วีระศักดิ์ เตรียมชง ครม.ยกเลิกเก็บค่าวีซ่า นักท่องเที่ยวเข้าเมืองชั่วคราว หวังเจาะกลุ่มรอเปลี่ยนเครื่อง ใช้เวลา 4-6 ชั่วโมงเดินทางเที่ยว ต่อลมหายใจให้ภาคเอกชนมีรายได้หมุนเวียนเพิ่มขึ้น ในช่วงวิกฤตปีนี้ คุยแผนแยกแถวนักท่องเที่ยวเฟิร์สคลาส และ บิสสิเนสคลาส ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองผ่านฉลุย ดีเดย์เริ่มใช้ 1 พ.ย.นี้
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ได้ทำเอกสารเตรียมเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ขอพิจารณายกเว้นการเก็บค่าวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวที่เข้าเมืองชั่วคราว โดยมุ่งหวังจูงใจให้นักท่องเที่ยวที่มาเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ แล้วมีเวลาประมาณ 4-6 ชั่วโมงในประเทศไทย ได้ออกมาเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งจะช่วยให้มีเม็ดเงินเข้ามาหมุนเวียนในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวได้เพิ่มขึ้น โดยแผนงานนี้ จะใช้เพียงชั่วคราว เพื่อแก้ไขวิกฤตที่เกิดขึ้นกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในขณะนี้
ทั้งนี้แนวคิดดังกล่าว เบื้องต้น ได้ผ่านความเห็นชอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว ได้แก่ บมจ.ท่าอากาศยานไทย ,สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(สตม.) ,บมจ.การบินไทย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และ ภาคเอกชนที่อยู่ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ดังนั้นหาก ครม.เห็นชอบด้วย ทางกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ก็จะหารือกับผู้ประกอบการ อาทิ สมาคมไทยธุรกิจท่องเที่ยว(แอตต้า) ,สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ(สทน.) เป็นต้น จัดทำแพกเกจทัวร์ที่น่าสนใจและเหมาะกับนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้
"ในอดีต สมัยอยู่ที่สนามบินดอนเมือง ก็เคยใช้แผนนี้กระตุ้นนักท่องเที่ยวมาแล้ว นอกจากนั้นแผนการณ์ดังกล่าว ประเทศเกาหลีก็เคยใช้และประสบความสำเร็จสูง ซึ่งหากประเทศไทยนำกลับมาใช้อีกครั้ง เชื่อว่าจะทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาประเทศไทยสม่ำเสมอขึ้น แม้จะเป็นำจนวนไม่มาก แต่ก็ยังช่วยพยุงให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยอยู่รอด และ มีรายได้เพิ่มขึ้นได้ในสถานการณ์เช่นนี้ "
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของแผน การแยกแถวผู้โดยสารที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง สำหรับผู้โดยสารชั้น เฟิร์สคลาสและบิสเนสคลาส ออกจาก ผู้โดยสารชั้นประหยัด ล่าสุดทุกฝ่ายเห็นชอบ และ พร้อมดำเนินการทันที่ โดยจะเริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.ศกนี้ มั่นใจจะสร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวและนักธุรกิจที่เดินทางเข้ามาประเทศไทย เพราะผู้โดยสารชั้นเฟิร์สคลาส และ บิสสิเนสคลาส ไม่ต้องรอต่อแถวยาว ขณะที่ แถวของชั้นประหยัดก็จะสั้นขึ้นด้วย โดยผู้โดยสารชั้น เฟิร์ส คลาส และ บิสสิเนสคลาส คิดเป็น 20% ของจำนวนผู้โดยสารในแต่ละเที่ยวบิน
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ได้ทำเอกสารเตรียมเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ขอพิจารณายกเว้นการเก็บค่าวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวที่เข้าเมืองชั่วคราว โดยมุ่งหวังจูงใจให้นักท่องเที่ยวที่มาเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ แล้วมีเวลาประมาณ 4-6 ชั่วโมงในประเทศไทย ได้ออกมาเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งจะช่วยให้มีเม็ดเงินเข้ามาหมุนเวียนในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวได้เพิ่มขึ้น โดยแผนงานนี้ จะใช้เพียงชั่วคราว เพื่อแก้ไขวิกฤตที่เกิดขึ้นกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในขณะนี้
ทั้งนี้แนวคิดดังกล่าว เบื้องต้น ได้ผ่านความเห็นชอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว ได้แก่ บมจ.ท่าอากาศยานไทย ,สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(สตม.) ,บมจ.การบินไทย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และ ภาคเอกชนที่อยู่ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ดังนั้นหาก ครม.เห็นชอบด้วย ทางกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ก็จะหารือกับผู้ประกอบการ อาทิ สมาคมไทยธุรกิจท่องเที่ยว(แอตต้า) ,สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ(สทน.) เป็นต้น จัดทำแพกเกจทัวร์ที่น่าสนใจและเหมาะกับนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้
"ในอดีต สมัยอยู่ที่สนามบินดอนเมือง ก็เคยใช้แผนนี้กระตุ้นนักท่องเที่ยวมาแล้ว นอกจากนั้นแผนการณ์ดังกล่าว ประเทศเกาหลีก็เคยใช้และประสบความสำเร็จสูง ซึ่งหากประเทศไทยนำกลับมาใช้อีกครั้ง เชื่อว่าจะทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาประเทศไทยสม่ำเสมอขึ้น แม้จะเป็นำจนวนไม่มาก แต่ก็ยังช่วยพยุงให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยอยู่รอด และ มีรายได้เพิ่มขึ้นได้ในสถานการณ์เช่นนี้ "
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของแผน การแยกแถวผู้โดยสารที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง สำหรับผู้โดยสารชั้น เฟิร์สคลาสและบิสเนสคลาส ออกจาก ผู้โดยสารชั้นประหยัด ล่าสุดทุกฝ่ายเห็นชอบ และ พร้อมดำเนินการทันที่ โดยจะเริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.ศกนี้ มั่นใจจะสร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวและนักธุรกิจที่เดินทางเข้ามาประเทศไทย เพราะผู้โดยสารชั้นเฟิร์สคลาส และ บิสสิเนสคลาส ไม่ต้องรอต่อแถวยาว ขณะที่ แถวของชั้นประหยัดก็จะสั้นขึ้นด้วย โดยผู้โดยสารชั้น เฟิร์ส คลาส และ บิสสิเนสคลาส คิดเป็น 20% ของจำนวนผู้โดยสารในแต่ละเที่ยวบิน
