xs
xsm
sm
md
lg

หมอประเวศจี้ฆาตกรรับผิดชอบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน – “หมอประเวศ” แนะทางออกจากวิกฤตความขัดแย้งอย่างสันติ เรียกร้องฝ่ายการเมือง-ตำรวจ เอ่ยคำขอโทษพร้อมแสดงรับผิดชอบเพื่อลดดีกรีความร้อนแรง แต่หากสถานการณ์บานปลายถึงขั้นนองเลือดทหารต้องปฏิวัติยับยั้งเหตุรุนแรง สลายขั้ว และเข้าเฝ้าขอพึ่งพระบารมีขอพระราชทานนายกรัฐมนตรีคนกลาง

นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส เขียนบทความ “ทางออกจากวิกฤต” โดยชี้ว่าทางออกเฉพาะหน้าภายใต้สถานการณ์ของบ้านเมืองในขณะนี้ อาจสรุปเหลือสองเส้นทาง คือเส้นทางสันติวิธี กับเส้นทางนองเลือด

สำหรับเส้นทางสันติวิธี มี 6 ข้อ คือ

หนึ่ง ด่วนที่สุด หากเหตุการณ์รุนแรง เมื่อ 7 ตุลาคม เป็นเรื่องของคุณสั่งมา เพื่อล้มกระดานการตัดสินคดีของอดีตนายกรัฐมนตรีที่อยู่ลอนดอนในวันที่ 21ตุลาคม ก็จะมีการสร้างสถานการณ์รุนแรงอีกจากวันนี้ไปถึงวันที่ 21 ตุลาคม ต้องประชาสัมพันธ์ให้ทราบทั่วกัน และช่วยกันระวังระไว อย่างเต็มที่ป้องกันไม่ให้มีสถานการณ์รุนแรง กทม. และกรมป้องกันสาธารณภัยต้องระดมอาสาสมัครรักษาพระนครอย่างเต็มที่ จะวางใจตำรวจแต่เพียงฝ่ายเดียวเห็นจะยังไม่ได้

สอง หากฝ่ายการเมืองและตำรวจที่รับผิดชอบสามารถเอ่ยคำว่า “ผมเสียใจ ผมขอโทษ ผมขอแสดงความรับผิดชอบดังต่อไปนี้ .....” จะลดดีกรีความร้อนแรงของความแค้นลงอย่างทันทีทันใด

สาม ดำเนินกระบวนการยุติธรรมอย่างรวดเร็วทันใจจะช่วยถอดชนวนความรุนแรงลง เพราะความยุติธรรมเป็นเรื่องสำคัญที่สุดของมนุษย์ มนุษย์ยอมตายเพื่อความยุติธรรมได้ ความยุติธรรมที่ยุติธรรมจะช่วยให้มีทางออกด้วยสันติ ความยุติธรรรมที่ไม่ยุติธรรม หรือความยุติธรรมปลอมจะไม่ได้รับความเชื่อถือ ผบ.ตร.จะเป็นผู้แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงให้มีคนเชื่อถือได้อย่างไร ในเมื่อตำรวจเป็นคู่กรณี ความเกเรกับความยุติธรรม เป็นเหตุให้วิกฤตและออกจากวิกฤตไม่ได้ของสังคมเรื่อยมา

ในอนาคตต้องช่วยกันทำให้ระบบยุติธรรมแข็งแรง ซึ่งรวมถึงการปฎิรูปโครงสร้างของระบบตำรวจด้วย มิฉะนั้นตำรวจจะตกเป็นเหยื่อของการตกเป็นผู้ทำไม่ถูกต้องตลอดกาล สังคมไทยต้องรักตำรวจไทย เหมือนสังคมอังกฤษต้องรักตำรวจอังกฤษ

สี่ถ้ารัฐบาลและรัฐสภาหมดความสามารถในการแก้วิกฤต ควรขอเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและกราบบังคมทูลให้ทรงทราบ เพื่อเปิดช่องว่างให้ทรงเข้ามาช่วยแก้ปัญหาได้

ห้าถ้ายังทำอะไรๆ ก็ไม่ได้ ก็ทะเลาะกัน กดดันกันต่อไป แต่อย่าใช้ความรุนแรง รัฐควรเปิดโอกาสให้ใช้การสื่อสารของรัฐอย่างเท่าเทียมกันให้แต่ละฝ่ายพิสูจน์ตัวเองต่อสาธารณะว่าใช้ความจริง ใช้เหตุผล ใช้สัมมาวาจา เมื่อสาธารณะเข้ามากำกับ ความแตกต่างสร้างสรรค์มากขึ้นเรื่อยๆ ความแตกต่างอย่างสร้างสรรค์ต่างหากที่จะพาเราออกจากความติดขัดที่ยาก การปะทะของขั้วตรงข้าม ทำนองเดียวกับฟ้าผ่าจะมีการทำลายสูงและอาจก้าวไปข้างหน้าไม่ได้อีกนาน

หกการเจรจาหาข้อยุติร่วมกันเป็นเรื่องสำคัญ ความขัดแย้งทุกชนิดยุติด้วยการเจรจา ขัดแย้งรุนแรงเท่าใดๆ ก็สามารถยุติได้ด้วยการเจรจาหาข้อยุติร่วมกัน

นพ. ประเวศ ระบุว่า รัฐไม่พึงเข้ามาแก้ปัญหาด้วยการใช้ความรุนแรง เพราะจะเพิ่มจำนวนผู้ต่อต้านมากขึ้น ทำนอง “ตายสิบเกิดแสน” แต่ต้องเป็นผู้นำในการแก้ปัญหาดัวยสันติวิธี บุคคลและองค์กรต่างๆ ควรเข้ามาส่งเสริมการเจรจาหาข้อยุติร่วมกัน

ส่วนเส้นทางรุนแรงนองเลือด ถ้าหากสันติวิถีดังกล่าวข้างบนไม่มีใครปฏิบัติหรือไม่ได้ผล แล้วหลุดเข้าไปสู่การปะทะนองเลือด กองทัพไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องเข้ามาระงับยับยั้งความรุนแรง และยึดอำนาจรัฐอย่างสั้นที่สุดเพื่อสลายขั้ว

จากนั้น นำความขึ้นกราบบังคมทูลว่า บัดนี้ระบบการเมืองสุดความสามารถในการแก้วิกฤตแล้ว เกิดสูญญากาศทางอำนาจแล้ว ขอพึ่งพระบารมี ขอพระราชทานนายกรัฐมนตรีที่เป็นคนกลางมีศักยภาพสูงในการยุติวิกฤตการณ์ และประสานให้ทุกฝ่ายในสังคมมาร่วมสร้างระบบอารยะประชาธิปไตย ที่ทุกฝ่ายยอมรับและร่วมมือกันสร้างสรรค์สังคมไทยที่มีความเป็นธรรม เมื่อมีความเป็นธรรม ความขัดแย้งลดลง ความร่วมมือก็จะมากขึ้น ทำให้เห็นความแตกต่างอย่างสร้างสรรค์เป็นไปได้.
กำลังโหลดความคิดเห็น