xs
xsm
sm
md
lg

ระดมพลสู้ลิ่วล้อแม้ว แจกซีดีชุดใหม่เซ็นทรัลเวิลด์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน - พันธมิตรฯรวมพลบุกเซ็นทรัลเวิลด์วันนี้แจกหนังสือ-วีซีดีเวอร์ชั่นใหม่ เปิดโปง 7 ตุลาทมิฬ “ตำรวจฆ่าประชาชน” เผยหลักฐานใหม่สะเก็ดระเบิดปืนเอ็ม 79 ในตัวผู้บาดเจ็บ ซัด “นายกฯน้องเขยแม้ว” ห้ามปัดความรับผิดชอบ ยันไม่ล้อมศาลในวันชี้ชะตาที่ดินรัชดา "สมศักดิ์" ผุดไอเดียการเมืองใหม่ต้องมีกระทรวงรัฐวิสาหกิจ พันธมิตรฯต่างจังหวัดเคลื่อนทัพเข้ากรุงอีกระรอก ร่วมลุ้นชะตา “ทักษิณ” 21 ต.ค.พร้อมรับมือ นปช.ที่เตรียมป่วนหนักเพื่อช่วยนายแม้วที่ลอนดอน

วานนี้ (19 ต.ค.) เวลา 10.00 น.นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แถลงข่าวที่ห้องสื่อมวลชนทำเนียบรัฐบาลว่า วันนี้ (20 ต.ค.) เวลา 10.00 น.พันธมิตรฯจะเดินขบวนรณรงค์แจกหนังสือและวีซีดี “ตำรวจฆ่าประชาชน” ที่หน้าห้างเซ็นทรัลเวิลด์พลาซ่า ก่อนที่จะเคลื่อนไปตามถนนวิทยุ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าจะไม่เคลื่อนไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) อย่างแน่นอน

ทั้งนี้ คาดว่าจะนำหนังสือและวีซีดีไปแจกประมาณ 200,000 ชุด ซึ่งหนังสือและวีซีดีชุดนี้จะมีรายละเอียดเพิ่มเติมจากชุดที่ไปแจกที่สีลม เนื่องจากมีประชาชนได้ส่งหลักฐานทั้งภาพถ่าย ภาพวีดีโอ ภาพจากกล้องโทรศัพท์มือถือ เข้ามาเพิ่มเติมให้กับพันธมิตรฯตลอดเวลา

"จากการตรวจสอบหลักฐานของตำรวจที่ชำนาญในพื้นที่ภาคใต้ รวมถึงแพทย์ที่มาดูแลผู้ชุมนุม ต่างยืนยันว่าผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 7 ตุลาคมนั้นในตัวพบสะเก็ดระเบิดปืนเอ็ม 79 แน่นอน" นายสมศักดิ์ กล่าว

นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวว่า รัฐบาลต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะการสลายการชุมนุมตั้งแต่เช้าจนถึงค่ำ นายกฯ ควรได้รับรายงานสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แต่จะมาบอกว่าไม่ได้รับรายงานคงเป็นไปไม่ได้ อีกทั้งตอนที่นายกฯ เดินทางเข้าเข้าสภาก็ต้องเห็นเหตุการณ์ แต่นายกฯ กลับไม่ได้สั่งการใดๆ ถือว่านายกฯ ไม่ได้เอาใจใส่และรับผิดชอบ เพราะขณะที่นายกฯแถลงนโยบายต่อสภา ก็ยังได้ยินเสียงปืนเป็นระยะ ซึ่งการสั่งฆ่าประชาชนในครั้งนี้นายกฯจะปัดความรับผิดชอบไม่ได้ แม้จะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงก็ตาม

ผู้สื่อข่าวถามว่า การตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงสลายการชุมนุม พันธมิตรฯเห็นว่าอย่างไร นายพิภพ กล่าวว่า คณะกรรมการของรัฐบาลไม่มีความชอบธรรมในการตั้งเพราะรัฐบาลเป็นผู้กระทำการเข่นฆ่าประชาชนเอง จึงไม่มีสิทธิ์ที่จะมาตั้งคณะกรรมการ รวมทั้งรัฐบาลไม่ได้ให้อิสระกับนายปรีชา พานิชวงศ์ ประธานคณะกรรมการฯอย่างแท้จริง เนื่องจากมีการแทรกแซงการตั้งคณะกรรมการ มีการดึงรายชื่อคณะกรรมการออกอย่างน้อย 2 ชื่อ ซึ่งเป็นบุคคลที่สังคมรู้จักดีว่าเป็นคนตรงไปตรงมา ดังนั้นจึงไม่มีความน่าเชื่อถือ

