เอเอฟพี – อาร์โนล์ด ชวาร์เซเนกเกอร์ ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียประกาศภาวะฉุกเฉินด้านงบประมาณในรัฐที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ พร้อมเรียกร้องให้สมาชิกสภานิติบัญญัติของรัฐกลับเข้าวาระการประชุมวิสามัญ เพื่ออุดงบที่ขาดไป ซึ่งคาดว่าอาจทะลุถึง 24,000 ล้านดอลลาร์ภายใน 2 ปี
ชวาร์เซเนกเกอร์ออกมาประกาศเนื่องจากแคลิฟอร์เนียขาดเงินสด 2,800 ล้านดอลลาร์ จึงไม่สามารถจ่ายเงินบางรายการได้
ชวาร์เซเนกเกอร์แถลงว่า ภาวะขาดแคลนเงินนี้จะเพิ่มสูงขึ้นไปถึง 6,500 ล้านดอลลาร์ ภายในเดือนกันยายน หากไม่มีมาตรการทางกฎหมายลดค่าใช้จ่ายรายใหญ่ ตั้งแต่โครงการการศึกษา ไปจนถึงโครงการสำหรับคนยากจน
ผู้ว่าการคนเหล็กเผยว่า หากรัฐไม่สามารถจ่ายรายการเหล่านั้นได้ แคลิฟอร์เนียจะตกอยู่ในภาวะเสี่ยงอย่างร้ายแรง เนื่องจากจะไม่สามารถให้บริการความช่วยเหลือประชาชนที่จำเป็นได้อีกต่อไปเช่นกัน
นอกจากนี้ ชวาร์เซเนกเกอร์ยังออกคำสั่งเกี่ยวกับการบริหาร โดยจะให้ที่ทำการภาครัฐ ซึ่งเป็นผู้ออกใบอนุญาตต่างๆ ตั้งแต่ใบขับขี่ ไปจนถึงใบอนุญาตสร้างอาคาร ปิดทุกวันศุกร์ที่ 1 2 และ 3 ของทุกเดือนไปถึงเดือนมิถุนายน ปี 2010
ส่วนลูกจ้างของที่ทำการเหล่านั้นจะถูกลดค่าจ้างลงเดือนละ 3 วัน ทว่า จะไม่มีการลดวันทำการของโรงพยาบาล เรือนจำ และกรมทางหลวงแคลิฟอร์เนีย
แคลิฟอร์เนีย ซึ่งมีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับที่ 8 ของโลกหากมีสถานะเป็นประเทศ ต้องต่อสู้กับปัยหาทางการเงินไปตลอดปี 2009 ซึ่งผู้ว่าการรัฐ และวุฒิสมาชิก เคยคิดว่าพวกเขารอดพ้นวิกฤตที่ย่ำแย่ที่สุดแล้ว เมื่อได้เงินช่วยเหลือที่มีศักยภาพเมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แต่ผู้มีสิทธิออกเสียงปฏิเสธข้อเสนอเหล่านั้นทั้งหมดในเดือนพฤษภาคม
ภาวการณ์ขาดแคลนเงินนั้นเริ่มเลวร้ายยิ่งขึ้น เนื่องจากรายได้จากภาษีลดลง และแคลิฟอร์เนียได้รับผลกระทบมากกว่ารัฐอื่นๆ ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจระดับชาติ ซึ่งมีอัตราคนตกงานสูงถึง 11.5% รวมทั้งอัตราการถูกยึดทรัพย์สินที่จำนองไว้ค่อนข้างสูง ในขณะที่อัตราคนว่างงานทั่วประเทศอยู่ที่ 9.4%
ผู้ว่าฯ คนเหล็กได้ให้เวลาสมาชิกสภานิติบัญญัติหาทางแก้ไขวิกฤตด้านงบประมาณจนถึงคืนวันอังคารหน้า (7) ซึ่งเป็นวันสิ้นสุดปีงบประมาณของแคลิฟอร์เนีย