สเมอร์นอฟ ปรับแก้เกมนักท่องเที่ยวต่างประเทศหด รุกลุยกลุ่มเป้าหมายคนไทย อัดการสื่อสารจัดกิจกรรมปาร์ตี้ หวังปลุกกระแสคนรุ่นใหม่ทดลองดื่ม ลั่นเดินหน้าบูมตลาดต่อเนื่องแม้เศรษฐกิจหดตัว ทุ่มงบ 200 ล้านบาท ดันตลาดไวท์ สปิริตเกิด สิ้นปีโต 10% รั้งผู้นำตลาดวอดก้า
นายกมลาศ พัฒนาไพศาล ผู้จัดการฝ่ายการตลาดกลุ่มสินค้า ไวท์ สปิริต บริษัท ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้า สเมอร์นอฟ วอดก้า เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับแผนการตลาดใหม่โดยหันมาเน้นการสร้างการรับรู้กลุ่มผู้บริโภคคนไทยมากขึ้น โดยเฉพาะวิธีการดื่มวอดก้าซึ่งมีหลากหลายรูปแบบ จากปัจจุบันนิยมดื่มในรูปแบบชอดเป็นหลัก ทั้งนี้เนื่องจากแนวโน้มนักท่องเที่ยวต่างประเทศซึ่งเป็นลูกค้าหลักของสเมอร์นอฟลดลง ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาจากปัจจัยลบต่างๆที่เกิดขึ้นภายในประเทศ
สำหรับการสร้างการรับรู้บริษัทดำเนินกิจกรรมการตลาด เพื่อสร้างความเข้าใจกับกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ เพื่อให้หันมาทดลองดื่มวอดก้าจากเดิมดื่มวิสกี้ ทั้งนี้การมุ่งเน้นสื่อสารผ่านกิจกรรมปาร์ตี้เล็กๆ ตลอดจนช่องทางต่างๆ เพื่อสร้างประสบการณ์ตรงให้กับลูกค้า ประเดิมด้วยการจัดงานคลับเอ็กซิบิชั่น นำกลุ่มคนดนตรีผู้ริเริ่มดนตรีแนวฮิป ฮอป อินดี้ และอันเดอร์กราวน์ในประเทศไทย มารวมตัวกันเพื่อถ่ายทอดเรื่องการเกิดดนตรีประเภทต่างๆ ฯลฯ
"บริษัทจะดำเนินการตลาดเชิงรุกอย่างต่อเนื่องมา 2 ปีแล้ว แม้ว่าปีผลพวงจากสภาพเศรษฐกิจและกำลังซื้อของผู้บริโภค จะไม่เอื้อในการทำตลาด อย่างไรก็ตามจากการดำเนินการตลาดของบริษัทยังช่วยกระตุ้นตลาดเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์พร้อมดื่มกลับมาโตอีกครั้งในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา โดยมีแบรนด์สเมอร์นอฟ ไอซ์เป็นตัวกระตุ้นตลาด"
พฤติกรรมผู้บริโภคมีแนวโน้มหันมาดื่มเครื่องดื่มไวท์ สปิริตมากขึ้น โดยเฉพาะวอดก้า ทั้งนี้พบว่าสัดส่วนของลูกค้าไทยเพิ่มขึ้นจาก 10% เป็น 20% โดยแนวโน้มตลาดวอดก้ามีอัตราการเติบโต 10-15% สำหรับปีนี้บริษัทได้ใช้งบการตลาด 200 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา แบ่งเป็น อะโบฟเดอะไลน์ 50% และบีโลว์เดอะไลน์ 50% โดยผลักดันยอดขายเติบโต 10% จากการมียอดขาย 4.7 หมื่นลัง ครองส่วนแบ่งอันดับ 1 จากตลาดวอดก้า 1 แสนลัง
นายกมลาศ พัฒนาไพศาล ผู้จัดการฝ่ายการตลาดกลุ่มสินค้า ไวท์ สปิริต บริษัท ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้า สเมอร์นอฟ วอดก้า เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับแผนการตลาดใหม่โดยหันมาเน้นการสร้างการรับรู้กลุ่มผู้บริโภคคนไทยมากขึ้น โดยเฉพาะวิธีการดื่มวอดก้าซึ่งมีหลากหลายรูปแบบ จากปัจจุบันนิยมดื่มในรูปแบบชอดเป็นหลัก ทั้งนี้เนื่องจากแนวโน้มนักท่องเที่ยวต่างประเทศซึ่งเป็นลูกค้าหลักของสเมอร์นอฟลดลง ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาจากปัจจัยลบต่างๆที่เกิดขึ้นภายในประเทศ
สำหรับการสร้างการรับรู้บริษัทดำเนินกิจกรรมการตลาด เพื่อสร้างความเข้าใจกับกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ เพื่อให้หันมาทดลองดื่มวอดก้าจากเดิมดื่มวิสกี้ ทั้งนี้การมุ่งเน้นสื่อสารผ่านกิจกรรมปาร์ตี้เล็กๆ ตลอดจนช่องทางต่างๆ เพื่อสร้างประสบการณ์ตรงให้กับลูกค้า ประเดิมด้วยการจัดงานคลับเอ็กซิบิชั่น นำกลุ่มคนดนตรีผู้ริเริ่มดนตรีแนวฮิป ฮอป อินดี้ และอันเดอร์กราวน์ในประเทศไทย มารวมตัวกันเพื่อถ่ายทอดเรื่องการเกิดดนตรีประเภทต่างๆ ฯลฯ
"บริษัทจะดำเนินการตลาดเชิงรุกอย่างต่อเนื่องมา 2 ปีแล้ว แม้ว่าปีผลพวงจากสภาพเศรษฐกิจและกำลังซื้อของผู้บริโภค จะไม่เอื้อในการทำตลาด อย่างไรก็ตามจากการดำเนินการตลาดของบริษัทยังช่วยกระตุ้นตลาดเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์พร้อมดื่มกลับมาโตอีกครั้งในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา โดยมีแบรนด์สเมอร์นอฟ ไอซ์เป็นตัวกระตุ้นตลาด"
พฤติกรรมผู้บริโภคมีแนวโน้มหันมาดื่มเครื่องดื่มไวท์ สปิริตมากขึ้น โดยเฉพาะวอดก้า ทั้งนี้พบว่าสัดส่วนของลูกค้าไทยเพิ่มขึ้นจาก 10% เป็น 20% โดยแนวโน้มตลาดวอดก้ามีอัตราการเติบโต 10-15% สำหรับปีนี้บริษัทได้ใช้งบการตลาด 200 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา แบ่งเป็น อะโบฟเดอะไลน์ 50% และบีโลว์เดอะไลน์ 50% โดยผลักดันยอดขายเติบโต 10% จากการมียอดขาย 4.7 หมื่นลัง ครองส่วนแบ่งอันดับ 1 จากตลาดวอดก้า 1 แสนลัง
