xs
xsm
sm
md
lg

ความเห็นต่างของโจร

เผยแพร่:   โดย: คนผ่านทาง

ปรากฏการณ์อย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นในความขัดแย้งของสังคมขณะนี้ คือ มีหลายฝ่ายออกมาเรียกร้องความสามัคคี แม้พระบางรูปก็เคยออกมาบอกว่า สามัคคีเพื่อพ่อ และล่าสุดท่าน ผบ.ทบ.ออกมาให้ความเห็นถึงเหตุการณ์อัปยศ 7 ตุลา ตำรวจฆ่าประชาชนว่า “ถ้าเรายังเป็นฝักฝ่ายก็จะเกิดวิกฤต ไม่มีทางจะจบได้ ประเทศจะล่มจม ทางออกของประเทศชาติ คนไทยต้องอยู่ร่วมกัน ความคิดเห็นแตกต่างได้ แต่ต้องมีจุดที่ต้องอยู่ร่วมกันได้ คนไทยต้องผ่านวิกฤตนี้โดยไม่แบ่งฝัก-แบ่งฝ่าย...ส่วนกองทัพนั้น ถ้าเลือกฝ่าย ประเทศชาติจะวิบัติ”

นี่ก็คงเหมือนความเห็นของผู้ที่เป็นใหญ่เป็นโตในบ้านเมืองนี้ ที่พูดกันติดปากจนฟังดูโก้เก๋เหมือนกันไปหมดว่า นี่เป็นเรื่องของความเห็นต่าง เราต้องเคารพความเห็นต่างของกันและกัน ซึ่งจะได้ยินเสมอจากพวกหลงประชาธิปไตย หรือไม่ก็พวกเป็นกลาง หลังจากนั้นก็อธิบายต่อว่า นี่เป็นหัวใจสำคัญของความเป็นประชาธิปไตย เราต้องเคารพความเห็นที่ไม่เหมือนเรา คนไทยต้องรักกัน สามัคคีกัน

ฟังแล้วก็ให้ประหลาดใจ เพราะส่วนใหญ่ก็เป็นผู้ใหญ่ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวกันมาทั้งนั้น แต่พูดเหมือนไม่รู้จักความหมายของความเห็นต่าง ถ้าเป็นความเห็นต่างจริงย่อมเป็นสิ่งที่ต้องเคารพเพราะคนเรามีความคิดไม่เหมือนกันได้ และก็อยู่ร่วมกันได้อย่างปกติ แต่อย่างไรเราถึงเรียกว่า “ความเห็นต่าง” อย่างเช่น คุณชอบผู้หญิงขาวอวบ ผมชอบผู้หญิงอ้วนเตี้ย นี่ถึงเรียกว่า เป็นความเห็นต่างเพราะเป็นเรื่องของรสนิยม ความชอบส่วนตัว ไม่ได้ทำให้สังคมเดือดร้อน เหมือนเธอชอบสีขาว ฉันชอบสีดำ แต่ถ้าคนหนึ่งเห็นว่า “โกงไม่เป็นไร ขอให้ทำประโยชน์บ้าง หรือใครๆ ก็โกงกันทั้งนั้น ฉันโกงบ้าง” กับคนหนึ่งเห็นว่า “โกงไม่ได้ทั้งนั้น”

นี่ไม่ใช่เรื่องของความเห็นต่าง แต่เป็นเรื่องของ มิจฉาทิฐิ-สัมมาทิฐิ ความเห็นอย่างนี้เป็นเรื่องของความเห็นผิด-ความเห็นถูก ความชั่ว-ความดี ไม่ใช่ความเห็นต่าง และเรื่องของความเห็นผิดนี้เป็นสิ่งที่ต้องรีบกำจัดออกไปจากตัว เพราะคิดชั่วก็ต้องเป็นเหตุให้ทำชั่ว ดังตัวอย่างที่เห็นกันเต็มบ้านเต็มเมือง