ทั้งนี้ ตนเห็นว่าควรมีคณะกรรมการที่เป็นกลาง เช่น คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ รวมทั้งขณะนี้ต้องรอดูคณะกรรมการของสภาฯว่าจะตั้งคณะกรรมการที่เป็นกลางได้หรือไม่ โดยที่รัฐบาลไม่เข้ามาเกี่ยวข้อง และ ส.ว.ที่สนับสนุนรัฐบาลไม่เข้ามาเกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม พันธมิตรฯจะใช้กระบวนการศาลเข้ามา แล้วจะดูว่าผลงานของคณะกรรมการฯ ชุดต่างๆ จะใช้ประโยชน์ในคดีความได้หรือไม่

"รัฐบาลที่มาโดยมิชอบ โกงการเลือกตั้งและพฤติกรรมที่ผ่านมามีการแทรกแซงองค์กรอิสระมาตลอด ฉะนั้นไม่มีทางที่จะตั้งคณะกรรมการมาเพื่อลงโทษตัวเอง เพราะตัวเองเป็นจำเลย เหมือนงาช้างไม่งอกออกจากปากสุนัขฉันใด รัฐบาลที่มาโดยไม่ชอบ ไม่มีทางที่จะตั้งคณะกรรมการให้ตรงไปตรงมาได้ฉันนั้น และวันนี้คนก็ตัดสินใจได้แล้วว่า รัฐบาลเป็นฝ่ายผิด แม้กระทั่งสี่เหล่าทัพยังออกมายืนยันชัดเจน แม้จะหน่อมแน้มไปหน่อยก็ตาม" นายพิภพกล่าว

นายพิภพ กล่าวว่า พันธมิตรฯ ยังไม่ยอมรับมติคณะกรรมการสอบสวนเหตุการณ์ 7 ตุลาคมของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ แม้ว่าคณะกรรมการชุดนี้เป็นคณะกรรมการอิสระตามรัฐธรรมนูญ แต่พันธมิตรฯ ก็คงต้องดูผลการสอบสวนก่อนว่า การสอบสวนมีความรอบด้านหรือไม่ ซึ่งขณะนี้ทางพันธมิตรฯ ได้ส่งหลักฐานต่างๆให้กับคณะกรรมการสิทธิฯ ตามที่ได้ร้องขอมาแล้ว

**พธม.ไม่กดดันศาลในวันที่21ต.ค.
ส่วนการเคลื่อนไหวดาวกระจายของกลุ่มพันธมิตรฯ ต่อจากนี้นั้น นายสมศักดิ์
กล่าวว่า แกนนำยังไม่ได้มีการหารือกัน ส่วนวันที่ 21 ต.ค.นี้ ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะมีการอ่านคำพิพากษาในคดีที่ดินรัชดานั้น พันธมิตรฯ ยืนยันว่า จะไม่เคลื่อนขบวนไปศาล เพราะเราเคารพในกระบวนการยุติธรรม

สำหรับกระแสข่าวที่รัฐบาลจะเกณฑ์คนไปกดดันศาลนั้น แสดงให้เห็นว่าการกระทำของรัฐบาลที่ป่าเถื่อน และไม่เคารพสถาบันตุลาการ ซึ่งนี่ไม่ได้เป็นการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม แต่เป็นการข่มขู่ คุกคาม

