นายสมชาย อ้างว่ารัฐบาลจะต้องตั้ง “ส.ส.ร.” และอยู่จนกว่าร่างรัฐธรรมนูญเสร็จ “คืนอำนาจให้ประชาชน” ใช้เวลา 8 เดือน
อ้างเหตุผลเดียวกับสมัครว่า จะต้องอยู่เป็นประธานประชุมอาเซียนบ้าง จะต้องคอยพระราชพิธีบ้าง จะอยู่ถวายพระพรชัยบ้าง เรื่องเหล่านี้ไม่สมควรที่คนอัปรีย์จะต้องอยู่ “เสนอหน้าให้เป็นเสนียด”
ท่านทูตอัษฎา ท่านทูตกษิต ท่านทูตสุรพงษ์ ทั้ง 3 มิใช่ทูตกระจอกเหมือนสมุนพาสปอร์ตแดง ล้วนเป็นแนวหน้ากระทรวงการต่างประเทศ ผ่านประเทศพี่เบิ้มของโลก เช่น ญี่ปุ่น เยอรมนี สหรัฐอเมริกา แถมสหประชาชาติที่นิวยอร์กอีก ทั้ง 3 ท่านบอกว่า ไม่มียุคไหนที่กระทรวงการต่างประเทศจะตกต่ำขนาดนี้
อย่าลืมว่า “สองสม” บัตรเลือกตั้งสัดส่วนเบอร์เดียวกับยงยุทธ สมพงษ์เสียหน้าที่สหประชาชาติมาหยกๆ ไปเสียเถิด นายสมชายกับนายสมพงษ์ อย่าให้ไทยขายหน้ามากกว่านี้เลย
คนไทยถูกหลอกมาโดยตลอด ด้วยหลักคิดที่ผิดและเหลวไหล ขาดรากฐานทั้งทางทฤษฎีและปฏิบัติ ทำให้ประเทศชาติดักดานด้อยพัฒนาล้าหลัง และไม่เป็นประชาธิปไตย ตัวอย่าง 2 ข้อ ได้แก่ (1) แนวความคิดว่า “การเลือกตั้งคือการคืนอำนาจให้ประชาชน” และ (2) แนวความคิดเรื่องการร่างรัฐธรรมนูญโดย ส.ส.ร.
เรื่องที่ 1 “การคืนอำนาจให้ประชาชนด้วยการเลือกตั้ง” เป็นวาทกรรมดัดจริตของสื่อ นักวิชาการ และนักเลือกตั้งเมืองไทยที่เห็นการเลือกตั้งเป็นสรณะ หากินกับการเลือกตั้ง จริงอยู่ การเลือกตั้งเป็นพิธีกรรมที่ขาดไม่ได้ในระบอบประชาธิปไตย แต่เผด็จการ เช่น โซเวียต จีน หรือคิวบาก็มีการเลือกตั้งเหมือนกัน การเลือกตั้งที่อ้างประชาธิป ไตยแต่กลายเป็นโคตรเผด็จการก็มี ตัวอย่างเช่น ฮิตเลอร์ และมาร์กอส เป็นต้น การเลือกตั้งที่จะเป็นประชาธิปไตยนั้นจะต้องยุติธรรม ทั่วถึง เสรี และมีเนื้อหาต่อเนื่องเป็นประชาธิปไตยทั้งในสัญลักษณ์โครงสร้าง องค์ประกอบ และพฤติกรรมของระบอบการปกครอง
ระบอบทักษิณถูกกล่าวหาเรื่องทุจริตคอร์รัปชัน เรื่องฆ่าตัดตอน เรื่องละเมิดกฎหมาย ละเมิดรัฐธรรมนูญ และละเมิดพระราชอำนาจ แล้วไม่ยอมรับการตรวจสอบไม่ว่าโดยศาล ฝ่ายค้าน สื่อ หรือสาธารณชน อ้างลูกเดียวว่าจะผิดหรือไม่ผิด ประชาชนที่มาหย่อนบัตรเลือกตั้งเท่านั้นที่จะเป็นผู้ตัดสิน นี่คือสันดานเผด็จการแท้ๆ
สมแล้วที่เสนาะ เทียนทอง ด่าว่าจับ ส.ส.ไปใส่คุก แต่มันเป็นคุกที่อุดมสมบูรณ์จนเสนาะต้องพาลูกเมียกลับเข้าไปอีก