ความขัดแย้งในประเทศที่แบ่งเป็นสองฝ่ายขณะนี้ คือ พวกรักทักษิณกับพวกเกลียดทักษิณนั้น ไม่ใช่เรื่องของความเห็นต่าง แต่ทักษิณคือ สัญลักษณ์ของความชั่วร้าย การโกงกิน การหลงอำนาจ ซึ่งคดีความต่างๆ รวมทั้งพฤติกรรมที่บ่อนทำลายชาติจนถึงทุกวันนี้ ย่อมบ่งบอกชัดเจนอยู่ในตัว และรัฐบาลที่สืบสายพันธุ์จากทรราชทักษิณก็ย่อมไม่มีคนรักดีที่ไหนยอมรับได้ การโกงกินนี่ไม่ว่าใครก็รู้ว่า เป็นความชั่วเป็นสิ่งที่ผิดศีลธรรม กฎหมายเองก็บัญญัติว่า เป็นความผิด ไม่มีสังคมอารยะหรือประเทศที่มีวิญญาณของความเป็นประชาธิปไตยที่แท้จริงที่ไหนยอมรับหรืออยู่ร่วมได้ มีแต่ต้องรีบกำจัด จับไม่ได้ไล่ไม่ทันก็แล้วไป ถ้าจับได้ก็ลงโทษกันทั้งนั้น

นักการเมืองชั่วในประเทศที่พัฒนาจึงมีน้อย แต่ประเทศไทยเราอ้างว่า เป็นประชาธิปไตย และต้องมีประชาธิปไตย แต่กลับมีความคิดสวนทางกับประชาธิปไตยของประเทศอื่น ถึงขนาดว่ามีการทำโพลผลออกมาว่า คนทุกวันนี้เห็นดีเห็นงามกันว่า โกงไม่เป็นไร ขอให้ทำประโยชน์กับประเทศบ้าง

นี่คือมาตรฐานความคิดของสังคมตกต่ำได้ขนาดนี้ คนแต่ก่อนเห็นเรื่องอย่างนี้ถือว่า เป็นคนกาลีบ้านกาลีเมือง แต่คนยุคอยากเป็นประชาธิปไตยกลับบอกเป็นคนเก่ง เป็นคนมีความสามารถ สงสัยจะเสพคุ้นกับความชั่วอยู่บ่อยๆ จนเห็นความชั่วเป็นเรื่องปกติและเป็นความดีไปแล้ว

เราเคยถามตัวเองไหมว่า ทำไมประชาธิปไตยบ้านเรา มันถึงมีแต่นักการเมืองเลวๆ แล้วคนดีหายไปไหนหมด ก็เพราะความคิดที่แยกแยะถูกผิดกันไม่ออก และก็อ้างแต่ความเห็นต่าง จนเห็นความชั่วเป็นเรื่องปกติ เป็นเรื่องดีงาม เห็นนักการเมืองซื้อเสียงเป็นคนใจดี มีเมตตาอุตส่าห์แบ่งปันผลประโยชน์ให้ตนเอง

เราจึงเห็นนายกฯ บางคนที่สร้างความเจริญให้เฉพาะจังหวัดตัวเองโดยไม่ละอายใจ และคนในจังหวัดนั้นก็ชื่นชมภูมิใจในผลประโยชน์ที่ได้ แต่ไม่ได้คิดกันสักนิดเลยว่า นั่นคือการฉ้อฉลเงินของคนทั้งประเทศ เป็นการเอาเปรียบพี่น้องร่วมชาติ ก็เลยต้องตอบบุญแทนคุณกันไปจนกว่าชีวิตจะหาใหม่ บ้านเมืองเราจึงมีคนกินบ้านกินเมืองเต็มไปหมด คอร์รัปชันเงินของคนทั้งประเทศแล้วแบ่งเศษเงินสกปรกนั้นให้เป็นการสร้างบุญคุณ คนดีๆ ที่ไหนจะกล้าทำอย่างนี้ นักการเมืองที่ดีจึงหายหมด แล้วเราก็บอกกันว่า อยากได้คนดีๆ มาบริหารบ้านเมือง ก็ถ้าคนในประเทศนี้ยังคิดดี ทำดีกันไม่ได้ จะไปหวังความเจริญได้อย่างไร ก็เป็นประชาธิปไตยที่เป็นเพียงเรื่องของโจรเสียงข้างมากอย่างที่เห็นนี่แหละ

