xs
xsm
sm
md
lg

ปชช.กลุ่มแรกเข้าชมพระเมรุฯ เผยตื้นตัน “อารักษ์” ระบุจัดนิทรรศการ 2 สัปดาห์หลังถวายพระเพลิง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ประชาชนผู้สนใจชมพระเมรุฯ กลุ่มแรก เผย ตื้นตันที่ได้เข้ามา ชมเปาะเจ้าหน้าที่อธิบายความรู้ละเอียด บริการดีเยี่ยม ด้านอดีต อธ.กรมศิลป์ เผย มีการจัดนิทรรศการพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจ ณ พระเมรุ 2 สัปดาห์ให้ประชาชนได้เข้าชม


วันนี้ (14 ก.ย.) เมื่อเวลาประมาณ 13.30 น.กระทรวงวัฒนธรรม ก็ได้นำประชาชนที่สนใจจะเข้าชมพระเมรุ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์เป็นกลุ่มแรก ภายหลังที่เมื่อช่วงเช้าและช่วงสายที่ผ่านมา ได้มีการนำสื่อมวลชน ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงวัฒนธรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และรวมถึงข้าราชบริพารในสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ได้เข้าชมไปก่อนหน้านี้แล้ว

เมื่อถึงเวลา ปรากฏว่า นอกจากประชาชนผู้สนใจเข้าชมที่ได้ส่งชื่อไปก่อนหน้านี้จำนวน 50 คนแล้ว ยังมีประชาชนที่มาเที่ยวชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติที่ทราบข่าว ได้ขอติดตามไปร่วมชมด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ผู้นำชมก็ให้บริการด้วยดี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนจะนำชม ทางกระทรวงวัฒนธรรมได้จัดให้ประชาชนกลุ่มแรกที่จะเข้าชมพระเมรุฯ เข้ารับฟังการบรรยายเรื่องประวัติศาสตร์ของงานพระบรมศพ งานพระศพ และพระเมรุในสมัยอยุธยา และรัตนโกสินทร์ รวมถึงแจกหนังสือเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ เนื่องในวโรกาสเจริญพระชนมายุครบ 7 รอบ และแผ่นพับเอกสารรายละเอียดเกี่ยวกับพระเมรุและอาคารประกอบแก่ประชาชนทุกคนที่เข้าฟังบรรยายด้วย

และภายหลังจากการฉายวิดีทัศน์และการบรรยายให้ความรู้โดยละเอียด เจ้าหน้าที่ได้นำประชาชนผู้สนใจเข้าชมพระเมรุกว่า 60 คน ไปกราบนมัสการพระพุทธสิหิงค์ และนำชมโรงราชรถ ราชยาน และ พระยานมาศ ที่กำลังอยู่ในระหว่างการตกแต่งรายละเอียดให้วิจิตรงดงามสมบูรณ์แบบ จากนั้นจึงนำประชาชนขึ้นรถรางชมเมืองของ กทม.ไปยังบริเวณจุดก่อสร้างพระเมรุฯ ณ บริเวณท้องสนามหลวง

น.ส.วรนัทร เจริญพุ่ม วัย 35 ปี อาชีพประกอบธุรกิจส่วนตัว ระบุว่า ทราบข้อมูลการเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมพระเมรุฯ ทางโทรทัศน์ และได้โทรศัพท์ติดต่อเข้ามาขอลงชื่อ ภายหลังได้รับโทรศัพท์ติดต่อกลับก็รู้สึกดีใจมาก จึงเดินทางมากรุงเทพฯพร้อมครอบครัวจากจังหวัดชลบุรีรวม 5 คน เพื่อเข้ากราบถวายสักการะพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ และรอชมพระเมรุในช่วงบ่าย

“ชื่นชมเจ้าหน้าที่ที่บรรยายดีมาก ให้รายละเอียดที่เข้าใจง่าย และบริการเป็นอย่างดี อยากวอนผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องว่า อยากให้เก็บไว้ให้เด็กๆ และเยาวชนดูอีกนานๆ เพราะเป็นประโยชน์มาก โดยเฉพาะเด็กๆ ต่างจังหวัดที่เดินทางเข้ามากรุงเทพฯ ค่อนข้างลำบาก หากเป็นไปได้ ภายหลังงานพระราชทานเพลิงพระศพฯ ก็อยากให้เก็บไว้ต่อไปอีก”

ด้าน คุณป้าอัมพัน กัลยาณมิตร วัย 74 ปี พร้อมลูกสาว คือน.ส.จิราพร และ น.ส.เพ็ญศิริ ระบุว่า ตั้งใจมาชมพระเมรุฯ โดยเฉพาะ โดยเดินทางออกจากบ้านย่านดินแดง ตั้งแต่ช่วงสาย และมาถึงก่อนเวลา แม้อากาศจะร้อนก็เต็มใจรอให้ถึงเวลาการนำชม