ประชาชนมาใช้สิทธิหย่อนบัตรเพียง 4 นาที แล้วก็ถูกยึดอำนาจไปหมด จนกระทั่งเลือกตั้งใหม่ หย่อนบัตรอีก 4 นาที นี่หรือคืนอำนาจให้ประชาชน แท้จริง อำนาจเป็นของประชาชนอยู่ตลอดเวลา ประชาชนมอบอำนาจหน้าที่บางอย่างให้รัฐบาลไปปฏิบัติเท่านั้น เมื่อรัฐบาลปฏิบัตินอกหน้าที่ หรือประชาชนทนความเลวของรัฐบาลไม่ได้ ประชาชนมีสิทธิเตะรัฐบาลออกได้ทุกเมื่อ ตัวอย่างมีอยู่ในคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ในทฤษฎีสัญญาประชาคมของรุสโซ ในประกาศอิสรภาพของอเมริกัน อ่านได้จากบทความของ ศ.ดร.สมบัติ จันทรวงศ์ และของผมในผู้จัดการออนไลน์
ประธานาธิบดีนิกสันถูกบังคับให้ลาออก เพราะลูกน้องไปแอบงัดสำนักงานหาเสียงของฝ่ายค้านที่ตึกวอเตอร์เกต ไม่มีหลักฐานว่านิกสันรู้เห็นหรือร่วมกระทำความผิดใดๆ แต่นิกสันโดนข้อหาหน่วงเหนี่ยวความยุติธรรม เพราะลบเทปบันทึกการสนทนาที่อาจจะเป็นพยานหลักฐาน และไม่ยอมส่งลูกน้องบางคนไปให้การกับคณะกรรมการสอบสวน นิกสันเป็นประธานาธิบดีที่ได้รับเลือกด้วยคะแนนสียงถล่มทลาย ในประวัติศาสตร์การเมืองอเมริกัน เป็นไปไม่ได้ที่ใครจะทำลายหรือเข้าใกล้สถิติการชนะเลือกตั้งของนิกสันได้
ข้าหลวงเกรย์ เดวิส แห่งแคลิฟอร์เนีย ชนะเลือกตั้งมาไม่กี่น้ำ ไม่ได้ทำผิดอะไร แต่ประชาชนไม่ชอบใจผลงานของเขาเฉยๆ จึงเข้าชื่อขอให้มีประชามติเลือกตั้งใหม่ เลยแพ้อาร์โนลด์ ชวาร์เซเนกเกอร์ ดาราหนังกล้ามใหญ่ สัญชาติเดิมเป็นออสเตรียไป
มาร์กาเรต แทตเชอร์ พรรคคอนเซอร์เวทีฟ และแบลร์ พรรคแรงงานของอังกฤษ พาพรรคชนะการเลือกตั้งมาอย่างล้นหลามทั้งคู่ แต่เมื่อประชาชนเริ่มไม่พอใจหาว่าโกหก และอาจทำให้ประเทศตกต่ำเสียหาย ก็ถูกลูกพรรคบีบให้ออกจากตำแหน่งหัวหน้าและนายกรัฐมนตรีทั้งคู่ ไม่ต้องคอยยุบสภาหรือเลือกตั้ง
เพราะฉะนั้น พวกเราอย่าได้ฟังนายสมชายเลยว่า เขามาด้วยการเลือกตั้งก็จะต้องอยู่ทำหน้าที่ และจงเลิกหลงเชื่อผิดๆ เรื่องการคืนอำนาจให้กับประชาชนด้วยการเลือกตั้งของไอ้พวกลวงโลกหน้าด้าน
เรื่องที่ 2 ด้วยความถ่อมตัวยิ่ง ขอเรียนว่า ผมเป็นกรรมการร่างรัฐธรรมนูญปี 2516 เป็นอดีตตุลาการที่อาวุโสที่สุดขณะนี้ ได้รับทุนเล่าเรียนหลวงไปเรียนวิชารัฐธรรมนูญและประชาธิปไตยกับครูและมหาวิทยาลัยที่ดังที่สุดถึง 4 มหาวิทยาลัยใน 3 ประเทศแม่แบบประชาธิปไตยคือ อเมริกา อังกฤษ และฝรั่งเศส
