xs
xsm
sm
md
lg

ราชินีพระราชทาน2แสนประกอบพิธีศพของปู่เย็น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายเย็น แก้วมณี หรือ ปู่เย็น เฒ่าทรนง แห่งลุ่มน้ำเพชรบุรี อายุ 108 ปี เสียชีวิตแล้ว ด้วยโรคหัวใจล้มเหลว หลังนอนหมดสติไม่รู้สึกตัวบนเรื่อพระราชทาน เมื่อเช้าวันที่ 12 ต.ค. ท่ามกลางความพยายามยื้อชีวิตของคณะแพทย์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.00 น. วานนี้ (12 ต.ค.) นายเย็น แก้วมณี หรือ ปู่เย็น เฒ่าทรนง แห่งลุ่มน้ำเพชรบุรี อายุ 108 ปี ซึ่งอาศัยอยู่บนเรือพระราชทาน จากสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้นอนหมดสติ ไม่รู้สึกตัว เนื่องจาก เกิดอาการช็อค และหัวใจหยุดเต้นอยู่บนเรือ โดยพยาบาลผู้ดูแล ได้เข้าไปปลุก แต่ไม่มีปฏิกิริยาตอบรับจากปู่เย็นที่นอนแน่นิ่งอยู่ พยาบาลคนดังกล่าว จึงรีบนำร่างของปู่เย็นนำขึ้นรถพยาบาลพาส่งโรงพยาบาลพระจอมเกล้า จ.เพชรบุรี ซึ่งคณะทีมแพทย์ได้พยายามปั๊มหัวใจช่วยชีวิตปู่เย็นเป็นเวลาประมาณ ชั่วโมงเศษ แต่สุดท้าย คณะแพทย์ ก็ไม่สามารถช่วยชีวิตของปู่เย็นเอาไว้ได้ และลงความเห็นว่า ปู่เย็นมีอาการหัวใจล้มเหลวเนื่องจากอายุมากแล้ว ประกอบกับปู่เย็นมีโรคประจำตัว อาทิ เบาหวาน ความดัน ปอดอักเสบ และแผลที่กระดูกข้อมืออักเสบ ขาดสารอาหาร หัวใจโตเล็กน้อย จึงเกิดอาการหัวใจล้มเหลว
นพ.สาธิต รัตนศรีทอง รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระจอมเกล้า จ.เพชรบุรี กล่าวถึงสาเหตุการเสียชีวิตของปู่เย็นว่า เกิดจากภาวะการทำงานของหัวใจล้มเหลว เฉียบพลัน เพราะในช่วงเช้าที่ทีมแพทย์และพยาบาลได้ไปดูแลปู่เย็นตามปกติ แต่กลับไม่มีการตอบรับจากปู่เย็น
นพ.สาธิต กล่าวว่า เวลา 09.00 น. ทีมแพทย์เดินทางจากโรงพยาบาล ไปถึงเชิงสะพานลำไยที่ปู่เย็นจอดเรือประมาณ 09.15 น. หลังจากนั้น เมื่อเรียกปู่เย็น ปกติปู่เย็นจะออกมาเปิดม่านเรือและออกมาที่หัวเรือ แต่วันนี้ เรียกหลายครั้งไม่มีการตอบรับทีมแพทย์จึงลงไปในเรือและพบว่า ปู่เย็นนอนไม่รู้สึกตัว ร่างกายซีดขาว ไม่หายใจและคลำชีพจรไม่ได้
นพ.สาธิต กล่าวว่า ขณะนั้น จับชีพจรไม่ได้ปู่เย็นไม่ได้จึงช่วยหายใจด้วยการ ให้หน้ากากออกซิเจน ก่อนประสานงานตำรวจและมูลนิธินำตัวปู่เย็นออกจากเรือ เพื่อนำส่งโรงพยาบาลที่มีเครื่องมือพร้อมกว่า โดยเริ่มช่วยชีวิตปู่เย็นตั้งแต่เวลา 09.35 น. ด้วยการใส่ท่อช่วยหายใจ ให้สารน้ำ นวดหัวใจและให้ยากระตุ้นหัวใจ จนชีพจรกลับคืนมา แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถยื้อชีวิตปู่เย็นไว้ได้
