xs
xsm
sm
md
lg

เมารี

เผยแพร่:   โดย: ชัยอนันต์ สมุทวณิช


ระหว่างวันที่ 1-4 ตุลาคมนี้ ผมได้ไปร่วมประชุมและเป็นกรรมการตัดสินการแข่งขันทำโครงการที่นักศึกษาลงไปช่วยชาวบ้าน การแข่งขันครั้งนี้เป็นการแข่งขันระดับโลกเรียกว่า “SIFE World Cup” SIFE ย่อมาจาก Students in Free Enterprise นักศึกษาไปช่วยชาวบ้านให้มีความเข้าใจเรื่องเศรษฐกิจการตลาด ให้ความรู้ด้านการเงินการบัญชี ด้านการตลาด ด้านการเป็นผู้ประกอบการ การแข่งขันนี้ทำกันในระดับชาติก่อน เมื่อได้ผู้ชนะระดับชาติแล้วก็ไปแข่งขันในระดับโลก นักศึกษาที่ทำโครงการต่างๆ เอาจริงเอาจังมาก การแนะนำให้ชาวบ้านทำการผลิต การตลาด บางทีก็เป็นโครงการใหญ่ๆ ขายข้ามชาติก็มี

แต่ก่อนการไปทำประโยชน์ให้ผู้ด้อยโอกาสนั้น มักเป็นเรื่องขององค์กรเอกชนอาสาสมัคร นิสิตนักศึกษาออกค่ายอาสาพัฒนา โครงการที่ SIFE ส่งเสริมนี้เท่ากับนำเอาแนวคิด และวิธีการของระบบทุนนิยมลงไปสอนชาวบ้าน ประโยชน์จึงมีในแง่ที่ชาวบ้านได้เข้าใจการทำงานของระบบทุนนิยมที่กลไกการตลาดเป็นตัวขับเคลื่อน เวลานี้บริษัทใหญ่ๆ หลายแห่งจะเน้นการทำประโยชน์เพื่อสังคม ถือเป็นความรับผิดชอบทางสังคมของบริษัท บางบริษัทก็ลงมือทำเองโดยให้พนักงานเป็นผู้ร่วมกันทำประโยชน์ บางบริษัทก็ตั้งงบประมาณไว้ส่งเสริมกิจการเหล่านี้ ในประเทศไทย บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย เป็นผู้บุกเบิกทำกิจกรรมต่างๆ มีโครงการมากมาย จนถึงกับมีผู้รับผิดชอบโดยตรง

สมัยผมเป็นอาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ มีการออกค่ายอาสาพัฒนาทุกปี นิสิตที่สนใจเรื่องนี้ ต่อมาก็ไปเรียนทางวิชาสังคมวิทยาจบปริญญาเอกมาเป็นอาจารย์หลายคน

ตอนที่ผมอยู่นิวซีแลนด์ ที่นั่นมีชาวเมารีเป็นคนพื้นเมืองอยู่นิวซีแลนด์ ก่อนที่คนชาวเมารีอพยพมา คนเหล่านี้กลายเป็นชนกลุ่มน้อย มีชีวิตอยู่อย่างสบายๆ ไม่ขวนขวายมากนัก ถ้าอยู่ในเมืองก็ทำงานบ้าน และเป็นผู้ใช้แรงงาน ตกเย็นจะเห็นชาวเมารีนั่งอยู่ตามโรงเบียร์ กินเบียร์ร้องเพลงกันสนุกสนาน ชาวเมารีก็เหมือนชาวเกาะอื่นๆ คือเป็นนักร้องโดยกำเนิด ชาวเมารีที่เป็นนักร้องโอเปร่ามีชื่อก้องโลกก็มี

ระหว่างที่เรียนอยู่ ทุกปีจะมีการปิดเทอมใหญ่ 3 เดือน เมื่อ 40 ปีก่อน เวลามหาวิทยาลัยหรือโรงเรียนหยุด นักเรียนไทยก็ไม่กลับบ้าน แต่จะไปหางานทำ ทางการนิวซีแลนด์ก็ยอมให้คนต่างชาติทำงานได้

ผมเองเคยไปทำงานที่โรงงานน้ำอัดลม อยู่ฝ่ายยกลังน้ำส้มใส่รถ ได้พบกับคนงานซึ่งชื่นชมยกย่องเราเพราะเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย ทำอยู่ได้แค่อาทิตย์เดียวก็เกิดความเบื่อ เพราะเป็นงานซ้ำซาก อีกปีหนึ่งผมไปฝึกงานที่กระทรวงยุติธรรม เขาให้ไปอยู่ฝ่ายส่งหมายศาล ใช้น้ำลายเปลือง เพราะต้องติดแสตมป์หมายศาล ทำอยู่หนึ่งเดือนได้เลื่อนชั้นไปทำหน้าที่เสมียนศาล งานง่ายๆ คือส่งไบเบิลให้โจทก์ จำเลย และพยาน สาบานตน

ชัยสิริ น้องชายผมเรียนโรงเรียนมัธยม ชัยสิริเป็นคนอดทน เขาเคยไปทำงานที่สถานีรถไฟ และไปทำงานที่ได้เงินแยะแต่ลำบากมาก เพราะต้องตื่นไปทำงานตั้งแต่ตี 2 คือ ทำงานในโรงแช่เย็น