นายสมศักดิ์ ยังกล่าวถึงเรื่องการเมืองใหม่ว่าส่วนใหญ่มีการหารือเรื่องปฏิรูปการศึกษาที่จะต้องตอบสนองต่อการพัฒนาประเทศ และเน้นภาคให้ปฏิบัติมากขึ้น นอกจากนี้ควรให้ทุกคนเรียนฟรีตามความรู้ความสามารถ และเมื่อจบออกมาต้องมีงานทำอย่างทั่วถึง ส่วนเรื่องการกระจายรายได้ควรใช้วิธีด้านภาษี และสร้างฝีมือแรงงานเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ ต้องมีการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจ เพราะรัฐวิสาหกิจควรเป็นกลไกในการกระจายรายได้ที่เป็นธรรมและช่วยแก้ปัญหาความยากจน ขจัดความเหลื่อมล้ำในสังคม ดังนั้นตนขอเสนอว่าควรจัดตั้งรัฐวิสาหกิจขึ้นเป็นกระทรวง โดยนำรัฐวิสาหกิจต่างๆมารวมกัน ให้รัฐวิสาหกิจที่มีรายได้ผูกขาด ชัดเจน เช่น กองสลาก พลังงาน จะได้นำกำไรไปเจือจุนกับรัฐวิสาหกิจที่จัดสวัสดิการให้กับประชาชน เช่น การขนส่ง การเภสัช เพื่อทำให้ต้นทุนต่ำลง และไม่เป็นการผลักภาระให้กับประชาชน นอกจากนี้ในบอร์ดรัฐวิสาหกิจ ควรมีองค์กรภาคประชาชนเพื่อตรวจสอบการดูแลการทำงาน

นายสมศักดิ์ ยังกล่าวถึงการจัดงานที่เป็นมหามงคลว่า สมควรถูกจัดขึ้นด้วยรัฐบาลที่ชอบธรรม มีความโปร่งใสสะอาด และมีภาพลักษณ์ในความซื่อสัตย์จงรักภักดีอย่างชัดเจน ไม่ใช่รัฐบาลหุ่นเชิดขายชาติ ทั้งนี้ พันธมิตรฯต้องมีการหารือในเรื่องนี้ต่อไป

**แฉ นปช.เตรียมป่วน 21-25 ต.ค.
เวลา 19.00 น.ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ แถลงอีกครั้งถึงการนัดรวมตัวกันหน้าห้างเซ็นทรัลเวิลด์ในวันนี้ว่า แกนนำพันธมิตรฯ อาจมีการทบทวนยุทธศาสตร์ดาวกระจายอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากเห็นว่ากลุ่ม นปช.มีการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ ได้มีการประกาศว่าจะเคลื่อนขบวนไปหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ทั้งที่พันธมิตรฯ ประกาศไว้แล้วว่าจะเคลื่อนไปก่อนหน้านี้ ซึ่งกังวลว่า การเคลื่อนไปดาวกระจายในครั้งนี้จะทำให้เกิดการเผชิญหน้าได้ คงต้องทบทวนอีกครั้งหนึ่ง

นายสุริยะใส กล่าวว่า ขณะนี้กลุ่ม นปช.วางแผนยุทธศาสตร์ที่จะเคลื่อนพลก่อกวนโดยในวันที่ 21 ต.ค.นี้ รวมถึงจะเดินทางไปที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเพื่อกดดันการพิจารณาคดีที่จะมีผลต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โดยวันที่ 22-23 ต.ค.จะไปชุมนุมหน้ารัฐสภา วันที่ 24 ต.ค.ไปหน้ากองบัญชาการกองทัพบก เพื่อกดดันกองทัพ ไม่ให้ดำเนินการใดๆ ส่วนวันที่ 25 ต.ค.จะชุมนุมที่ท้องสนามหลวง ตรงนี้พันธมิตรฯ ต้องระมัดระวังให้มาก ไม่ให้เกิดการเผชิญหน้า เพราะคนที่จะได้ประโยชน์จากการเกิดความรุนแรง คือ พ.ต.ท.ทักษิณ

ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ กล่าวว่า ขณะนี้คณะกรรมการสอบสวนเหตุการณ์สลายการชุมนุม 7 ต.ค. ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เบื้องต้นได้ข้อสรุปว่า ความรุนแรงที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากตำรวจจะโยงไปเกี่ยวพันกับฝ่ายการเมืองหรือไม่นั้นจะต้องมีการหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม ซึ่งพันธมิตรฯ ยินดีเข้าไปชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติม ส่วนคณะกรรมการสอบสวนชุดอื่นนั้น พันธมิตรฯไม่ขอตั้งความหวัง เนื่องจากเป็นคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมาโดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและอาจเป็นการเล่นแง่ทางกฎหมายเพื่อให้การสืบสวนเป็นโมฆะ