นายสยุมพร ลิ่มไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรีได้แถลงว่า สาเหตุเนื่องจาก ปู่เย็น มีอาการของหัวใจล้มเหลว สืบเนื่องจากโรคเบาหวาน ปอดบวม ขาดสาร แผลที่กระดูกอักเสบ หัวใจโต อาการรวมทั้งหมด ส่งผลหัวใจล้มเหลว ในเบื้องต้น จะนำศพปู่เย็นไปไว้ที่มัสยิดกลาง ต.ท่าแร้ง อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี ซึ่งจะมีพิธีกรรมทางศาสนาอิสลาม โดยคณะกรรมการอิสลาม และจะมีพิธีฝังศพ
สำหรับเรือพระราชทาน ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี กล่าวว่า จะหารือกับญาติ ของปู่เย็น ว่าต้องการให้ทำอย่างไร โดยขณะนี้จะได้ถวายรายงานให้สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงทราบ
ซึ่งต่อมาท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ ทีขะระ รองราชเลขานุการในพระองค์ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ประสานผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ว่า สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระราชทานเงิน 200,000 บาท เพื่อประกอบพิธีศพ นายเย็น แก้วมณี ทางศาสนาอิสลาม ที่มัสยิดกลาง ต.ท่าแร้ง อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี ซึ่งในคืนนี้ จะมีการอ่านพระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน และช่วงเช้า เวลา 10.00 น. วันนี้ (13 ต.ค.) จะมีพิธีอาบน้ำศพ ละหมาดศพ และฝังศพในเวลา 10.00 น.
สำหรับประวัติของปู่เย็นนั้น เป็นชาวเพชรบุรี นับถือศาสนาอิสลาม บิดาชื่อ นายสุข แก้วมณี มารดาชื่อนางชม แก้วมณี ตามทะเบียนราษฎร์ปู่เย็นอาศัยอยู่ตามทะเบียนราษฎรเลขที่ 274/4 ถ.มาตยาวงศ์ ต.ท่าราบ อ.เมืองเพชรบุรี แต่เดิมปู่เย็น ประกอบอาชีพรับจ้างเลี้ยงวัว ซึ่งหากนับอายุตามหลักฐานทะเบียนราษฎร์ ปู่เย็นจะมีอายุ 89 ปี แต่ปู่เย็นเคยบอกไว้ว่า ตนเกิดปีฉลู ซึ่งตรงกับปีพ.ศ.2443 จึงทำให้ขณะนี้อายุ 108 ปี
ด้านชีวิตครอบครัว ปู่เย็นแต่งงานอยู่กินกับ ย่าเอิบ แก้วมณี ชาวไทยพุทธ แถวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยไม่มีฝ่ายใดได้เปลี่ยนศาสนา ซึ่งทั้งสองครองรักกันยืนยาว แต่ปู่เย็นไม่มีลูก เพราะปู่เย็นเป็นหมัน จะมีก็แต่บุตรสาวบุญธรรม 2 คน ซึ่งเมื่อเติบใหญ่ก็แยกย้ายไปมีครอบครัวของตน จากนั้น ย่าเอิบก็ล้มป่วย และเสียชีวิตในวัย 94 ปี ตอนนั้นปู่เย็นร้องไห้กับการจากไปของย่าเอิบเป็นเวลาประมาณ 3 เดือน และนับจากวันที่ย่าเอิบจากไป ปู่เย็นก็ออกจากบ้านเช่าราคาเดือนละ 800 บาท ขนทรัพย์สมบัติที่มีอยู่ไม่กี่ชิ้น มาอยู่บนเรือลำเล็กๆ ล่องอยู่บนแม่น้ำเพชรบุรี นับตั้งแต่นั้น
ทั้งนี้ ปู่เย็นใช้ชีวิตอยู่บนเรือมา 10 กว่าปี เลี้ยงชีวิตด้วยการดักอวนหาปลา เหลือกินก็ขายถูกๆ ไม่ต้องมีตาชั่ง 20 30 บาท ปู่ก็ขายแลกเงินเพื่อประทังชีพ โดย ไม่นึกว่าจะต้องพึ่งใคร ทั้งๆ ที่ปู่เย็นเองก็มีญาติสนิทมิตรสหาย แต่ปู่เย็นให้เหตุผลง่ายๆ ว่า เกรงใจเขา ที่สำคัญปู่เย็นไม่ชอบให้ใครสงสาร แต่ปู่เย็นชอบสงสารคนอื่น