ประชาธิปไตยนั้นให้เคารพในความเห็นต่าง แต่ไม่ใช่ให้เคารพหรือยอมรับในความชั่ว ก็ถ้ายังแยกแยะไม่ได้ว่า อะไรคือ ความเห็นต่างหรืออะไรเป็นความดี-ความชั่ว ก็ไม่ต้องไปพูดถึงประชาธิปไตย เพราะนั่นพูดไปแบบจำเขามา บ้านเมืองนี้มันถึงวุ่นวาย คนชั่วขึ้นมาครองบ้านครองเมือง ก็เพราะคนในสังคมนี้ส่วนใหญ่แยกแยะผิด-ถูก ดี-ชั่วกันไม่ออก กลับออกมาเรียกร้องความสามัคคีกันอย่างโก้เก๋ว่า ความขัดแย้งมันเป็นเพียงความเห็นต่าง คงไม่มีคนที่มีสติปัญญาคนไหนยอมรับได้แน่ มงคล 38 ประการของชีวิตพระพุทธองค์ท่านยังสอนไม่ให้คบคนพาลเป็นข้อแรก ถือเป็นเหตุเริ่มต้นของผู้ต้องการมงคลของชีวิต แต่นี่มีคนกลับมาบอกให้สามัคคีกับคนชั่ว นักการเมืองโกงบ้านกินเมือง แล้วความเป็นมงคลจะเกิดขึ้นในบ้านเมืองนี้ได้อย่างไร

เราลองนึกย้อนไปในปี 2544 เมื่อเกือบ 7 ปีที่แล้ว ในขณะที่คนส่วนใหญ่แม้แต่ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองบางท่าน ก็หลงใหลภาพลักษณ์และคำพูดของมหาเศรษฐีใหม่บางคน ยกย่องให้เป็น “อัศวินควายดำ” แถมเชื่อกันว่า “รวยแล้วไม่โกง” แต่ในเวลาเดียวกันมีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่รู้ความจริงว่า นักการเมืองเศรษฐีใหม่คนนี้รวยขึ้นมาอย่างฉ้อฉล และรู้ว่า “รวยแต่โคตรโกง” คนกลุ่มนี้จึงพยายามขับไล่ไม่ให้นักการเมืองสกปรกคนนี้ขึ้นมามีอำนาจแม้แต่วันเดียว แต่ก็ทานอำนาจความหลงผิดของสังคมไทยในตอนนั้นไม่ได้ ซึ่งบุคคลกลุ่มนี้คือ

วีรชนกลุ่มแรก ที่ทำหน้าที่ขับไล่รัฐบาลโกงชาติคนใหม่ ที่คนไทยต้องจดจำ ซึ่งนำโดยท่านประเสริฐ นาสกุล ประธานตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และตุลาการท่านอื่นอีก 6 ท่าน คือ นายสุจิต บุญบงการ นายอมร รักษาสัตย์ นายอิสสระ นิติทัณฑ์ประภาศ นายมงคล สระฏัน นายสุวิทย์ ธีรพงษ์ และนายอุระ หวังอ้อมกลาง และต้องไม่ลืมนายโอภาส อรุณินทร์ เป็นประธาน ป.ป.ช. และนายกล้านรงค์ จันทิก เลขาธิการ ป.ป.ช. ที่ดำเนินคดีอย่างเข้มข้น

นี่ไม่เพราะความมืดบอดของการที่ไม่สามารถแยกแยะดี-ชั่วได้ ของคนในบ้านเมืองนี้หรอกหรือ ทั้งที่มีคนกลุ่มหนึ่งพยายามกระชากหน้ากากของคนบาปในคราบนักบุญ แต่คนส่วนใหญ่กลับไม่สนใจ กลับติดที่ภาพลักษณ์ภายนอก จนปล่อยให้มีอำนาจถึง 5 ปี กว่าจะรู้สึกตัวก็เสียหายไปอย่างที่เห็น แต่ขนาดนี้ก็ยังต้องใช้กำลังกันอย่างนุ่มนวลถึงจะหลุดจากอำนาจ แต่เมื่อทำงานใหญ่โดยปรึกษากันเพียง 2 คนของกลุ่ม คมช. คนมันชุ่ย ตีงูแล้วไม่ตีให้หลังหัก จนทุกวันนี้มันก็แว้งกัดเอาจนคนรักชาติในบ้านเมืองนี้เลือดสาดกันไปหมด ดังนั้น ความวุ่นวายปั่นป่วนที่เกิดขึ้นในตอนนี้จึงถือเป็นราคาค่าโง่ ก็หวังว่า คนไทยจะได้เรียนรู้จากบทเรียนในครั้งนี้ว่า ความสามัคคีหรือร่วมมือกับคนชั่วนั้น ไม่มีทางที่จะนำมาซึ่งความสุขสงบได้แน่นอน

