คูลเอสท์ เข็นคลื่น เวฟ 88 ติดลมแล้ว แต่ยอมรับปัจจัยลบกระหน่ำปีแรกพลาดเป้า 15% มั่นใจแผนรุกปีหน้า รายได้โต 100% เป็น 60 ล้านบาท ด้วยกลยุทธ์ขยายฐานผู้ฟัง การทำกิจกรรม เอเจนซี่ตอบรับแพลนโฆษณาให้มากขึ้น
ม.ร.ว.รุจยาภา อาภากร กรรมการผู้จัดการ บริษัท คูลเอสท์ จำกัด และบริษัท คูลเอสท์ เรดิโอ จำกัด ผู้บริหารวิทยุคลื่น เวฟ เอฟเอ็ม 88 เปิดเผยว่า ปีนี้เป็นปีที่วงการสื่อวิทยุมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากอีกปีหนึ่ง และยังอยู่ในสภาพที่แข่งขันกันหนักพอสมควร มีเปลี่ยนแปลงผู้บริหารคลื่น เช่นคลื่น 94.5 ก็เปลี่ยนมาสู่มือของค่ายอาร์เอส จากเดิมที่เป็นของบีเอ็นที และการเปลี่ยนรูปแบบรายการและยังมีช่วงสูญญากาศในเรื่องของการให้สัญญาสัมปทานกับเอกชนของหน่วยงานราชการที่ควบคุมดูแลด้วยเพราะหยุดชะงักไปช่วงหนึ่ง
อย่างไรก็ตามในตลาดรวมของสื่อทั้งหมดที่มีมูลค่ารวมมากกว่า 30,000 ล้านบาท เป็นตัวเลขที่มาจากหน่วยงานวิจัยต่างๆและทางราชการ ซึ่งเป็นตัวเลขที่เกิดการใช้จ่ายจริง ก็อยู่ในสภาพที่ทรงตัว และส่วนใหญ่มักตกไปอยู่ที่สื่อทีวีช่องหลักคือ 3 กับ 7 ส่วนที่เหลืออีก 10,000 กว่าล้านบาทกระจายไป แต่มี 2 สื่อที่มีการเติบโตดี คือ 1.สื่อวิทยุ เติบโต 8.4% ด้วยเหตุที่มีราคาถูกกว่าสื่ออื่นคือประมาณ 2,000 บาทต่อ 1 สปอตวิทยุ 2.สื่อโรงหนัง ที่เติบโตกว่า 50%
ทั้งนี้ในส่วนของบริษัทฯเอง ช่วง 1 ปีที่ทำคลื่น เวฟ 88 ที่ผ่านมา ได้ลงทุนไปกว่า 40 ล้านบาทในการสร้างสตูดิโอ เว็บไซต์ และการโปรโมทคลื่น เริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้นเอเจนซี่เริ่มให้การยอมรับมากขึ้นกว่าเดิม แต่ทั้งนี้ยอมรับว่าผลประกอบการที่ตั้งเป้าไว้ที่ 40 ล้านบาท อาจจะต่ำกว่าเป้าหมายประมาณ 15% หรืออาจทำได้ 30 กว่าล้านบาท เนื่องจากปัจจัยลบทางเศรษฐกิจและการเมือง แต่ว่าช่วงครึ่งปีหลังนี้อัตราการเติบโตต่อเดือนสูงถึง 35% ซึ่งช่วงปลายปีจะมีรายรับจากการขายสปอตวิทยุมากขึ้นเพราะลูกค้าเริ่มลงโฆษณามากขึ้นกับสื่อโฟกัสแบบเรา เพราะต้นทุนต่ำกว่าสื่อแมสและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายตรง เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจและการเมืองในเวลานี้
แต่ปีหน้าบริษัทฯตั้งเป้าหมายที่จะมีรายได้รวมมากกว่า 60 ล้านบาท หรือเติบโต 100% โดยแบ่งเป็นรายได้จากการขายสปอตวิทยุ 40 ล้านบาท และรายได้จากกิจกรรม 20 ล้านบาท ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะสามารถทำได้ ด้วยแผนตลาดที่วางไว้
เนื่องจากคลื่นเวฟเอฟเอ็มมีจุดแตกต่างและจุดแข็งที่ต่างจากคลื่นอื่น โดยเฉพาะคลื่นเพลงสากลที่มีอยู่อีก 3 คลื่นนั้นก็คือ คลื่น 102.5 คลื่น 105.5 และคลื่น 107 โดยบริษัทฯยึดคอนเซ็ปท์ความเป็นสื่อโฟกัสกรุ๊ป เป็นคลื่นวิทยุภาคภาษาอังกฤษตลอด 24 ชั่วโมง แห่งเดียวของไทย การนำเสนอเพลงแนวสมู้ทเออร์เบิน การจัดรายการด้วยบรรทัดฐานสากลโดยมีดีเจต่างชาติ และการพุ่งเป้าหมายไปที่กลุ่มผู้ฟังที่มีไลฟ์สไตล์ชัดเจน ต่างจากคลื่นวิทยุ 44 คลื่นในกรุงเทพฯ