จนกระทั่งวันวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2548 ปู่เย็นได้เข้ารับเรือพระราชทาน ต่อเบื้องพระบรมฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เป็นเรือกว้าง 1 เมตร ยาว 6 เมตร มีประทุนหลังคากันแดดกันฝน ด้านครึ่งเรือ ตอนท้ายจะมีผ้ามุ้งสำหรับกันยุง สำหรับตัวเรือจะเป็นเนื้อไฟเบอร์กลาสตลอดทั้งลำ มีน้ำหนักเบาสามารถลอยตัวอยู่ในน้ำตื้นได้ สร้างความตื้นตันใจแก่ปู่เย็น เป็นอย่างมาก
จนกระทั่ง เมื่อวันที่ 19 ก.ย. เรือพระราชทานฯ ของปู่เย็น ได้เกิดจม เนื่องจากพายุฝนที่พัดกระหน่ำอยู่ที่เชิงบริเวณสะพานลำไย ต.ท่าราบ อ.เมือง จ.เพชรบุรี ในแม่น้ำเพชรบุรี จนทำให้ปู่เย็นหนีออกจากเรือมาไม่ทัน และต้องลอยคออยู่ในแม่น้ำนานกว่า 15 นาที กระทั่งมีผู้พบเห็นและช่วยเหลือส่ง โรงพยาบาล โดยชาวบ้านก็ได้ช่วยกันนำร่างปู่เย็นที่หนาวสั่น ขึ้นมาจากน้ำและส่งโรงพยาบาลพระจอมเกล้าจังหวัดเพชรบุรี โดยตอนแรกปู่เย็นไม่ยอมไป กลับทรุดลงนั่งที่บริเวณบันไดพักขั้นสุดท้ายของสะพานใกล้เคียงจุดที่เรือล่ม เนื่องจากห่วงใยทรัพย์สินและเป็นห่วงเรือพระราชทาน
จากนั้นชาวบ้านได้ช่วยกันกู้เรือมาไว้ที่ริมตลิ่ง โดยปู่เย็นนั่งดูการกู้เรือ ด้วยอาการเศร้าสร้อยและมีคราบน้ำตาที่แก้มทั้งสองข้าง ก่อนที่บุรุษพยาบาลจะอุ้มปู่เย็นขึ้นรถพยาบาลนำตัวส่งตรวจอาการ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำเรือ ของปู่เย็นไปซ่อมที่วิทยาลัยเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมการต่อเรือพระนครศรีอยุธยา และเพิ่งได้รับมอบเรือลำใหม่ไปเมื่อวันที 1 ต.ค. ที่ผ่านมานี้นั่นเอง
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้นำปู่เย็นนั่งรถเข็นจากบ้านญาติ เดินทางไปที่เรือพระราชทาน โดยทันทีที่เห็นเรือปู่เย็นได้เอามือลูบเรือพร้อมหลั่งน้ำตาออกมาด้วยความดีใจ ก่อนจะอุทานออกมาว่า โอ้...ดีโว้ย ...ลำนี้ใหญ่กว่าลำเก่าโว้ย..สวยไปเลยโว้ย พร้อมกับกล่าวว่า ไม่อยากนำเรือลำนี้ออกมาใช้ อยากจะเอาเก็บไว้เพราะเสียดาย ดีใจเป็นอย่างมาก รู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงเป็นห่วงเป็นใยในชีวิต มีรับสั่งซ่อมแซมเรือให้ในครั้งนี้ จะดูแลรักษาเรือลำนี้เป็นอย่างดี ไม่ให้เรือจมน้ำอีก
ซึ่งทันทีที่ปู่เย็นลงไปนั่งในเรือ ปรากฏว่าปู่เย็นดีใจจนยิ้มแก้มปริ พร้อมนำพระบรมฉายาลักษณ์ของทั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มากอดแนบอก ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะนำเรือพาปู่เย็นล่องไปตามลำน้ำไปยังที่จอดเรือของปู่เย็นบริเวณใต้เชิงสะพานลำไย ท่ามกลางชาวบ้านนับพันคนที่มายืนปรบมือให้กับผู้เฒ่าทรนง
กำลังโหลดความคิดเห็น