**จี้”สมชาย”ลาออก-กองทัพต้องกล้า
นอกจากนี้ ตนขอเสนอว่าระหว่างการสอบสวนข้อเท็จจริงผู้ที่ตกเป็นจำเลยควรยุติการปฏิบัติหน้าที่ ไม่ว่าจะเป็นนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น.เป็นต้น เพื่อให้คณะกรรมการทั้ง 4 ชุด ไม่ถูกแทรกแซงในกระบวนการการสอบสวน อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการเหล่านี้ที่นายกฯ ตั้งขึ้นอาจเป็นการซื้อเวลา และฟอกความผิดให้กับตนเอง

นายสุริยะใส กล่าวว่า สถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้ต้องยอมรับว่าสามารถเกิดสิ่งต่างๆ ขึ้นได้ตลอดเวลา เนื่องจากมีรัฐบาลที่เห็นแก่ตัว ทั้งนี้ถ้านายสมชาย ยังดื้อจะกระทบต่อบ้านเมือง ดังนั้น ควรลาออกและคืนอำนาจให้สังคม เพื่อแก้วิกฤต ซึ่งหากจะมีการยุบสภาคงไม่สามารถแก้ปัญหาได้อย่างถาวร และแม้จะเปลี่ยนขั้วให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลก็คงไม่สามารถแก้ไขวิกฤตบ้านเมืองที่เกิดขึ้นในขณะนี้ได้ แต่เห็นว่าควรจะเปิดทางให้หลายๆ ฝ่ายเข้าร่วมแก้ไข เช่น ข้อเสนอการเมืองประชาภิวัฒน์ หรือการตั้งรัฐบาลแห่งชาติ ทั้งนี้ไม่อยากเห็นการปฏิวัติรัฐประหาร เพราะนึกย้อนไปแล้วก็รู้สึกขนลุก หากเกิดการเปลี่ยนแปลง อยากเห็นประชาชนทุกภาคส่วน

นอกจากนี้กองทัพต้องกล้าคิดนอกกรอบ โดยอาจใช้โมเดลที่มีอยู่ในหลายประเทศ เรียกอำนาจกลับมาให้ประชาชน เพราะกรอบแนวคิดเดิมๆ คงใช้ไม่ได้ ส่วนข้อเสนอให้มีรัฐบาลแห่งชาติ ซึ่งอาจกลับไปสู่การบริหารประเทศในรูปแบบของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรี พันธมิตรฯ เห็นว่า อยากให้นำการบริหารประเทศของรัฐบาลขิงแก่มาเป็นบทเรียน เนื่องจากเป็นความทรงจำที่เลวร้าย ทั้งนี้ไม่อยากให้นำรูปแบบของรัฐบาลขิงแก่มาเป็นรูปแบบของรัฐบาลแห่งชาติ ซึ่งรัฐบาลประชาภิวัฒน์ต้องมีการวางแผนร่วมกันจากหลายฝ่ายให้ชัดเจนว่า จะเป็นไปในรูปแบบใด

**”สนธิ”เรียกรวมพล พธม.วันนี้
เวลาประมาณ 20.00 น.นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ขึ้นกล่าวบนเวทีภายในทำเนียบรัฐบาลว่า วันที่ 21 ต.ค.ซึ่งเป็นวันที่ศาลนัดพิพากษาคดี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในคดีที่ดินรัชดาฯนั้นจะเป็นวันที่สำคัญที่สุดวันหนึ่ง ซึ่งไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร พันธมิตรฯจะน้อมรับคำตัดสิน ดังนั้น จึงอยากขอเชิญชวนให้พันธมิตรฯ ทุกคนเดินทางมาร่วมชุมนุมให้มากในคืนวันที่ 20 ต.ค.เพื่ออยู่ค้างคืนและรอฟังคำพิพากษาร่วมกันในทำเนียบรัฐบาล