ผมเห็นว่า การร่างรัฐธรรมนูญโดย ส.ส.ร.นี้ เป็นอวิชชาโดยแท้ รังแต่จะเสียเวลา และไม่มีทางที่จะได้รัฐธรรมนูญประชาธิปไตยที่เหมาะสมกับเมืองไทย เป็นการลอกเลียนแบบจากต่างประเทศมาผิดๆ โดยขาดความสำนึกหรือความเข้าใจ ไม่ต่างอะไรกับไปเรียนแฟชั่นเมืองนอก แล้วออกแบบเสื้อโค้ตขนสัตว์หนาๆ กับรองเท้าส้นสูง 9 นิ้วมาให้น้องนางบ้านนาใส่
ผมสนับสนุนการมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวางทั่วถึงของกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญ ด้วยการสำรวจและรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนทุกหมู่เหล่าอาชีพ รวมทั้งการวิเคราะห์วิจัยข้อมูลทั้งในด้านทฤษฎีและปฏิบัติ ทั้งในบ้านและนอกบ้านเราเปรียบเทียบทั้งในยุคสมัยเดียวกันและต่างยุคสมัย รวมถึงกระบวนการให้สัตยาบันหรือประชามติรับรองรัฐธรรมนูญด้วยความรู้และความพร้อม
แต่ภาระในการร่างรัฐธรรมนูญนั้น สมควรจะใช้ผู้ที่มีความชำนาญเฉพาะที่เป็นองค์คณะที่กะทัดรัดตั้งแต่ 5 คนหรือไม่เกิน 9 คน ผู้มีความรู้จริง มีโยนิโสมนสิการ สามารถทำงานด้วยความรวดเร็ว รอบคอบ หนุนด้วยวิธีรับฟังและรวบรวมตรวจสอบข้อมูลอย่างเป็นระบบ
รัฐธรรมนูญที่มีอายุยืนยาวเป็นยอดรัฐธรรมนูญลายลักษณ์อักษรฉบับแรกของโลก คือรัฐธรรมนูญอเมริกันสั้นมากไม่ถึง 30 มาตรา มีคณะผู้ร่างอยู่ประมาณ 50 คน แต่ลงชื่อจริงๆ ในตัวรัฐธรรมนูญ 30 กว่าคน ได้รับการยกย่องว่าเป็นบิดรผู้สถาปนาอเมริกา หรือ Founding Fathers แต่ผู้ที่ได้ชื่อว่า บิดาแห่งรัฐธรรมนูญอเมริกัน หรือ Father of American Constitution นั้นมีคนเดียวชื่อว่า James Madison แปลว่า Madison เป็นผู้มีส่วนร่างมากที่สุด
รัฐธรรมนูญอินเดียอยู่ยงคงกะพันมาตั้งแต่เป็นเอกราช ร่างโดยบุคคลเดียวคือ ดร.อัมเบด การ์ เดิมเป็นวรรณะจัณฑาล ภายหลังกลายเป็นผู้นำชาวพุทธอินเดีย
ฝรั่งเศสฉีกรัฐธรรมนูญแล้วฉีกอีก ในที่สุดฉบับปัจจุบันอยู่มาหลายสิบปี คือรัฐธรรมนูญสาธารณรัฐที่ 5 หรือรัฐธรรมนูญนายพลเดอ โกล เขียนโดยบุคคลเดียว คือ นายมิเชล เดแบรส์ อดีตนายกรัฐมนตรีไทยรับมรดกกรรมคือการร่างรัฐธรรมนูญแบบฝรั่งเศสเอาอย่างกันตลอดทุกรูปแบบ และเอาหลักกฎหมายมหาชนมาใช้อย่างผิดฝาผิดตัวไม่เลือกที่ เหมือนแกงจับฉ่ายยืดยาวโยกโย้ น่าขายหน้า
