กระบี่ - จังหวัดกระบี่ยื่น 3 มาตรการให้รัฐบาลแก้ปัญหาราคาปาล์มตกต่ำ โดยให้รัฐรับชื้อผลปาล์มกิโลกรัมละ 4 บาท โรงงานกลั่นรับซื้อน้ำมันปาล์มกิโลกรัมละ 25 บาท และให้กระทรวงพลังงานรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบที่คงเหลืออยู่ในสต๊อกประมาณ 200,000 ตัน นำไปผลิตไบโอดีเซล
นายศิวะ ศิริเสาลักษณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า จากที่เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากราคาผลปาล์มตกต่ำลงอย่างต่อเนื่อง จนล่าสุดร่วงลงมาอยู่ที่ราคา ประมาณ 2.60 บาท/กิโลกรัม จากราคา 5 -6 บาท/กิโลกรัม ในขณะที่ราคาปุ๋ยซึ่งเป็นต้นทุนที่สำคัญมีราคาสูง โดยเป็นผลมาจากราคาน้ำมันปาล์มดิบในตลาดโลกปรับราคาลดลง ประกอบกับปัจจัยราคาน้ำมันเชื้อเพลิงปรับลด และผลผลิตออกสู่โรงงานมากเกินความต้องการ จึงทำให้ราคาปาล์มตกต่ำ
เพื่อหาทางออกและบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่เกษตรกร ทางจังหวัดจึงได้เชิญผู้เกี่ยวข้องทั้งโรงงานสกัดปาล์มน้ำมันกว่า 20 รายใน จ.กระบี่ ตัวแทนเกษตรกรและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าประชุม โดยเสนอมาตรการแก้ไขปัญหาให้รัฐบาลเข้ามาดูแลโดยนำเสนอส่วนกลางแก้ไข คือ 1.ให้มีการแทรกแซงราคาผลปาล์มในราคา 4 บาท/กิโลกรัม 2.ให้โรงงานกลั่นน้ำมันปาล์ม รับซื้อน้ำมันปาล์มดิบในราคากิโลกรัมละ 25 บาท 3.ให้กระทรวงพลังงานรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบที่คงเหลืออยู่ในสต๊อก ประมาณ 200,000 ตัน นำไปผลิตไบโอดีเซล
"สำหรับการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนในระยะสั้นนั้นก็ได้ขอให้ทางโรงงานสกัดปาล์มน้ำมันทุกโรง ช่วยรับซื้อผลปาล์มจากเกษตรกรในราคา 2.90 บาท/กิโลกรัม ซึ่งทางโรงงานก็ยินดีถึงแม้ว่าจะต้องแบกรับกับภาวะขาดทุน โดยมีข้อแม้ว่าผลปาล์มที่จะรับซื้อราคาดังกล่าวต้องมาจากเกษตรกรโดยตรง ส่วนปาล์มจากลานเท นั้นทางโรงงานพิจารณาความเหมาะสมเอง เพราะทราบว่าบางลานเท มีการใช้เทคนิคต่างๆ ก่อนส่งขายที่ไม่เหมาะสม เช่น การรดน้ำ เพื่อเพิ่มน้ำหนัก ซึ่งวิธีการข้างต้นจะส่งผลให้เปอร์เซ็นต์น้ำมันต่ำ มีผลต่อราคารับซื้อผลปาล์มของโรงงานด้วย"
นายศิวะ กล่าวด้วยว่า สำหรับราคาที่โรงงานจะรับซื้อ 2.90 บาท/กิโลกรัม ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 22-31 ต.ค.51 โดยในวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา ทางกรมการค้าภายในได้ประชุมพิจารณาในเรื่องราคาปาล์มน้ำมัน โดยกำหนดราคาจำหน่ายน้ำมันปาล์มบรรจุขวดขนาด 1 ลิตรไม่เกิน 38 บาท และกำหนดที่จะทำข้อตกลงกับโรงงานสกัดปาล์มน้ำมันให้ซื้อน้ำมันปาล์มดิบในราคากิโลกรัมละ 22.50 บาท โดยให้ทางโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มดิบ รับซื้อผลปาล์มทะลายในราคากิโลกรัมละ 3.50 บาท ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.51 เป็นต้นไป ซึ่งการที่ขอให้ทางโรงงานสกัดปาล์มน้ำมันรับซื้อ ในราคา 2.90 บาท ในช่วงนี้ก่อนถึงวันที่ 1 พ.ย.ก็จะเป็นการช่วยลดความเดือดร้อนของเกษตรกรได้