ทั้งนี้ หลังจากที่พันธมิตรฯได้ต่อสู้กับระบอบทักษิณตั้งแต่ปี 2549 ต่อเนื่องมาจนถึงปี 2551 เพื่อเรียกร้องให้นำ พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม คดีที่ดินรัชดาฯ ถือเป็นคดีแรกที่จะพิสูจน์ให้เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้กระทำความผิดหรือไม่ และก็จะเป็นคดีแรกที่จะมีการพิพากษาในระหว่างที่น้องเขยของ พ.ต.ท.เป็นนายกรัฐมนตรี ดังนั้น ในวันที่ 21 ต.ค.จึงเป็นวันที่สำคัญและมีความหมายมาก

“ผมอยากให้ทุกคนดูคำบรรยายคำพิพากษาที่จะออกมาให้ดีว่า จะเป็นเช่นไร จะเหมือนกับเมื่อครั้งที่ศาลพิพากษาให้ยุบพรรคไทยรักไทยหรือไม่ เพราะในครั้งนั้นคำพิพากษาที่ออกมาเป็นไปในแนวทางการต่อสู้ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยทั้งสิ้น” นายสนธิ กล่าว

นายสนธิ กล่าวต่อว่า ถ้าหากคำพิพากษาออกมาว่า พ.ต.ท.ทักษิณ กระทำผิด สิ่งที่จะเกิดขึ้นก็คือ บรรดาลูกไล่ สุนัขรับใช้ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นในชื่อของ นปก. นปช. เสธ.แดง หรือสล้าง จะหาเรื่องออกมาก่อกวนให้ประเทศไทยเกิดความวุ่นวายแน่นอน แต่ตนอยากฝากเตือนเอาไว้ว่า ใครก็ตามที่คิดจะบุกป้อมปราการของพันธมิตรฯ ขอให้นึกถึง พ.ต.ท.เมธี ชาติมนตรี และ น.ส.อังคณา ระดับปัญญาวุฒิ ให้ดี เพราะพันธมิตรฯ ยังคงรำลึกถึงความเจ็บปวดและพร้อมที่จะล้างแค้นแทนพวกเขา

นอกจากนี้ ตนขอฝากผ่านไปยังนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และคณะรัฐมนตรีทั้งหลายว่า คณะรัฐบาลที่มือเปื้อนเลือด สั่งฆ่าประชาชนไม่สมควรที่จะทำหน้าที่ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์

“ผมขอกราบขอร้องพันธมิตรฯ ทุกคนว่า ในวันที่จะมีพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระศพฯ พระพี่นาง ซึ่งจะเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอีกวันหนึ่งในประวัติศาสตร์ ผมขอขอร้องให้พวกเราทุกคนต้องออกมาร่วมงานให้มืดฟ้ามัวดิน ออกมาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อเฝ้ารับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ที่จะเสด็จพระราชดำเนินมาร่วมพระราชพิธี รวมทั้งทำหน้าที่ทหารเสือพระราชา ทหารเสือพระราชินี อยากให้ใครเข้ามาสร้างความวุ่นวายให้เกิดขึ้น”นายสนธิ กล่าว

**ผู้ชุมนุมหัวใจวายกลางหมู่ พธม.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.15 น.วานนี้ มีชายวัยกลางคนได้เดินเข้ามาขอให้ทางแพทย์พันธมิตรฯ ตรวจร่างกาย ซึ่งระหว่างที่รอนั้น ชายคนดังกล่าวที่นั่งรออยู่ได้ล้มลงทำให้แพทย์ต่างระดมปั๊มหัวใจ ก่อนนำชายคนดังกล่าวส่งโรงพยาบาลวชิรพยาบาล

จนเวลา 15.30 น. นายวีระ สมความคิด ได้ประกาศบนเวทีว่า ชายคนดังกล่าวได้เสียชีวิตแล้วที่โรงพยาบาล จากนั้นนายวีระ ขอให้ผู้ร่วมชุมนุมยืนไว้อาลัย

ทั้งนี้ ทราบภายชื่อหลังว่าผู้เสียชีวิต คือนายสมเลิศ เกษมสุขประการ อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 151 ซอยจันทร์ 32 แขวงทุ่งวัดดอน เขตสาทร กรุงเทพฯ เบื้องต้นทางแพทย์คาดว่า น่าจะเป็นโรคหัวใจ