รัฐธรรมนูญญี่ปุ่นร่างคนเดียว ซ้ำเป็นคนต่างชาติโดยผู้หญิงชื่อ เอส.บี. กอร์ดอน ที่เป็นสต๊าฟรับคำสั่งของนายพลแมคอาเธอร์ว่าต้องเขียนให้เสร็จใน 2 สัปดาห์ ดีแต่เธอแตกฉานภาษาและวัฒนธรรมญี่ปุ่น จึงสามารถเขียนรัฐธรรมนูญให้ญี่ปุ่นใช้มาได้จนถึงทุกวันนี้
รัฐธรรมนูญที่ดีนั้นไม่มีอะไรมาก หนึ่ง จะต้องรับรองอำนาจและสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน สิทธิอื่นๆไม่ต้องพูดถึงถือว่าสงวนไว้ให้ประชาชนทั้งหมด สอง ต้องระบุอำนาจและหน้าที่ที่มอบหมายให้รัฐบาลอย่างชัดแจ้ง และจำกัดไว้แค่นั้น อำนาจหน้าที่ที่มิได้ระบุไว้ ถือว่าเป็นอำนาจของประชาชน ถ้าจำเป็นรัฐบาลจะต้องไปขออนุมัติใช้จากประชาชนเป็นคราวๆ ไป และ สาม กำหนดกลไกของการใช้อำนาจอธิปไตยให้สอดคล้องและสมดุลกันเพื่อเป็นหลักประกันความราบรื่นของข้อ 1 และ ข้อ 2
รัฐบาลสัญญาเกิดจากการเรียกร้องรัฐธรรมนูญ แต่เมื่อไล่รัฐบาลไปแล้ว รัฐบาลคงเก็บรัฐธรรมนูญการปกครองของเผด็จการไว้ตลอดสมัย เลือกเอาเฉพาะที่เป็นประชาธิปไตยมาใช้ แสดงว่า เราสามารถทำให้สังคมเป็นประชาธิปไตยได้ โดยไม่ต้องกังวลว่ามีรัฐธรรมนูญหรือไม่
เพราะฉะนั้น อย่าไปหลงข้ออ้างแก้รัฐธรรมนูญฟอกหัวหน้า หรือตั้ง ส.ส.ร.มา คืนอำนาจให้ประชาชน มันเป็นข้ออ้างของรัฐบาลหน้าด้านที่แอบเข้ามา “ยึดอำนาจการปกครอง” และต้องการถ่วงเวลาเพื่อหาทางยึดอำนาจถาวรต่อไป จงช่วยกันไสหัวมันออกไปเถิด ไสหัวออกไป
อ้างเหตุผลเดียวกับสมัครว่า จะต้องอยู่เป็นประธานประชุมอาเซียนบ้าง จะต้องคอยพระราชพิธีบ้าง จะอยู่ถวายพระพรชัยบ้าง เรื่องเหล่านี้ไม่สมควรที่คนอัปรีย์จะต้องอยู่ “เสนอหน้าให้เป็นเสนียด”
ท่านทูตอัษฎา ท่านทูตกษิต ท่านทูตสุรพงษ์ ทั้ง 3 มิใช่ทูตกระจอกเหมือนสมุนพาสปอร์ตแดง ล้วนเป็นแนวหน้ากระทรวงการต่างประเทศ ผ่านประเทศพี่เบิ้มของโลก เช่น ญี่ปุ่น เยอรมนี สหรัฐอเมริกา แถมสหประชาชาติที่นิวยอร์กอีก ทั้ง 3 ท่านบอกว่า ไม่มียุคไหนที่กระทรวงการต่างประเทศจะตกต่ำขนาดนี้
อย่าลืมว่า “สองสม” บัตรเลือกตั้งสัดส่วนเบอร์เดียวกับยงยุทธ สมพงษ์เสียหน้าที่สหประชาชาติมาหยกๆ ไปเสียเถิด นายสมชายกับนายสมพงษ์ อย่าให้ไทยขายหน้ามากกว่านี้เลย
คนไทยถูกหลอกมาโดยตลอด ด้วยหลักคิดที่ผิดและเหลวไหล ขาดรากฐานทั้งทางทฤษฎีและปฏิบัติ ทำให้ประเทศชาติดักดานด้อยพัฒนาล้าหลัง และไม่เป็นประชาธิปไตย ตัวอย่าง 2 ข้อ ได้แก่ (1) แนวความคิดว่า “การเลือกตั้งคือการคืนอำนาจให้ประชาชน” และ (2) แนวความคิดเรื่องการร่างรัฐธรรมนูญโดย ส.ส.ร.