การชุมนุมขับไล่รัฐบาลขายชาติ รัฐบาลโกงกิน จนมีวีรสตรีแบบ “น้องโบว์” มีวีรบุรุษแบบ “หมวดจ๊าบ” ที่ต้องสละชีวิตเป็นราชพลีและที่ยังบาดเจ็บอีกจำนวนมาก จึงเป็นสิ่งที่ถูกต้อง เป็นสิ่งที่ต้องทำ เพราะนั่นย่อมหมายถึงว่า คนในบ้านเมืองนี้ ยังมีคนอีกจำนวนมาก ที่แยกแยะดี-ชั่ว ถูก-ผิดได้ ไม่ยอมให้คนชั่วขึ้นมามีอำนาจ บรรพบุรุษของเราได้รักษาคุณความดี ได้รักษาความถูกต้องดีงามมาจนถึงคนรุ่นเรา เราจึงมีหน้าที่จะต้องรักษามาตรฐานของคุณงามความดีของบ้านเมืองนี้ให้ลูกหลานต่อไป และต้องไม่ยอมสามัคคีกับคนชั่ว เพราะนี่ไม่ใช่เรื่องของ...ความเห็นต่างอย่างแน่นอน และถ้านับตั้งแต่นี้ไปใครมาบอกให้คนไทยสามัคคีกับโจร ก็ขอให้เข้าใจว่า นั่นก็อาจเป็นพวกโจรเหมือนกัน

ส่วนผู้มีอำนาจทั้งหลายที่ยังมีคุณธรรมอยู่ในจิตใจ ถ้าอยากจะช่วยกู้บ้านกู้เมืองกันจริงๆ ก็ต้องปรับความคิดใหม่และเข้าใจให้ถูกต้องว่า นี่เป็นเรื่องของความดี-ความชั่ว ไม่ใช่ความเห็นต่าง จะได้แก้ปัญหาอย่างถูกต้อง พยายามแยกคนชั่วออกจากคนดีให้ได้ แล้วจัดการกับคนชั่วเสียให้เด็ดขาด ไม่เช่นนั้นก็จะทำให้คนที่พร้อมจะชั่วได้ใจ เข้ามาร่วมเสริมกำลังจนยากจะแก้ไขอย่างที่เป็นอยู่ และอยากจะฝากความเห็นสุดท้ายถึงท่าน ผบ. ทบ. ที่ว่า “กองทัพนั้น ถ้าเลือกฝ่าย ประเทศชาติจะวิบัติ” นั้น

ถ้ากองทัพเลือกฝ่ายที่ถูกต้องแล้ว ประเทศชาติจะวิบัติหรือ การไม่เลือกฝ่ายนี่แหละที่อาจจะทำให้ชาติวิบัติ ปัญหาอยู่ที่กองทัพต้องตอบคำถามตัวเองว่า หน้าที่ความรับผิดชอบและศักดิ์ศรีของทหารในองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนั้นเป็นอย่างไร และพิจารณาเอาด้วยสติปัญญาว่า ความถูกต้องคืออะไร ฝ่ายที่ถูกต้องอยู่ตรงไหน และจงใช้อำนาจที่มีอยู่เพื่อความถูกต้อง ในฐานะทหารขอให้ดูตัวอย่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกาที่เดิมไม่เลือกฝ่ายจนประเทศตนเองเกือบวิบัติ แต่ในที่สุดเมื่อเลือกฝ่ายที่ถูกต้อง และก็ได้เป็นกำลังสำคัญให้โลกกลับสู่สันติภาพอีกครั้งหนึ่ง
กำลังโหลดความคิดเห็น