โดยจำนวนผู้ฟังของคลื่น เวฟ 88 ขณะนี้มีประมาณ 600,000 คน แบ่งสัดส่วนเป็นกลุ่มคนทำงานและนักธุรกิจไทย 60% ชาวต่างชาติที่อาศัยในไทย 30% และนักท่องเที่ยวต่างชาติ 10% และยังมีผู้ฟังที่ฟังทางเว็บไซต์สูงถึง 400,000 คนด้วยซึ่งเป็นตัวเลขล่าสุดเดือนกันยายนที่ผ่านมา ซึ่งบริษัทฯตั้งเป้าหมายผู้ฟังปีหน้ารวมที่ 1 ล้านคน
"ตอนนี้เอเจนซี่เริ่มแพลนงบโฆษณาให้เรามากขึ้น เพราะเรามีความชัดเจนเรื่องกลุ่มเป้าหมายและการทำตลาด และคาแรคเตอร์ของเรา ตอนแรกนี้เรามีโฆษณาที่ติดต่อตรงมาก แต่คาดว่าปีหน้าสัดส่วนลูกค้าที่มาจากเอเจนซี่จะมากขึ้น ลูกค้าที่ซื้อสื่อตอนนี้ก็เช่น แบงก์ทหารไทย แบงก์กสิกรไทย โรงพยาบาลปิยะเวท โรงพยาบาลเจ้าพระยา เป็นต้น"
ปีหน้าเราจะทำตลาดขยายฐานผู้ฟังมากขึ้น ด้วยกลยุทธ์การเจรจาเป็นพันธมิตรกับธุรกิจต่างๆ เช่นทางสมาคมเคเบิลทีวีแห่งประเทศไทยเพื่อนำรายการไปออกอากาศผ่านทางสมาชิก หรือการร่วมมือกับทรูไลฟ์ในการเอารายการไปเผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ต หรือแม้แต่การติดต่อกับทาง สสปน. และโรงแรมต่างๆ เช่น เครือคอนราด เครืออะมารี เป็นต้น ในการนำเอารายการของบริษัทฯไปออกอากาศผ่านทางโรงแรม เพื่อจับกลุ่มเป้าหมายชาวต่างชาติมากขึ้น
นอกจากนั้นจะมีการจัดกิจกรรมต่อเนื่องเช่น Gric Cup คือการเชิญนักธุรกิจแนวหน้าของไทยทั้งชาวไทยและต่างชาติมาดวลวงสวิง งานเวิร์คชอปการเล่นเรือใบขั้นพื้นฐาน เป็นต้น และการจัดคอนเสิร์ตใหญ่อย่างน้อย 3 งาน
ม.ร.ว.รุจยาภา อาภากร กรรมการผู้จัดการ บริษัท คูลเอสท์ จำกัด และบริษัท คูลเอสท์ เรดิโอ จำกัด ผู้บริหารวิทยุคลื่น เวฟ เอฟเอ็ม 88 เปิดเผยว่า ปีนี้เป็นปีที่วงการสื่อวิทยุมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากอีกปีหนึ่ง และยังอยู่ในสภาพที่แข่งขันกันหนักพอสมควร มีเปลี่ยนแปลงผู้บริหารคลื่น เช่นคลื่น 94.5 ก็เปลี่ยนมาสู่มือของค่ายอาร์เอส จากเดิมที่เป็นของบีเอ็นที และการเปลี่ยนรูปแบบรายการและยังมีช่วงสูญญากาศในเรื่องของการให้สัญญาสัมปทานกับเอกชนของหน่วยงานราชการที่ควบคุมดูแลด้วยเพราะหยุดชะงักไปช่วงหนึ่ง
อย่างไรก็ตามในตลาดรวมของสื่อทั้งหมดที่มีมูลค่ารวมมากกว่า 30,000 ล้านบาท เป็นตัวเลขที่มาจากหน่วยงานวิจัยต่างๆและทางราชการ ซึ่งเป็นตัวเลขที่เกิดการใช้จ่ายจริง ก็อยู่ในสภาพที่ทรงตัว และส่วนใหญ่มักตกไปอยู่ที่สื่อทีวีช่องหลักคือ 3 กับ 7 ส่วนที่เหลืออีก 10,000 กว่าล้านบาทกระจายไป แต่มี 2 สื่อที่มีการเติบโตดี คือ 1.สื่อวิทยุ เติบโต 8.4% ด้วยเหตุที่มีราคาถูกกว่าสื่ออื่นคือประมาณ 2,000 บาทต่อ 1 สปอตวิทยุ 2.สื่อโรงหนัง ที่เติบโตกว่า 50%