เรื่องที่ 1 “การคืนอำนาจให้ประชาชนด้วยการเลือกตั้ง” เป็นวาทกรรมดัดจริตของสื่อ นักวิชาการ และนักเลือกตั้งเมืองไทยที่เห็นการเลือกตั้งเป็นสรณะ หากินกับการเลือกตั้ง จริงอยู่ การเลือกตั้งเป็นพิธีกรรมที่ขาดไม่ได้ในระบอบประชาธิปไตย แต่เผด็จการ เช่น โซเวียต จีน หรือคิวบาก็มีการเลือกตั้งเหมือนกัน การเลือกตั้งที่อ้างประชาธิป ไตยแต่กลายเป็นโคตรเผด็จการก็มี ตัวอย่างเช่น ฮิตเลอร์ และมาร์กอส เป็นต้น การเลือกตั้งที่จะเป็นประชาธิปไตยนั้นจะต้องยุติธรรม ทั่วถึง เสรี และมีเนื้อหาต่อเนื่องเป็นประชาธิปไตยทั้งในสัญลักษณ์โครงสร้าง องค์ประกอบ และพฤติกรรมของระบอบการปกครอง
ระบอบทักษิณถูกกล่าวหาเรื่องทุจริตคอร์รัปชัน เรื่องฆ่าตัดตอน เรื่องละเมิดกฎหมาย ละเมิดรัฐธรรมนูญ และละเมิดพระราชอำนาจ แล้วไม่ยอมรับการตรวจสอบไม่ว่าโดยศาล ฝ่ายค้าน สื่อ หรือสาธารณชน อ้างลูกเดียวว่าจะผิดหรือไม่ผิด ประชาชนที่มาหย่อนบัตรเลือกตั้งเท่านั้นที่จะเป็นผู้ตัดสิน นี่คือสันดานเผด็จการแท้ๆ
สมแล้วที่เสนาะ เทียนทอง ด่าว่าจับ ส.ส.ไปใส่คุก แต่มันเป็นคุกที่อุดมสมบูรณ์จนเสนาะต้องพาลูกเมียกลับเข้าไปอีก
ประชาชนมาใช้สิทธิหย่อนบัตรเพียง 4 นาที แล้วก็ถูกยึดอำนาจไปหมด จนกระทั่งเลือกตั้งใหม่ หย่อนบัตรอีก 4 นาที นี่หรือคืนอำนาจให้ประชาชน แท้จริง อำนาจเป็นของประชาชนอยู่ตลอดเวลา ประชาชนมอบอำนาจหน้าที่บางอย่างให้รัฐบาลไปปฏิบัติเท่านั้น เมื่อรัฐบาลปฏิบัตินอกหน้าที่ หรือประชาชนทนความเลวของรัฐบาลไม่ได้ ประชาชนมีสิทธิเตะรัฐบาลออกได้ทุกเมื่อ ตัวอย่างมีอยู่ในคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ในทฤษฎีสัญญาประชาคมของรุสโซ ในประกาศอิสรภาพของอเมริกัน อ่านได้จากบทความของ ศ.ดร.สมบัติ จันทรวงศ์ และของผมในผู้จัดการออนไลน์
ประธานาธิบดีนิกสันถูกบังคับให้ลาออก เพราะลูกน้องไปแอบงัดสำนักงานหาเสียงของฝ่ายค้านที่ตึกวอเตอร์เกต ไม่มีหลักฐานว่านิกสันรู้เห็นหรือร่วมกระทำความผิดใดๆ แต่นิกสันโดนข้อหาหน่วงเหนี่ยวความยุติธรรม เพราะลบเทปบันทึกการสนทนาที่อาจจะเป็นพยานหลักฐาน และไม่ยอมส่งลูกน้องบางคนไปให้การกับคณะกรรมการสอบสวน นิกสันเป็นประธานาธิบดีที่ได้รับเลือกด้วยคะแนนสียงถล่มทลาย ในประวัติศาสตร์การเมืองอเมริกัน เป็นไปไม่ได้ที่ใครจะทำลายหรือเข้าใกล้สถิติการชนะเลือกตั้งของนิกสันได้
