ผู้จัดการรายวัน – บริษัททัวร์ถอดใจ เหตุปะทะระหว่างทหารไทย-กัมพูชา เผยหยุดขายแพกเกจเส้นทาง ปราสาทพระวิหารมากว่า 3 เดือนแล้ว ยอมรับเป็นเส้นทางที่มีศักยภาพเติบโต ปีละเกือบ 10% หากรัฐทั้งสองประเทศตกลงกันได้ จะเกิดประโยชน์ด้านท่องเที่ยวกับทั้งสองฝ่าย ด้านไทยแอร์เอเชีย ยันเปิดบินกรุงเทพฯ-พนมเปญ ตามปกติ แต่จับตาดูไม่ปล่อย
นายวุฒิชัย มากวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท หนุ่มสาวทัวร์ จำกัด กล่าวว่า ได้ทยอยเลิกจัดทัวร์ไปประเทศกัมพูชามาได้ประมาณ 2-3 เดือนแล้วตั้งแต่ไทยกับกัมพูชาเริ่มมีปัญหากันเรื่องพรมแดน โดยเฉพาะในเส้นทางปราสาทพระวิหารและเสียมเรียบ ที่ยกเลิกไปเลย 100% เพราะบริษัทก็มีความกังวลเรื่องความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ประกอบกับลูกค้าก็ไม่ได้แสดงความต้องการที่จะเดินทางไปด้วย
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า ช่วง 3-4 ปีก่อน หรือประมาณตั้งแต่ พ.ศ. 2548 การเดินทางท่องเที่ยวไปประเทศกัมพูชามีการเติบโตอย่างต่อเนื่องปีละเกือบ 10% ถือเป็นเส้นทางที่มีศักยภาพดีในธุรกิจนำเที่ยว เพราะเดินทางได้สะดวก ระยะทางไม่ไกลจากกรุงเทพฯมากนัก และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก ทั้งปราสาทพระวิหาร และ ปราสาทนครวัต นครธม โดยเดินทางผ่านไปทางจังหวัดอุบลราชธานี ด้วยเส้นทางรถยนต์
“ในอดีตเส้นทางนี้จะนิยมเที่ยวกันตอนปลายปีช่วงเดือนธันวาคม ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าว บริษัทก็สามารถขายทัวร์ในเส้นทางอื่นแทนได้ เช่น เส้นทางภาคเหนือ เพราะมีอากาศหนาว ธรรมชาติสวย”
นายวุฒิชัย กล่าวว่า หากรัฐบาลทั้งสองประเทศ สามารถเจรจายุติปัญหา ให้เหตุการณ์กลับสู่ปกติโดยเร็วได้ เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจท่องเที่ยวของทั้ง 2 ประเทศที่จะมีร่วมกันไปอีกยาวนาน เนื่องจาก พื้นที่ดังกล่าว เป็นที่รู้จักของชาวโลก ซึ่งส่วนใหญ่ก็ยังที่จะเดินทางเข้าไปชมความงามของสถานที่แห่งนี้
***วอนรัฐจี้สายการบินลดฟิวเซอร์ชาร์จ***
แหล่งข่าวจาก บริษัท ซันปาร์ค ฮอลิเดย์ จำกัด กล่าว เสริมในประเด็นดังกล่าวข้างต้นว่า ปัจจุบัน บริษัทนำเที่ยวต่างยกเลิกทำทัวร์ในเส้นทางดังกล่าวไปเกือบทั้งหมดมาได้ 2-3 เดือนแล้ว เพราะ เกรงเรื่องความไม่ปลอดภัย ซึ่งปัจจุบันนี้ ผลกระทบที่เป็นปัจจัยลบ ต่อธุรกิจนำเที่ยว มีมากมายหลายอย่าง ทั้ง ภัยธรรมชาติ เช่น ที่ประเทศพม่า ปัญหาเศรษฐกิจ และการเมือง ทำให้ผู้คนใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง เป็นผลให้ธุรกิจนี้เกิดการแข่งขันที่สูง ผู้ประกอบการไม่สามารถปรับขึ้นราคาได้ตามความเป็นจริง ต้องแบบรับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น เป็นผลให้กำไรลดลงกว่า 40-50%
สำหรับบริษัท ซันปาร์ค ฯปรับตัวด้วยการจัดแคมเปญ แพกเกจทัวร์ราคาประหยัด เพื่อให้มีงานและเงินหมุนเวียนภายในบริษัท สิ่งที่ต้องการให้ภาครัฐช่วยเหลือ คือ เจรจาขอให้สายการบิน ปรับลดค่าธรรมเนียมน้ำมัน เพราะขณะนี้ราคาน้ำมันลดลงกว่า เมื่องต้นปีเกือบ 50% ตรงนี้จะทำให้ บริษัทนำเที่ยวขายทัวร์ได้ถูกลง จะได้จูงใจให้คนเดินทางท่องเที่ยวได้เพิ่มขึ้น
ด้านนายทัศพล แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบิน ไทยแอร์เอเชีย เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะที่เกิดขึ้น โดยไทยแอร์เอเชียยังมีผู้โดยสารในเที่ยวบิน กรุงเทพฯ-พนมเปญ เป็นปกติ คือมีอัตราบรรทุกเฉลี่ยต่อเที่ยวที่ 70-80% โดยเป็นนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจอย่างละ 50% แต่ทั้งนี้ก็เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หาก รัฐบาลสั่งให้หยุดบินในเส้นทางดังกล่าว หรือเพิ่มเที่ยวบิน เพื่อไปรับคนไทยกลับประเทศ ไทยแอร์เอเชียก็ยินดีให้ความร่วมมือ ล่าสุดมีเพียงสถานฑูตไทยที่ กรุงพนมเปญ ประกาศเตือนนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจแล้วว่าหากไม่จำเป็นก็ไม่ต้องเดินทางไปยังพนมเปญ เนื่องจากเกรงเรื่องปัญหาด้านความปลอดภัย