นายศิวะ ศิริเสาลักษณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า จากที่เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากราคาผลปาล์มตกต่ำลงอย่างต่อเนื่อง จนล่าสุดร่วงลงมาอยู่ที่ราคา ประมาณ 2.60 บาท/กิโลกรัม จากราคา 5 -6 บาท/กิโลกรัม ในขณะที่ราคาปุ๋ยซึ่งเป็นต้นทุนที่สำคัญมีราคาสูง โดยเป็นผลมาจากราคาน้ำมันปาล์มดิบในตลาดโลกปรับราคาลดลง ประกอบกับปัจจัยราคาน้ำมันเชื้อเพลิงปรับลด และผลผลิตออกสู่โรงงานมากเกินความต้องการ จึงทำให้ราคาปาล์มตกต่ำ
เพื่อหาทางออกและบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่เกษตรกร ทางจังหวัดจึงได้เชิญผู้เกี่ยวข้องทั้งโรงงานสกัดปาล์มน้ำมันกว่า 20 รายใน จ.กระบี่ ตัวแทนเกษตรกรและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าประชุม โดยเสนอมาตรการแก้ไขปัญหาให้รัฐบาลเข้ามาดูแลโดยนำเสนอส่วนกลางแก้ไข คือ 1.ให้มีการแทรกแซงราคาผลปาล์มในราคา 4 บาท/กิโลกรัม 2.ให้โรงงานกลั่นน้ำมันปาล์ม รับซื้อน้ำมันปาล์มดิบในราคากิโลกรัมละ 25 บาท 3.ให้กระทรวงพลังงานรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบที่คงเหลืออยู่ในสต๊อก ประมาณ 200,000 ตัน นำไปผลิตไบโอดีเซล
"สำหรับการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนในระยะสั้นนั้นก็ได้ขอให้ทางโรงงานสกัดปาล์มน้ำมันทุกโรง ช่วยรับซื้อผลปาล์มจากเกษตรกรในราคา 2.90 บาท/กิโลกรัม ซึ่งทางโรงงานก็ยินดีถึงแม้ว่าจะต้องแบกรับกับภาวะขาดทุน โดยมีข้อแม้ว่าผลปาล์มที่จะรับซื้อราคาดังกล่าวต้องมาจากเกษตรกรโดยตรง ส่วนปาล์มจากลานเท นั้นทางโรงงานพิจารณาความเหมาะสมเอง เพราะทราบว่าบางลานเท มีการใช้เทคนิคต่างๆ ก่อนส่งขายที่ไม่เหมาะสม เช่น การรดน้ำ เพื่อเพิ่มน้ำหนัก ซึ่งวิธีการข้างต้นจะส่งผลให้เปอร์เซ็นต์น้ำมันต่ำ มีผลต่อราคารับซื้อผลปาล์มของโรงงานด้วย"
นายศิวะ กล่าวด้วยว่า สำหรับราคาที่โรงงานจะรับซื้อ 2.90 บาท/กิโลกรัม ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 22-31 ต.ค.51 โดยในวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา ทางกรมการค้าภายในได้ประชุมพิจารณาในเรื่องราคาปาล์มน้ำมัน โดยกำหนดราคาจำหน่ายน้ำมันปาล์มบรรจุขวดขนาด 1 ลิตรไม่เกิน 38 บาท และกำหนดที่จะทำข้อตกลงกับโรงงานสกัดปาล์มน้ำมันให้ซื้อน้ำมันปาล์มดิบในราคากิโลกรัมละ 22.50 บาท โดยให้ทางโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มดิบ รับซื้อผลปาล์มทะลายในราคากิโลกรัมละ 3.50 บาท ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.51 เป็นต้นไป ซึ่งการที่ขอให้ทางโรงงานสกัดปาล์มน้ำมันรับซื้อ ในราคา 2.90 บาท ในช่วงนี้ก่อนถึงวันที่ 1 พ.ย.ก็จะเป็นการช่วยลดความเดือดร้อนของเกษตรกรได้