ผู้จัดการรายวัน-”วรรณรัตน์”จี้ผู้ค้าน้ำมันลดราคาขายปลีกลงอีกกางค่าการตลาดสูง 3-5 บาทต่อลิตร แถมยันขึ้นราคาแอลพีจีขนส่งฯไม่ต้องรอถึงรัฐบาลหน้า ปตท.มึนค่าการตลาดเฉลี่ยทั้งปีไม่ถึงบาทต่อลิตรยอมรับสูงแค่ช่วงนี้แต่พยายามลดราคาให้แล้วมีผลวันนี้(14ต.ค.)เบนซิน 40 สต. เว้นแก๊สโซฮอล์ ดีเซล 80 สต.
นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยหลังมอบนโยบายผู้บริหารและข้าราชการกระทรวงพลังงานวานนี้(13ต.ค.) ว่า ขณะนี้ค่าการตลาดน้ำมันอยู่ในเกณฑ์สูง 3-5 บาทต่อลิตรโดยเฉพาะเบนซิน 95 ที่สูงถึง 5 บาทต่อลิตรจึงเห็นว่าผู้ค้าน้ำมันร่วมกันพิจารณาลดราคาขายปลีกให้เหมาะสมกับค่าการตลาดที่ควรได้รับ 1.20-1.50 บาทต่อลิตร แม้ว่า อัตราค่าการตลาดน้ำมันเฉลี่ยตั้งแต่ต้นปีจนถึงขณะนี้ จะอยู่ในเกณฑ์ 1 บาทต่อลิตรก็ตาม
ส่วนโครงสร้างราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ยืนยันว่า จะมีการปรับโครงสร้างออกเป็น 2 ราคาโดยเร็วที่สุดโดยคงไม่ต้องรอให้ถึงรัฐบาลหน้า ซึ่งราคาของภาคขนส่งและอุตสาหกรรมให้สะท้อนตลาดโลก แต่ราคาครัวเรือนยังตรึงราคาตามมาตรการลดค่าครองชีพของรัฐบาลจนถึง 31 มกราคม 2552
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท. กล่าวว่า ค่าการตลาดหากดูวันต่อวัน จะเห็นว่าอยู่ในระดับที่สูงมาก แต่หากเฉลี่ยทั้งปี ค่าการตลาดของ ปตท.ที่รวมค่าขนส่งไปยังปั๊มทั่วประเทศ ไม่ถึง 1 บาทต่อลิตร ซึ่งวันนี้(14ต.ค.)ผู้ค้าจะลดราคาเบนซิน 40 สตางค์ต่อลิตรเว้นแก๊สโซฮอล์เนื่องจากราคาเอทานอลสูงขึ้น ดีเซล 80 สตางค์ลิตร และจะมีการปรับอีกในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นการสะท้อนต้นทุนที่แท้จริงมากที่สุด โดยคาดว่าเมื่อมีการปรับลดลงอีก 2-3 รอบ ค่าการตลาดก็จะเข้าสู่ระดับปกติ 1.50 บาทต่อลิตร โดยตั้งแต่ 2- 3 ปีที่ผ่านมา ผู้ค้าน้ำมันรับภาระขาดทุนการค้าน้ำมันมาโดยตลอด โดยในปีนี้ ปตท.รับภาระไปแล้ว 5,000 ล้านบาท
นายเมตตา บันเทิงสุข อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน(ธพ.) กล่าวว่า ราคาน้ำมันที่ปรับลดลงมีผลให้การติดตั้งอุปกรณ์การใช้แอลพีจีชะลอตัวค่อนข้างมากจากเดิมที่ขยายตัวสูงจนอู่ติดตั้งรับไม่ได้ซึ่งคาดว่าหากราคาน้ำมันเฉลี่ยลดลงในระดับ 20 บาทต้นๆ ต่อลิตรจะมีผลให้การติดตั้งไม่มีเลยก็เป็นไปได้ อย่างไรก็ตามการนำเข้าแอลพีจียังอยู่ในระดับ 8 หมื่นตันต่อเดือน ซึ่งอนาคตรมว.พลังงานได้มอบให้ไปดูการสต็อกทางกฏหมายเพิ่มขึ้นเพื่อไม่ให้เกิดการขาดแคลน