ทั้งนี้ในส่วนของบริษัทฯเอง ช่วง 1 ปีที่ทำคลื่น เวฟ 88 ที่ผ่านมา ได้ลงทุนไปกว่า 40 ล้านบาทในการสร้างสตูดิโอ เว็บไซต์ และการโปรโมทคลื่น เริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้นเอเจนซี่เริ่มให้การยอมรับมากขึ้นกว่าเดิม แต่ทั้งนี้ยอมรับว่าผลประกอบการที่ตั้งเป้าไว้ที่ 40 ล้านบาท อาจจะต่ำกว่าเป้าหมายประมาณ 15% หรืออาจทำได้ 30 กว่าล้านบาท เนื่องจากปัจจัยลบทางเศรษฐกิจและการเมือง แต่ว่าช่วงครึ่งปีหลังนี้อัตราการเติบโตต่อเดือนสูงถึง 35% ซึ่งช่วงปลายปีจะมีรายรับจากการขายสปอตวิทยุมากขึ้นเพราะลูกค้าเริ่มลงโฆษณามากขึ้นกับสื่อโฟกัสแบบเรา เพราะต้นทุนต่ำกว่าสื่อแมสและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายตรง เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจและการเมืองในเวลานี้
แต่ปีหน้าบริษัทฯตั้งเป้าหมายที่จะมีรายได้รวมมากกว่า 60 ล้านบาท หรือเติบโต 100% โดยแบ่งเป็นรายได้จากการขายสปอตวิทยุ 40 ล้านบาท และรายได้จากกิจกรรม 20 ล้านบาท ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะสามารถทำได้ ด้วยแผนตลาดที่วางไว้
เนื่องจากคลื่นเวฟเอฟเอ็มมีจุดแตกต่างและจุดแข็งที่ต่างจากคลื่นอื่น โดยเฉพาะคลื่นเพลงสากลที่มีอยู่อีก 3 คลื่นนั้นก็คือ คลื่น 102.5 คลื่น 105.5 และคลื่น 107 โดยบริษัทฯยึดคอนเซ็ปท์ความเป็นสื่อโฟกัสกรุ๊ป เป็นคลื่นวิทยุภาคภาษาอังกฤษตลอด 24 ชั่วโมง แห่งเดียวของไทย การนำเสนอเพลงแนวสมู้ทเออร์เบิน การจัดรายการด้วยบรรทัดฐานสากลโดยมีดีเจต่างชาติ และการพุ่งเป้าหมายไปที่กลุ่มผู้ฟังที่มีไลฟ์สไตล์ชัดเจน ต่างจากคลื่นวิทยุ 44 คลื่นในกรุงเทพฯ
โดยจำนวนผู้ฟังของคลื่น เวฟ 88 ขณะนี้มีประมาณ 600,000 คน แบ่งสัดส่วนเป็นกลุ่มคนทำงานและนักธุรกิจไทย 60% ชาวต่างชาติที่อาศัยในไทย 30% และนักท่องเที่ยวต่างชาติ 10% และยังมีผู้ฟังที่ฟังทางเว็บไซต์สูงถึง 400,000 คนด้วยซึ่งเป็นตัวเลขล่าสุดเดือนกันยายนที่ผ่านมา ซึ่งบริษัทฯตั้งเป้าหมายผู้ฟังปีหน้ารวมที่ 1 ล้านคน
"ตอนนี้เอเจนซี่เริ่มแพลนงบโฆษณาให้เรามากขึ้น เพราะเรามีความชัดเจนเรื่องกลุ่มเป้าหมายและการทำตลาด และคาแรคเตอร์ของเรา ตอนแรกนี้เรามีโฆษณาที่ติดต่อตรงมาก แต่คาดว่าปีหน้าสัดส่วนลูกค้าที่มาจากเอเจนซี่จะมากขึ้น ลูกค้าที่ซื้อสื่อตอนนี้ก็เช่น แบงก์ทหารไทย แบงก์กสิกรไทย โรงพยาบาลปิยะเวท โรงพยาบาลเจ้าพระยา เป็นต้น"
ปีหน้าเราจะทำตลาดขยายฐานผู้ฟังมากขึ้น ด้วยกลยุทธ์การเจรจาเป็นพันธมิตรกับธุรกิจต่างๆ เช่นทางสมาคมเคเบิลทีวีแห่งประเทศไทยเพื่อนำรายการไปออกอากาศผ่านทางสมาชิก หรือการร่วมมือกับทรูไลฟ์ในการเอารายการไปเผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ต หรือแม้แต่การติดต่อกับทาง สสปน. และโรงแรมต่างๆ เช่น เครือคอนราด เครืออะมารี เป็นต้น ในการนำเอารายการของบริษัทฯไปออกอากาศผ่านทางโรงแรม เพื่อจับกลุ่มเป้าหมายชาวต่างชาติมากขึ้น
นอกจากนั้นจะมีการจัดกิจกรรมต่อเนื่องเช่น Gric Cup คือการเชิญนักธุรกิจแนวหน้าของไทยทั้งชาวไทยและต่างชาติมาดวลวงสวิง งานเวิร์คชอปการเล่นเรือใบขั้นพื้นฐาน เป็นต้น และการจัดคอนเสิร์ตใหญ่อย่างน้อย 3 งาน