เชียงราย – จับตายาเสพติด “สามเหลี่ยมทองคำ” ระอุ พบเครือข่ายค้ายานรกเคลื่อนไหวในพื้นที่ชายแดน 3 ประเทศ ขณะที่ผู้ค้า – ผู้รับจ้างลำเลียงเริ่มขยับ หวั่นสารพัดยาเสพติดทะลักเข้าเชียงรายมากขึ้น ผอ.สตส.เชียงราย ผนึกกำลังทุกหน่วยงานเร่งป้องกัน – สกัดกั้นเต็มที่ ชี้วันนี้มีโรงงานยาบ้ารอบชายแดนมากถึง 53 โรง
นายไตรสิทธิ์ สินสมบูรณ์ทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดจังหวัดเชียงราย(ศตส.จ.ชร.) พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.เชียงราย พ.อ.พีระเนตร เกตุเต็ม รอง ผบ.ฉก.ม.3 กองกำลังผาเมือง นายแพทย์สุรินทร์ สุมนาพันธ์ ผู้แทนสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย อาจารย์วรินทรีย์ เยาว์ธานี ผู้แทนศูนย์ทูบีนัมเบอร์วัน (TO Be Number One) ม.ราชภัฏเชียงราย ป.ป.ส. ร่วมแถลง ผลการปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด "รวมพลังประชาไทย พ้นภัยยาเสพติด ปี 2551"จังหวัดเชียงราย ของ ศตส.จ.เชียงราย ที่ โรงแรมริมกกรีสอร์ท จ.เชียงราย เมื่อเร็ว ๆ นี้
นายไตรสิทธิ์ ย้ำว่า อยากให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันในการสอดส่องดูแลช่วยกันแก้ไขปัญหายาเสพติด ทางกระทรวงมหาดไทย พร้อมสนับสนุนการทำงานเต็มที่ ซึ่งเชียงราย เป็นทั้งพื้นที่เสี่ยงและเป็นทางผ่านของยาเสพติด จากแนวชายแดน ปัจจุบันพบว่า มีช่องทางเข้าของยาเสพติดตามแนวชายแดน 45 ช่องทาง มีโรงงานยาเสพติดรอบๆชายแดนจังหวัดเชียงราย 53 โรง
ทั้งยังมีปัญหาการแพร่ระบาดของ ยาบ้า เฮโรอีน ไอซ์ ยาอี กัญชา และเนื่องจากระยะนี้ยาเสพติดมีราคาสูงมาก เช่น ยาบ้าหากจำหน่ายในปลายทาง ทำให้เป็นที่ล่อใจของผู้ที่ต้องการเงิน จึงต้องผนึกกำลังกันในการแก้ไข
ด้าน พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.เชียงราย กล่าวว่า มีโครงการการติดตั้งกล้องวงจรปิด หรือ CCTV หน้าบ้านเรือนประชาชน พร้อมขยายไปในพื้นที่เสี่ยงต่อยาเสพติดตามแนวชายแดน และยังมีแนวทางจะให้มีระบบโมบาย เชื่อมต่อระบบกับดาวเทียมเพื่อตรวจหายาเสพติดด้วย ซึ่งทราบว่า จังหวัด และ อบจ.เชียงราย มีงบประมาณในการสนับสนุนการทำงาน
ส่วนยาบ้าล็อตใหญ่ที่ยึดได้เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2551 จำนวน 1,714,000 เม็ดนั้น ทราบว่ามีการลำเลียงมาทางเรือทางด้าน อ.เชียงแสน กว่า 2 ล้านเม็ดเศษ โดยมียาบ้ากว่า 3 แสนเม็ด ที่ถูกกลุ่มชนกลุ่มน้อยบางกลุ่มแย่งชิงกันและตกน้ำไป ก่อนจะมีการนำไปพักไว้บนยอดดอยทางด้าน อ.แม่ฟ้าหลวง ก่อนจะลอบนำมาซุกซ่อนในรถบรรทุกข้าวโพดจนถูกจับ
พ.อ.พีระเนตร เกตุเต็ม รอง ผบ.ฉก.ม.3 กองกำลังผาเมือง กล่าวว่า เป็นห่วงสถานการณ์ยาเสพติด เนื่องจากขณะนี้ชนกลุ่มน้อยในประเทศเพื่อนบ้านถูกปราบปรามจากรัฐบาลของบางประเทศทำให้ชนกลุ่มน้อยต้องเร่งหาเงินซื้ออาวุธจึงมีการผลิตยาเสพติดมาก และยังพบว่าน่าจะมีเครือข่ายยาเสพติดระดับใหญ่มาก อาจจะเป็นระดับชาติ หรือระดับโลก เข้ามาเคลื่อนไหวบริเวณสามเหลี่ยมทองคำ ด้านตรงข้าม อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ชายแดนสามประเทศ จึงล่อแหลมที่จะมีการลำเลียงยาเสพติดเข้าไทยมากขึ้น
นอกจากนี้ พบว่าขณะนี้ผู้รับจ้างลำเลียงยาเสพติดในพื้นที่เริ่มมารับจ้างกันมากขึ้น ส่วนผู้ค้าเริ่มเคลื่อนไหวมากขึ้น เช่น บริเวณ ต.ห้วยไคร้ อ.แม่สาย และรอยต่อ อ.แม่จัน มีกลุ่มผู้ค้าที่น่าจับตามมองหลายกลุ่ม ซึ่งต้องใช้มาตรการเด็ดขาดในการปราบปรามเพื่อให้ผู้ค้าเกรงกลัว จึงอยากให้มีการสนับสนุนรถตรวจการณ์แบบพลเรือน และกล้องตรวจการณ์กลางคืนจาก ป.ป.ส.และจังหวัดในการทำงาน
ด้านสาธารณสุข ได้มีการจัดศูนย์บำบัดยาเสพติดตามโรงพยาบาลประจำอำเภอ 17 โรงพยาบาล และ 213 สถานีอนามัยในพื้นที่ พร้อมบำบัดผู้ติดยากว่า 2,000 คน นอกจากนี้ยังมีการดึงเยาวชนเข้าร่วมโครงการศูนย์ทูบีนัมเบอร์วัน (TO Be Number One) เพื่อที่จะทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ มีศูนย์เพื่อนใจวัยรุ่น หรือ เฟรนคอเนอร์ ซึ่งเข้าถึงเยาวชนคาดว่าจะป้องกันเยาวชนได้ผลดี
สำหรับสถิติตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม -30 กันยายน 2551 พบว่า จังหวัดเชียงราย มีการยึดยาบ้าได้ รวมแล้ว 3,002,434 เม็ดไอซ์ 6,090 กรัม ยาอี 6,338 กรัม เฮโรอีน 1,908 กรัม ฝิ่น 44,443 กรัม กัญชา 131 กรัม มีผู้เสพ 1,195 รายครอบครอง 450 ราย ครอบครองเพื่อจำหน่าย 272 ราย,จำหน่าย 83 ราย