“ดูพระเมรุแล้วก็คิดถึงท่าน ตอนท่านประชวรเราก็ไม่รู้ เพราะไม่ค่อยมีข่าว เห็นท่านอีกทีท่านก็พันพระเศียรแล้ว พอท่านประชวรเยอะเข้า รพ.เราก็ไปลงชื่อถวายพระพรอยากให้ท่านหาย พอท่านจากไปแบบนี้ก็คิดถึง คิดถึงท่านมาก อยากมาอีก ถ้าเดือนตุลาคมสร้างเสร็จหมดป้าก็อยากมาดูอีก”

ส่วนครอบครัว “โพธิ์ศรี” นำโดยคุณพ่อ-คุณแม่ ผู้เล็งเห็นความสำคัญกับการศึกษาของลูกอย่าง โสภณ-พรชนก ได้นำ “น้องขมิ้น-น้องขะม่อน” ดญ.อรุณวรรณ วัย 12 ปี และ ด.ญ.ณัฐนิชา วัย 9 ขวบ เดินทางมาจากบ้านย่านบางพลี จ.สมุทรปราการ เพื่อมาชมพระเมรุฯ ด้วย

“เป็นสิ่งที่ดีมากที่เปิดให้ประชาชมได้ศึกษา ที่พาลูกๆ มาแม้จะไกลและร้อนแต่ถือว่าคุ้มค่ามาก เอกสารที่ได้รับแจกของลูกๆ เจ้าหน้าที่ก็ให้มาครบทั้ง 2 คน 2 ชุด ก็จะเก็บไว้ให้เขา เราเชื่อในการศึกษานอกสถานที่ เวลาเราไปไหนก็จะพาลูกไปด้วยทุกที่ แม้จะทำธุรกิจก็เลี้ยงลูกเอง งานพระศพฯนี้ เป็นงานสำคัญของประเทศ มีอะไรที่น่าศึกษามากมาย จึงนำลูกมาชม เมื่อเราได้รับโอกาสเช่นนี้ก็รู้สึกปลาบปลื้มมาก การบริการของเจ้าหน้าที่ก็ดีมาก และคิดว่าพ่อแม่ทุกๆ คนหากมีโอกาสก็อยากให้พาลูกมาชม เพราะดีมากและให้ความรู้มาก” โสภณ และ พรชนก กล่าว

ด้าน นายอารักษ์ สังหิตกุล ผู้ตรวจราชการกระทรวงวัฒนธรรม อดีตอธิบดีกรมศิลปากร ระบุว่า แม้ในขณะนี้ดินฟ้าอากาศค่อนข้างเป็นอุปสรรค โดยเฉพาะเรื่องฝนที่ทำให้บริเวณพื้นลานรอบพระเมรุฯ เฉอะแฉะนั้นเป็นเรื่องที่นอกเหนือการควบคุม แต่ก็ถือว่าแก้ไขได้ ขณะนี้ก็ได้นำหินคลุกมาลงแล้ว อาจจะทำให้ผู้ที่เข้าชมพระเมรุฯ เดินลำบากบ้าง แต่เท่าที่ได้รับรายงาน ปรากฏว่า มีผู้สนใจเข้าชมกว่า 1,000 คนแล้ว รู้สึกปลาบปลื้มในพระบารมีของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ และรู้สึกดีใจที่คนไทยให้ความสนใจในศิลปะของชาติมากเช่นนี้

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้ถามถึงพระเมรุฯ ภายหลังพระราชพิธีพระราชทางเพลิงพระศพ ซึ่งอดีตอธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า คาดว่า ภายหลังพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ จะมีการเก็บพระเมรุฯ เอาไว้เช่นนี้ และจัดแสดงนิทรรศการพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ อีกราว 2 สัปดาห์ เพื่อให้ประชาชนที่สนใจ มีโอกาสได้ชมด้วย

ด้าน “มือขวา” ของ น.อ.อาวุธ เงินชูกลิ่น อย่าง “ก่อเกียรติ ทองผุด” นายช่างศิลปากรสำนักสถาปัตยกรรม กรมศิลปากร ที่นอกจากจะต้องร่างแบบ ขยายแบบ และคุมการก่อสร้างพระเมรุฯ แล้ว ล่าสุดเขาได้รับมอบหมายให้เป็นมักคุเทศน์นำชมพระเมรุ โดยเจ้าตัวกล่าวว่า รู้สึกภาคภูมิใจ

“ไม่เหนื่อยหรอกครับ เพราะนี่คืองานที่ชอบ พอชอบ พอรัก มันก็ไม่เคยจะเหนื่อย ท่านผู้ใหญ่ก็ห่วงว่าเราจะล้า เพราะทำหลายอย่าง แต่จริงๆ แล้วไม่เลย คือมันเป็นความภาคภูมิใจลึกๆ ว่าครั้งหนึ่งในชีวิต เราได้ทำงานถวายท่าน” ก่อเกียรติ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น