ข้าหลวงเกรย์ เดวิส แห่งแคลิฟอร์เนีย ชนะเลือกตั้งมาไม่กี่น้ำ ไม่ได้ทำผิดอะไร แต่ประชาชนไม่ชอบใจผลงานของเขาเฉยๆ จึงเข้าชื่อขอให้มีประชามติเลือกตั้งใหม่ เลยแพ้อาร์โนลด์ ชวาร์เซเนกเกอร์ ดาราหนังกล้ามใหญ่ สัญชาติเดิมเป็นออสเตรียไป
มาร์กาเรต แทตเชอร์ พรรคคอนเซอร์เวทีฟ และแบลร์ พรรคแรงงานของอังกฤษ พาพรรคชนะการเลือกตั้งมาอย่างล้นหลามทั้งคู่ แต่เมื่อประชาชนเริ่มไม่พอใจหาว่าโกหก และอาจทำให้ประเทศตกต่ำเสียหาย ก็ถูกลูกพรรคบีบให้ออกจากตำแหน่งหัวหน้าและนายกรัฐมนตรีทั้งคู่ ไม่ต้องคอยยุบสภาหรือเลือกตั้ง
เพราะฉะนั้น พวกเราอย่าได้ฟังนายสมชายเลยว่า เขามาด้วยการเลือกตั้งก็จะต้องอยู่ทำหน้าที่ และจงเลิกหลงเชื่อผิดๆ เรื่องการคืนอำนาจให้กับประชาชนด้วยการเลือกตั้งของไอ้พวกลวงโลกหน้าด้าน
เรื่องที่ 2 ด้วยความถ่อมตัวยิ่ง ขอเรียนว่า ผมเป็นกรรมการร่างรัฐธรรมนูญปี 2516 เป็นอดีตตุลาการที่อาวุโสที่สุดขณะนี้ ได้รับทุนเล่าเรียนหลวงไปเรียนวิชารัฐธรรมนูญและประชาธิปไตยกับครูและมหาวิทยาลัยที่ดังที่สุดถึง 4 มหาวิทยาลัยใน 3 ประเทศแม่แบบประชาธิปไตยคือ อเมริกา อังกฤษ และฝรั่งเศส
ผมเห็นว่า การร่างรัฐธรรมนูญโดย ส.ส.ร.นี้ เป็นอวิชชาโดยแท้ รังแต่จะเสียเวลา และไม่มีทางที่จะได้รัฐธรรมนูญประชาธิปไตยที่เหมาะสมกับเมืองไทย เป็นการลอกเลียนแบบจากต่างประเทศมาผิดๆ โดยขาดความสำนึกหรือความเข้าใจ ไม่ต่างอะไรกับไปเรียนแฟชั่นเมืองนอก แล้วออกแบบเสื้อโค้ตขนสัตว์หนาๆ กับรองเท้าส้นสูง 9 นิ้วมาให้น้องนางบ้านนาใส่
ผมสนับสนุนการมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวางทั่วถึงของกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญ ด้วยการสำรวจและรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนทุกหมู่เหล่าอาชีพ รวมทั้งการวิเคราะห์วิจัยข้อมูลทั้งในด้านทฤษฎีและปฏิบัติ ทั้งในบ้านและนอกบ้านเราเปรียบเทียบทั้งในยุคสมัยเดียวกันและต่างยุคสมัย รวมถึงกระบวนการให้สัตยาบันหรือประชามติรับรองรัฐธรรมนูญด้วยความรู้และความพร้อม
แต่ภาระในการร่างรัฐธรรมนูญนั้น สมควรจะใช้ผู้ที่มีความชำนาญเฉพาะที่เป็นองค์คณะที่กะทัดรัดตั้งแต่ 5 คนหรือไม่เกิน 9 คน ผู้มีความรู้จริง มีโยนิโสมนสิการ สามารถทำงานด้วยความรวดเร็ว รอบคอบ หนุนด้วยวิธีรับฟังและรวบรวมตรวจสอบข้อมูลอย่างเป็นระบบ