พอผมอยู่ปี 3 ผมได้รับเลือกให้เป็นประธานสโมสรนานาชาติ ปีนั้นมีการจัดค่ายอาสาพัฒนาระหว่างมหาวิทยาลัย 4 แห่ง ผมอยู่มหาวิทยาลัยวิกตอเลีย ก็ไปร่วมด้วย เป็นการจัดค่ายอาสาพัฒนาครั้งแรกของมหาวิทยาลัยในนิวซีแลนด์ พวกเรามีนักศึกษานานาชาติจากนิวซีแลนด์ แอฟริกา ยุโรป ผมเป็นคนเอเชียคนเดียว เราไปที่เหนือสุดของนิวซีแลนด์คือบริเวณที่มีชาวเมารีอยู่แยะ ไปช่วยสร้างโรงเรียนเล็กๆ อยู่หนึ่งอาทิตย์ ผมได้อยู่ร่วมกับชาวเมารีซึ่งมีนิสัยน่ารักมาก ผู้หญิงก็มีท่าทางขี้อาย ตกเย็นเขาก็ขุดหลุมเพื่อเอาหมูและผัก พวกมัน และฟักทองลงไปแล้วสุมไฟ รสชาติอร่อยมาก เสียอย่างเดียวไม่มีน้ำจิ้ม โดยเฉพาะซีอิ๊วหวาน ไม่เช่นนั้นจะอร่อยกว่าที่กินเปล่าๆ

คนเมารีเป็นคนรื่นเริงยิ้มง่าย ชอบหัวเราะมีอารมณ์ขันอยู่เสมอ แต่พวกที่ไปทำงานในเมืองก็มักจะเมา และชอบไปก่อเรื่องทะเลาะวิวาทกันบ่อยๆ คนก็เลยเห็นเป็นตัวปัญหา

ผู้ซึ่งเป็นคนต่างชาติ 3 คน มีผม เพื่อนชาวแอฟริกา และชาวยุโรปตะวันออก ได้รับเกียรติจากชนเผ่าที่นั่นให้เป็นสมาชิกของเผ่าชื่อ Rarawa ต่อมาเมื่อผมกลับมาแล้ว ชาวเมารีมีการเคลื่อนไหวเรียกร้องสิทธิอันมีมาแต่ดั้งเดิม โดยเฉพาะกรรมสิทธิ์ที่ดิน ทำให้รัฐบาลนิวซีแลนด์ต้องจ่ายค่าชดเชย และมอบที่ดินให้ชาวเมารีเป็นเงินมากมาย

มีเพื่อนชาวนิวซีแลนด์ชอบพูดเล่นๆ ว่า ผมก็เป็นสมาชิกเผ่าราราว่า ดังนั้นผมก็น่าจะมีส่วนในกรรมสิทธิ์ที่ดินด้วย ผมเคยกลับไปเยือนถิ่นเก่า ที่นั่นมีทิวทัศน์สวยงามมาก มีสนามกอล์ฟอยู่สนามหนึ่ง ผมได้ไปเล่นกอล์ฟที่นั่น

ประเทศนิวซีแลนด์เป็นประเทศที่น่าอยู่มาก ครอบครัวชาวนิวซีแลนด์ที่สนิทสนมกับเรา มีบ้านพักตากอากาศอยู่ที่เมือง Russell ซึ่งอยู่ตอนเหนือสุดของเกาะเหนือ ผมโชคดีที่ได้ไปอยู่นิวซีแลนด์ตอนเป็นหนุ่มอายุ 18-21 ปี ทำให้ได้นิสัยดีๆ มาจากการอยู่ภายใต้สิ่งแวดล้อมที่ดี ในวันหยุดผู้คนก็ทำสวนในบ้าน การดูกีฬาเป็นกิจกรรมที่เป็นงานประจำชาติ สถานที่เที่ยวมักเป็นธรรมชาติอย่างเลวสุดก็คือ Pub แต่การไปกินเบียร์เป็นเหยือกๆ ก็เป็นการสมาคมสังสรรค์กัน ไม่มีการทะเลาะเบาะแว้งกัน ทุกคืนวันศุกร์นักศึกษาเลิกเรียนก็จะพากันเดินไป Pub กินเบียร์กันหลายเหยือก เดี๋ยวนี้ในเมืองเวลลิงตันที่ผมเคยอยู่ มีร้านอาหารดีๆ เพิ่มขึ้นหลายร้าน และเมื่อผมกลับมาแล้วก็เริ่มมีการทำไร่องุ่น จึงมีไวน์ดีๆ โดยเฉพาะไวน์ขาวที่มาจากตอนใต้ของเกาะเหนือบริเวณเมืองมัลโบโร

ปัจจุบันชาวเมารีพัฒนาขึ้นมากเป็นข้าราชการ และนักธุรกิจ อาจารย์มหาวิทยาลัย คนนิวซีแลนด์สามารถอยู่ร่วมกันกับชาวเมารีได้ดี โดยใช้ภาษาเมารีเป็นภาษาทางการด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น