“คลังเขาบ่อยารับได้สูงสุดเพียง 6 หมื่นตันหากมีการนำเข้าถึงแสนตันต่อเดือนได้มีแผนให้ปตท.เช่าเรือมาลอยลำเพื่อสำรองแอลพีจีในเรือที่มองไว้ประมาณ 4 หมื่นตันเพื่อความมั่นคงและระหว่างนั้นจะมีการขยายคลังซึ่งส่วนนี้ต้องใช้เวลาก่อสร้าง 2 ปี “นายเมตตากล่าว
นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยหลังมอบนโยบายผู้บริหารและข้าราชการกระทรวงพลังงานวานนี้(13ต.ค.) ว่า ขณะนี้ค่าการตลาดน้ำมันอยู่ในเกณฑ์สูง 3-5 บาทต่อลิตรโดยเฉพาะเบนซิน 95 ที่สูงถึง 5 บาทต่อลิตรจึงเห็นว่าผู้ค้าน้ำมันร่วมกันพิจารณาลดราคาขายปลีกให้เหมาะสมกับค่าการตลาดที่ควรได้รับ 1.20-1.50 บาทต่อลิตร แม้ว่า อัตราค่าการตลาดน้ำมันเฉลี่ยตั้งแต่ต้นปีจนถึงขณะนี้ จะอยู่ในเกณฑ์ 1 บาทต่อลิตรก็ตาม
ส่วนโครงสร้างราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ยืนยันว่า จะมีการปรับโครงสร้างออกเป็น 2 ราคาโดยเร็วที่สุดโดยคงไม่ต้องรอให้ถึงรัฐบาลหน้า ซึ่งราคาของภาคขนส่งและอุตสาหกรรมให้สะท้อนตลาดโลก แต่ราคาครัวเรือนยังตรึงราคาตามมาตรการลดค่าครองชีพของรัฐบาลจนถึง 31 มกราคม 2552
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท. กล่าวว่า ค่าการตลาดหากดูวันต่อวัน จะเห็นว่าอยู่ในระดับที่สูงมาก แต่หากเฉลี่ยทั้งปี ค่าการตลาดของ ปตท.ที่รวมค่าขนส่งไปยังปั๊มทั่วประเทศ ไม่ถึง 1 บาทต่อลิตร ซึ่งวันนี้(14ต.ค.)ผู้ค้าจะลดราคาเบนซิน 40 สตางค์ต่อลิตรเว้นแก๊สโซฮอล์เนื่องจากราคาเอทานอลสูงขึ้น ดีเซล 80 สตางค์ลิตร และจะมีการปรับอีกในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นการสะท้อนต้นทุนที่แท้จริงมากที่สุด โดยคาดว่าเมื่อมีการปรับลดลงอีก 2-3 รอบ ค่าการตลาดก็จะเข้าสู่ระดับปกติ 1.50 บาทต่อลิตร โดยตั้งแต่ 2- 3 ปีที่ผ่านมา ผู้ค้าน้ำมันรับภาระขาดทุนการค้าน้ำมันมาโดยตลอด โดยในปีนี้ ปตท.รับภาระไปแล้ว 5,000 ล้านบาท
นายเมตตา บันเทิงสุข อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน(ธพ.) กล่าวว่า ราคาน้ำมันที่ปรับลดลงมีผลให้การติดตั้งอุปกรณ์การใช้แอลพีจีชะลอตัวค่อนข้างมากจากเดิมที่ขยายตัวสูงจนอู่ติดตั้งรับไม่ได้ซึ่งคาดว่าหากราคาน้ำมันเฉลี่ยลดลงในระดับ 20 บาทต้นๆ ต่อลิตรจะมีผลให้การติดตั้งไม่มีเลยก็เป็นไปได้ อย่างไรก็ตามการนำเข้าแอลพีจียังอยู่ในระดับ 8 หมื่นตันต่อเดือน ซึ่งอนาคตรมว.พลังงานได้มอบให้ไปดูการสต็อกทางกฏหมายเพิ่มขึ้นเพื่อไม่ให้เกิดการขาดแคลน
“คลังเขาบ่อยารับได้สูงสุดเพียง 6 หมื่นตันหากมีการนำเข้าถึงแสนตันต่อเดือนได้มีแผนให้ปตท.เช่าเรือมาลอยลำเพื่อสำรองแอลพีจีในเรือที่มองไว้ประมาณ 4 หมื่นตันเพื่อความมั่นคงและระหว่างนั้นจะมีการขยายคลังซึ่งส่วนนี้ต้องใช้เวลาก่อสร้าง 2 ปี “นายเมตตากล่าว