รัฐธรรมนูญที่มีอายุยืนยาวเป็นยอดรัฐธรรมนูญลายลักษณ์อักษรฉบับแรกของโลก คือรัฐธรรมนูญอเมริกันสั้นมากไม่ถึง 30 มาตรา มีคณะผู้ร่างอยู่ประมาณ 50 คน แต่ลงชื่อจริงๆ ในตัวรัฐธรรมนูญ 30 กว่าคน ได้รับการยกย่องว่าเป็นบิดรผู้สถาปนาอเมริกา หรือ Founding Fathers แต่ผู้ที่ได้ชื่อว่า บิดาแห่งรัฐธรรมนูญอเมริกัน หรือ Father of American Constitution นั้นมีคนเดียวชื่อว่า James Madison แปลว่า Madison เป็นผู้มีส่วนร่างมากที่สุด
รัฐธรรมนูญอินเดียอยู่ยงคงกะพันมาตั้งแต่เป็นเอกราช ร่างโดยบุคคลเดียวคือ ดร.อัมเบด การ์ เดิมเป็นวรรณะจัณฑาล ภายหลังกลายเป็นผู้นำชาวพุทธอินเดีย
ฝรั่งเศสฉีกรัฐธรรมนูญแล้วฉีกอีก ในที่สุดฉบับปัจจุบันอยู่มาหลายสิบปี คือรัฐธรรมนูญสาธารณรัฐที่ 5 หรือรัฐธรรมนูญนายพลเดอ โกล เขียนโดยบุคคลเดียว คือ นายมิเชล เดแบรส์ อดีตนายกรัฐมนตรีไทยรับมรดกกรรมคือการร่างรัฐธรรมนูญแบบฝรั่งเศสเอาอย่างกันตลอดทุกรูปแบบ และเอาหลักกฎหมายมหาชนมาใช้อย่างผิดฝาผิดตัวไม่เลือกที่ เหมือนแกงจับฉ่ายยืดยาวโยกโย้ น่าขายหน้า
รัฐธรรมนูญญี่ปุ่นร่างคนเดียว ซ้ำเป็นคนต่างชาติโดยผู้หญิงชื่อ เอส.บี. กอร์ดอน ที่เป็นสต๊าฟรับคำสั่งของนายพลแมคอาเธอร์ว่าต้องเขียนให้เสร็จใน 2 สัปดาห์ ดีแต่เธอแตกฉานภาษาและวัฒนธรรมญี่ปุ่น จึงสามารถเขียนรัฐธรรมนูญให้ญี่ปุ่นใช้มาได้จนถึงทุกวันนี้
รัฐธรรมนูญที่ดีนั้นไม่มีอะไรมาก หนึ่ง จะต้องรับรองอำนาจและสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน สิทธิอื่นๆไม่ต้องพูดถึงถือว่าสงวนไว้ให้ประชาชนทั้งหมด สอง ต้องระบุอำนาจและหน้าที่ที่มอบหมายให้รัฐบาลอย่างชัดแจ้ง และจำกัดไว้แค่นั้น อำนาจหน้าที่ที่มิได้ระบุไว้ ถือว่าเป็นอำนาจของประชาชน ถ้าจำเป็นรัฐบาลจะต้องไปขออนุมัติใช้จากประชาชนเป็นคราวๆ ไป และ สาม กำหนดกลไกของการใช้อำนาจอธิปไตยให้สอดคล้องและสมดุลกันเพื่อเป็นหลักประกันความราบรื่นของข้อ 1 และ ข้อ 2
รัฐบาลสัญญาเกิดจากการเรียกร้องรัฐธรรมนูญ แต่เมื่อไล่รัฐบาลไปแล้ว รัฐบาลคงเก็บรัฐธรรมนูญการปกครองของเผด็จการไว้ตลอดสมัย เลือกเอาเฉพาะที่เป็นประชาธิปไตยมาใช้ แสดงว่า เราสามารถทำให้สังคมเป็นประชาธิปไตยได้ โดยไม่ต้องกังวลว่ามีรัฐธรรมนูญหรือไม่
เพราะฉะนั้น อย่าไปหลงข้ออ้างแก้รัฐธรรมนูญฟอกหัวหน้า หรือตั้ง ส.ส.ร.มา คืนอำนาจให้ประชาชน มันเป็นข้ออ้างของรัฐบาลหน้าด้านที่แอบเข้ามา “ยึดอำนาจการปกครอง” และต้องการถ่วงเวลาเพื่อหาทางยึดอำนาจถาวรต่อไป จงช่วยกันไสหัวมันออกไปเถิด ไสหัวออกไป