**พธม.เหนืองดเคลื่อนไหวในพื้นที่
นายสมโชค จันทร์ทอง
ผู้ประสานงานองค์กรสัมพันธ์การไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) เหมืองแม่เมาะ จ.ลำปาง ในฐานะเลขาธิการแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ภาคเหนือ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 18 ต.ค.เครือข่ายกลุ่มพันธมิตรใน 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ได้มีการประชุมร่วมกันระหว่างแกนนำของแต่ละจังหวัด ทั้งนี้ เพื่อเป็นการป้องกันเหตุสงครามระหว่างประชาชนทั้ง 2 กลุ่ม คือกลุ่มพี่น้องพันธมิตรฯของพวกเรา และกลุ่ม นปช.หรือกลุ่มต่างๆ ที่ออกมาเคลื่อนไหวขับไล่กลุ่มพันธมิตร และให้การสนับสนุนรัฐบาลทรราช ที่อาจจะเกิดเหตุรุนแรงขึ้นได้ทุกเมื่อ

นายสมโชค กล่าวอีกว่า ในส่วนสาระสำคัญที่ได้มีการหารือกันในที่ประชุมได้มีข้อสรุปดังนี้คือ พันธมิตรในแต่ละจังหวัด ในส่วนภูมิภาค จะไม่มีการออกมาเคลื่อนไหวในพื้นที่โดยเด็ดขาด เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงการปะทะในทุกกรณี ซึ่งสำหรับประชาชนผู้ที่ต้องการเข้าร่วมการชุมนุมให้เดินทางไปสมทบที่ทำเนียบรัฐบาลเพียงที่เดียวเท่านั้น โดยทางเราจะมีการอำนวยความสะดวกให้ในเรื่องการเดินทาง

ในส่วนของเครือข่ายพันธมิตรทั้ง 8 จังหวัด ให้แกนนำแต่ละคนจัดทำทะเบียนของสมาชิกให้เป็นระเบียบ เพื่อประโยชน์ในการดำเนินการเรื่องต่างๆ และให้มีการดำเนินการจัดตั้งวอร์รูมของเครือข่ายพันธมิตรฯ ภาคเหนือ เพื่อใช้เป็นสถานที่ศูนย์กลางในการประสานงานอย่างเป็นทางการขึ้นที่ จ.ลำปาง

“ตอนนี้ล่าสุดพี่น้องจากภาคเหนือของเราทั้ง 17 จังหวัดที่ได้มารวมตัวกันอยู่ที่ทำเนียบฯ มีจำนวนมากกว่า 20,000 คนแล้ว แต่ละคนก็ไม่คิดที่จะเดินทางกลับและยังมีการทยอยเดินทางมาสมทบอีกเกือบ 1,000 คน เพราะพวกเราทุกคนมีจุดยืนเดียวกัน และคาดว่าทุกอย่างน่าจะจบลงภายในวันที่ 20 ต.ค.นี้ ซึ่งเป็นวันก่อนการตัดสินคดีความผิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในวันที่ 21 ต.ค.และพวกเราต่างก็มีความเชื่อมั่นในความยุติธรรมของระบบศาลของประเทศ”นายสมโชค กล่าว

**พธม.เหนือตอนล่างขนคนชน นปช.
นายสมเกียรติ โสภณพงษ์พิพัฒน์ แกนนำพันธมิตรฯพิจิตร
กล่าวว่า พันธมิตรฯภาคเหนือตอนล่าง มีมติร่วมกันระดมสมาชิก เข้าร่วมชุมนุมกับพันธมิตรส่วนกลาง คาดว่าน่าจะมีพันธมิตรฯหลายหมื่นคน เดินทางเข้าไปชุมนุมสมทบที่ทำเนียบฯในวันนี้ (20 ต.ค.) เพื่อกดดันรัฐบาลให้ออกมารับผิดชอบในการสลายชุมนุม เมื่อวันที่ 7 ต.ค.

