซ ผู้ช่วยอาวุโสของแมคเคน โยนความผิดให้กับแพลินในเรื่องความล้มเหลวของแผนการหาเสียง เพื่อเบี่ยงเบนไม่ให้ตนเองต้องถูกกล่าวโทษ
ทางด้านวอลเลซได้ให้ความเห็นต่อเรื่องนี้ผ่านทางอีเมลว่า "ผมไม่มีความเห็นอื่นใดในเรื่องนี้ ถ้าหากมีใครต้องการดึงผมเข้าไปร่วมขบวนด้วย ผมก็มีความเชื่อส่วนตัวว่าสิ่งที่ดีที่สุดที่ควรทำก็คือปล่อยมันไว้อย่างนั้น"
อย่างไรก็ดี Polotico.com ได้อ้างคำพูดของที่ปรึกษาของแมคเคนที่ตอบโต้รายงานดังกล่าวอย่างโกรธเกรี้ยว โดยยกให้แพลินเป็นพวก "ดีวา (นักร้องสตรีคนดัง)ที่ไม่ฟังคำแนะนำของใครอีกแล้ว เธอไม่มีความรู้สึกไว้วางใจพวกเรา รวมทั้งครอบครัวของเธอ หรือใครทั้งนั้น"
ทั้งนี้ ซีเอ็นเอ็นอ้างแหล่งข่าวคนหนึ่งในทีมหาเสียงของแมคเคนที่บอกว่า "เธอกำลังเล่นเกมเพื่ออนาคตของตัวเอง และมองว่าตัวเองจะเป็นผู้นำคนต่อไปของพรรค คุณว่าจริงไหมล่ะ พวกดีวาเชื่อมั่นแต่ตัวเอง เพราะมองเห็นตัวเองเป็นจุดเริ่มต้นและจุดจบของภูมิปัญญาทั้งปวง"
ที่ปรึกษาอาวุโสของแมคเคนอีกคนหนึ่งบอกว่า "เรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นกับทีมหาเสียงที่เป็นฝ่ายตามหลัง มันเปิดเผยให้เห็นด้านเลวร้ายที่สุดของผู้คน การชี้นิ้วว่าคนอื่น และการโยนบาปกันไปมา"
ทั้งนี้ ข่าวความขัดแย้งภายในทีมรณรงค์หาเสียงของแมคเคนมีขึ้นหลังจากผลสำรวจความคิดเห็นหลายสำนักระบุว่าขณะนี้แพลินกำลังเป็นตัวถ่วงโอกาสชนะของรีพับลิกัน โดยผลสำรวจของวอลล์สตรีทเจอร์นัล/เอ็นบีซีระบุเมื่อวันพุธ(22)ว่า นับวันชาวอเมริกันก็จะยิ่งเชื่อน้อยลงว่าเธอมีคุณสมบัติเหมาะสำหรับตำแหน่งผู้นำเบอร์สองของประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับผลสำรวจก่อนหน้านี้ของเอบีซี/วอชิงตันโพสต์ที่ว่า 6 ใน 10 ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งมองว่าแพลินนั้นขาดประสบการณ์สำหรับการเป็นประธานาธิบดีที่มีประสิทธิภาพ และ "ผู้ออกเสียงราวหนึ่งในสามคงจะเลือกแมคเคนน้อยลงเพราะตัวเธอ"
ยิ่งกว่านั้น หลังจากที่แพลินถูกสภามลรัฐตัดสินว่าทำผิดในกรณีใช้อำนาจหน้าที่ของผู้ว่าการรัฐแอลาสกาในทางมิชอบ โดยสั่งปลดอดีตน้องเขยของเธอในกรณีอื้อฉาว "ทรูปเปอร์เกต" ขณะนี้เธอยังกำลังถูกสอบสวนอีกว่าเธอได้กระทำการละเมิดจริยธรรมในกรณีดังกล่าวหรือไม่ ทั้งนี้ยังไม่นับรวมกรณีที่เธอตกเป็นข่าวในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ได้ใช้เงินกองกลางของพรรคซื้อเสื้อผ้าไปถึง 150,000 ดอลลาร์ตั้งแต่เดือนสิงหาคม ซึ่งทำลายภาพลักษณ์ความเป็นคนติดดินแบบคุณแม่นักทำงานที่ต้องดูแลลูกไปด้วยของเธอ