นายวุฒิชัย มากวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท หนุ่มสาวทัวร์ จำกัด กล่าวว่า ได้ทยอยเลิกจัดทัวร์ไปประเทศกัมพูชามาได้ประมาณ 2-3 เดือนแล้วตั้งแต่ไทยกับกัมพูชาเริ่มมีปัญหากันเรื่องพรมแดน โดยเฉพาะในเส้นทางปราสาทพระวิหารและเสียมเรียบ ที่ยกเลิกไปเลย 100% เพราะบริษัทก็มีความกังวลเรื่องความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ประกอบกับลูกค้าก็ไม่ได้แสดงความต้องการที่จะเดินทางไปด้วย
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า ช่วง 3-4 ปีก่อน หรือประมาณตั้งแต่ พ.ศ. 2548 การเดินทางท่องเที่ยวไปประเทศกัมพูชามีการเติบโตอย่างต่อเนื่องปีละเกือบ 10% ถือเป็นเส้นทางที่มีศักยภาพดีในธุรกิจนำเที่ยว เพราะเดินทางได้สะดวก ระยะทางไม่ไกลจากกรุงเทพฯมากนัก และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก ทั้งปราสาทพระวิหาร และ ปราสาทนครวัต นครธม โดยเดินทางผ่านไปทางจังหวัดอุบลราชธานี ด้วยเส้นทางรถยนต์
“ในอดีตเส้นทางนี้จะนิยมเที่ยวกันตอนปลายปีช่วงเดือนธันวาคม ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าว บริษัทก็สามารถขายทัวร์ในเส้นทางอื่นแทนได้ เช่น เส้นทางภาคเหนือ เพราะมีอากาศหนาว ธรรมชาติสวย”
นายวุฒิชัย กล่าวว่า หากรัฐบาลทั้งสองประเทศ สามารถเจรจายุติปัญหา ให้เหตุการณ์กลับสู่ปกติโดยเร็วได้ เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจท่องเที่ยวของทั้ง 2 ประเทศที่จะมีร่วมกันไปอีกยาวนาน เนื่องจาก พื้นที่ดังกล่าว เป็นที่รู้จักของชาวโลก ซึ่งส่วนใหญ่ก็ยังที่จะเดินทางเข้าไปชมความงามของสถานที่แห่งนี้
***วอนรัฐจี้สายการบินลดฟิวเซอร์ชาร์จ***
แหล่งข่าวจาก บริษัท ซันปาร์ค ฮอลิเดย์ จำกัด กล่าว เสริมในประเด็นดังกล่าวข้างต้นว่า ปัจจุบัน บริษัทนำเที่ยวต่างยกเลิกทำทัวร์ในเส้นทางดังกล่าวไปเกือบทั้งหมดมาได้ 2-3 เดือนแล้ว เพราะ เกรงเรื่องความไม่ปลอดภัย ซึ่งปัจจุบันนี้ ผลกระทบที่เป็นปัจจัยลบ ต่อธุรกิจนำเที่ยว มีมากมายหลายอย่าง ทั้ง ภัยธรรมชาติ เช่น ที่ประเทศพม่า ปัญหาเศรษฐกิจ และการเมือง ทำให้ผู้คนใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง เป็นผลให้ธุรกิจนี้เกิดการแข่งขันที่สูง ผู้ประกอบการไม่สามารถปรับขึ้นราคาได้ตามความเป็นจริง ต้องแบบรับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น เป็นผลให้กำไรลดลงกว่า 40-50%
สำหรับบริษัท ซันปาร์ค ฯปรับตัวด้วยการจัดแคมเปญ แพกเกจทัวร์ราคาประหยัด เพื่อให้มีงานและเงินหมุนเวียนภายในบริษัท สิ่งที่ต้องการให้ภาครัฐช่วยเหลือ คือ เจรจาขอให้สายการบิน ปรับลดค่าธรรมเนียมน้ำมัน เพราะขณะนี้ราคาน้ำมันลดลงกว่า เมื่องต้นปีเกือบ 50% ตรงนี้จะทำให้ บริษัทนำเที่ยวขายทัวร์ได้ถูกลง จะได้จูงใจให้คนเดินทางท่องเที่ยวได้เพิ่มขึ้น
ด้านนายทัศพล แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบิน ไทยแอร์เอเชีย เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะที่เกิดขึ้น โดยไทยแอร์เอเชียยังมีผู้โดยสารในเที่ยวบิน กรุงเทพฯ-พนมเปญ เป็นปกติ คือมีอัตราบรรทุกเฉลี่ยต่อเที่ยวที่ 70-80% โดยเป็นนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจอย่างละ 50% แต่ทั้งนี้ก็เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หาก รัฐบาลสั่งให้หยุดบินในเส้นทางดังกล่าว หรือเพิ่มเที่ยวบิน เพื่อไปรับคนไทยกลับประเทศ ไทยแอร์เอเชียก็ยินดีให้ความร่วมมือ ล่าสุดมีเพียงสถานฑูตไทยที่ กรุงพนมเปญ ประกาศเตือนนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจแล้วว่าหากไม่จำเป็นก็ไม่ต้องเดินทางไปยังพนมเปญ เนื่องจากเกรงเรื่องปัญหาด้านความปลอดภัย