ทั้งนี้ การที่พันธมิตรฯลงไปสมทบกับพันธมิตรส่วนกลางที่ทำเนียบครั้งนี้ เตรียมรับมือกับแนวร่วมของกลุ่ม นปช.ที่ได้ระดมคนเข้ามาร่วมชุมนุมที่สนามหลวงในวันที่ 21 ต.ค.เพื่อกดดันการตัดสินคดี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เรื่องที่ดินรัชดา ในส่วนพันธมิตรฯพิจิตร ขณะนี้ได้ทยอยเดินทางไปแล้ว ตั้งแต่เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม จนถึงเช้าวันนี้เป็นจำนวนมาก มีทั้งไปทางรถบัส รถไฟ และรถส่วนตัว

"พวกเราไม่กลัวตาย หากการเรียกร้อง เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองไปทางที่ดี อีกทั้งขอเรียกร้องให้ทหาร ออกมาดูแลประชาชน" นายสมเกียรติ กล่าว

**สาวใหญ่แฉตร.ขู่ฆ่าหลังร่วมพธม.
วันเดียวกันนางอาภรณ์ เมืองพรหม
อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 149 ม.4 ต.มะเร็ต อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎธานี ได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองลำปาง หลังหลบหนีการขู่ฆ่าของ พ.ต.ต.ชาญ อู่ทอง (สบ 2) สภ.ละอุ่น จ.ระนอง โดยเมื่อกลางดึกวันที่ 18 ต.ค.ที่ผ่านมาตนได้รับแจ้งจากทางบ้านว่า นายตำรวจคนดังกล่าวได้บุกเข้าไปทำลายทรัพย์สินภายในบ้านเสียหายจำนวนมาก จึงได้แจ้งให้แม่บ้านไปแจ้งความไว้แล้ว ส่วนตนซึ่งหลบหนีมาพักกับเพื่อนซึ่งเป็นคนบ้านเดียวกันที่ จ.ลำปาง เพราะเกรงว่าจะไม่ปลอดภัยเพราะถูกนายตำรวจส่งข้อความขู่ฆ่าต่างๆ นานา

กระทั่งเมื่อประมาณ 00.04 น.ของวานนี้ ตนได้รับแจ้งเหตุจากทางบ้านจึงตัดสินใจเข้าแจ้งความและจะเดินทางกลับบ้านเพื่อต่อสู้ในเรื่องดังกล่าว เพราะหากปล่อยไว้เช่นนี้ก็จะทำให้นายตำรวจคนดังกล่าวใช้อำนาจข่มขู่ต่อไปเรื่อยๆ

นางอาภรณ์ เล่าว่า ก่อนหน้านี้ตนกับนายตำรวจคนนี้ได้คบหากัน แต่เนื่องจากทราบว่านายตำรวจที่ตนคบด้วยมีครอบครัวมีลูกแล้ว จึงต้องการที่จะเลิกและได้พูดคุยเจรจากันด้วยดี และต่างฝ่ายก็ตกลงจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน แต่หลังจากที่นายตำรวจทราบว่าตนเข้าร่วมกับพันธมิตรฯที่กรุงเทพฯก็มีการส่งข้อความและโทรศัพท์มาข่มขู่อาฆาตตลอด ทำให้ตนเองกลัว จึงไม่กล้าที่จะกลับบ้าน ไม่ได้ไปดูแลธุรกิจของตนเองเลย จนต้องหนีมาอาศัยอยู่กับเพื่อนคือนายสมโชค จันทร์ทอง ซึ่งเป็นเลขานุการพันธมิตรภาคเหนือที่ลำปาง ซึ่งก็ถูกขู่ฆ่าด้วยเช่นกันจนกระทั่งเกิดเหตุเมื่อคืนนี้ ตนจึงต้องแจ้งความและจะเดินทางกลับบ้านเพื่อต่อสู้ให้ถึงที่สุด

ทั้งนี้ ตนอยากฝากถึงผู้ใหญ่ให้ช่วยระงับเหตุด้วย เพราะไม่อยากให้ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นนำไปโยงใยเรื่องการเมือง เพราะแต่ละคนก็ต่างความคิด เมื่อไม่เห็นด้วยหรือมีอุดมการณ์ณ์ไม่ตรงกันก็อยู่กันคนละฝ่ายต่างคนต่างทำกันไป อย่านำเรื่องส่วนตัวมาโยงกับเรื่องการเมือง และต้องการให้เรื่องยุติลงโดยเร็ว ไม่อยากให้เกิดอะไรร้ายแรงไปกว่านี้ จึงได้ร้องขอให้สื่อช่วยในเรื่องนี้ เพื่อจะได้ให้ผู้หลักผู้ใหญ่เข้ามาดูและด้วย

ด้านนายสมโชค จันทร์ทอง เลขานุการพันธมิตรฯภาคเหนือ กล่าวว่า ตนอยากให้ผู้ใหญ่เข้ามาดูแลในเรื่องนี้เนื่องจากไม่อยากให้เกิดเหตุที่ร้ายแรงขึ้นโดยนำเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 ต.ค.มาเป็นประเด็นในการต่อสู้กันระหว่างพันธมิตรฯกับตำรวจ

**พธม.สงขลาแจกซีดีตร.ฆ่า ปชช.
เวลา 16.00 น.วานนี้ คณะทำงานพันธมิตรสงขลาเพื่อประชาธิปไตย ได้ออกดาวกระจายแจกแผ่นซีดี และหนังสือ “ตำรวจฆ่าประชาชน” กว่า 4,000 ชุด ทั่วเมืองหาดใหญ่ ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นอย่างมาก ทำให้แผ่นซีดีและหนังสือดังกล่าวไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชนที่ต้องการดูเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ตำรวจสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯที่หน้าอาคารรัฐสภา จนทำให้มีผู้เสียชีวิตและต้องสูญเสียอวัยวะหลายคน เมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา

**พธม.ชลบุรีระดมแจกซีดีทั่วเมือง
วันเดียวกัน เวลา 17.00 น.ที่บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าโรบินสัน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี กลุ่มแกนนำพันธมิตรฯ ได้นำหนังสือและแผ่นซีดี “ตำรวจฆ่าประชาชน” มายืนแจกจ่ายให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจับจ่ายซื้อสินค้าที่บริเวณห้างโรบินสัน โดยแผ่นซีดีและหนังสือได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นจำนวนมาก

การแจกจ่าย เกิดความวุ่นวายเล็กน้อย เนื่องจากเป็นที่ต้องการของประชาชน จึงมีการยื้อแย้งจนทำให้แกนนำพันธมิตรฯที่นำแผ่นซีดีและหนังสือมาแจก ต้องหยุดแจกชั่วคราวและให้ประชาชนเข้าแถวรับแผ่นซีดี-หนังสือ อย่างเป็นระเบียบเพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวาย ที่สำคัญหนังสือและแผ่นซีดี มีไม่เพียงพอกับความต้องการ โดยขอร้องให้ประชาชนนำไปเพียงคนละชุดเท่านั้นและนำไปก็อปปี้แจกจ่ายกันต่อๆกันไป เพื่อต้องการให้ครอบคลุ่มทุกๆครัวเรือน ที่ยังไม่ทราบเหตุการณ์และรายละเอียดของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต จากเหตุการณ์สลายการชุมนุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา

นายวรดร วงศ์กฤษฎาพร แกนนำพันธมิตรฯอ่าวอุดม อ.ศรีราชา กล่าวถึงการนำแผ่นซีดีและหนังสือดังกล่าวมาแจกจ่ายในวันนี้ เนื่องจากหลายๆพื้นที่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะพื้นที่ต่างจังหวัด ซึ่งได้กำหนดให้วันเวลาดังกล่าว มีการแจกจ่ายหนังสือและแผ่นซีดี ดังนั้น ตนได้ประสานกับกลุ่มแกนนำในพื้นที่ต่างๆให้มารวมตัวกันและร่วมกันแจกจ่ายให้ทั่วถึงทุกคน โดยเฉพาะประชาชนที่มาซื้อสินค้าตามห้างสรรพสินค้า ประชาชนที่ขับรถผ่านไปมา เพื่อให้ได้รับทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

การแจกในครั้งนี้ได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นจำนวนมาก จึงมีการแย่งกัน ซึ่งสร้างความวุ่นวายเล็กน้อย แต่หลังจากจัดระเบียบในการรับผ่านซีดีและหนังสือ ปัญหาต่างๆก็หมดไป แต่อย่างไรก็ตามแผ่นซีดีและหนังสือยังไม่เพียงพอกับความต้องการ เพราะมีประชาชนและผู้ที่ขับรถผ่านไปมาต้องการ แต่ของแจกมีไม่เพียงพอ จึงฝากให้ประชาชนที่รับแผ่นซีดีไปแล้ว ให้ช่วยไปก็อปปี้ เพื่อแจกจ่ายให้มากขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น