xs
xsm
sm
md
lg

แย้มไครสเลอร์-จีเอ็มซุ่มหารือผนวกกิจการ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รอยเตอร์ - แหล่งข่าววงในแย้มไครสเลอร์-จีเอ็มดอดคุยกันเรื่องผนวกกิจการ ในจังหวะเวลาที่ทั้งคู่ต่างดิ้นรนลดต้นทุนและเพิ่มสภาพคล่อง
การเจรจาระหว่างเซอร์เบอรัส แคปิตอล แมเนจเมนท์ ผู้ถือหุ้นใหญ่ของไครสเลอร์ กับเจเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) เริ่มต้นขึ้นเมื่อหลายสัปดาห์ก่อน โดย เซอร์เบอรัส ซึ่งเป็นกองทุนเพื่อการลงทุนในภาคเอกชน (ไพรเวต อีควิตี้ ฟันด์) เป็นคนเขี่ยบอล
อย่างไรก็ดี แหล่งข่าวสองรายที่ไม่ประสงค์ออกนามสำทับว่า การเจรจามีอันต้องยุติลงเนื่องจากคำถามเรื่องการตีราคาธุรกิจรถยนต์ที่กำลังประสบภาวะขาดทุนของไครสเลอร์ โดยธุรกิจดังกล่าวนี้ครอบคลุมแบรนด์ไครสเลอร์, ดอดจ์ และจี๊ป
ประเด็นสำคัญในข้อเสนอดังกล่าวคือ การสว็อปหุ้นกับจีเอ็มอันจะทำให้เซอร์เบอรัสได้หุ้น 49% ที่เหลือในจีแม็ก บริษัทการเงินในเครือจีเอ็ม แลกกับการส่งมอบธุรกิจรถยนต์ของไครสเลอร์ให้ค่ายรถอันดับ 1 ของสหรัฐฯ
แหล่งข่าวอีกรายเสริมว่า จีเอ็มปฏิเสธข้อเสนอดังกล่าว เพราะเห็นว่าตัวเองต้องจ่ายแพงเกินไป รวมถึงยังต้องแบกภาระอันหนักอึ้งในการตัดลดส่วนที่จะเกิดการซ้ำซ้อนกัน ไม่ว่าจะเป็นทางด้าน แบรนด์ ดีลเลอร์ โรงงาน และตัวแทนสหภาพแรงงาน
ทั้งนี้ เซอร์เบอรัสซื้อหุ้น 80.1% ในไครสเลอร์จากเดมเลอร์เมื่อปี 2007 ด้วยวงเงิน 7,400 ล้านดอลลาร์ และจ่ายเงินจำนวนเท่ากันให้จีเอ็มในปีก่อนหน้านั้นสำหรับหุ้น 51% ในจีแม็ก
แม้ข้อตกลงของเซอร์เบอรัสครั้งนั้นตีค่าค่ายรถอันดับ 3 ของสหรัฐฯ ไว้ที่กว่า 9,000 ล้านดอลลาร์ แต่แหล่งข่าวคนเดิมบอกว่ามูลค่าปัจจุบันของปฏิบัติการรถยนต์ของไครสเลอร์ขณะนี้เหลือไม่ถึง 1,000 ล้านดอลลาร์
เซอร์เบอรัสนั้นพยายามขายกิจการทั้งหมดของไครสเลอร์หรือขายหุ้นบางส่วนด้วยการทาบทามบริษัทหลายแห่ง เช่น เรโนลต์-นิสสัน, เฟียต, ทาทา มอเตอร์ของอินเดีย และแม็กนา อินเตอร์เนชันแนลของแคนาดา แต่ไม่สำเร็จสักราย
เซอร์เบอรัสยังคุยกับค่ายรถจีน อาทิ เชอรี ออโตโมบิล และฟอว์ คาร์ เรื่องการเข้าถึงเครือข่ายดีลเลอร์ในสหรัฐฯ
การหารือระหว่างจีเอ็มกับไครสเลอร์มีขึ้นขณะที่ฟอร์ด มอเตอร์ ค่ายรถอันดับสองเมืองลุงแซมที่ประสบปัญหาเช่นกัน กำลังวางแผนขายหุ้นส่วนใหญ่หรือทั้งหมดในมาสดา มอเตอร์ มูลค่าทั้งสิ้น 1,400 ล้านดอลลาร์
อนึ่ง ยอดขายรถยนต์ในสหรัฐฯ ล่าสุดดิ่งทำสถิติต่ำสุดในรอบ 15 ปี ฉุดส่วนแบ่งตลาด 'บิ๊กทรี' ร่วงไม่เป็นท่า ขณะที่ต้องแข่งขันกับผู้เล่นต่างชาติท่ามกลางวิกฤตการเงินที่เลวร้ายที่สุดนับจากช่วงวิกฤตถดถอยร้ายแรงในทศวรรษ 1930
นักวิเคราะห์ลงความเห็นว่า จีเอ็ม, ฟอร์ด และไครสเลอร์อาจต้องใช้มาตรการฉุกเฉินเพื่อปกป้องฐานเงินสดของตน แต่ยังไม่มั่นใจว่าจีเอ็มจะได้อะไรจากการผนวกกับไครสเลอร์
ที่ผ่านมา จีเอ็มหมดเงินเดือนละ 1,000 ล้านดอลลาร์กับการลดต้นทุน ขายสินทรัพย์และกู้ยืมเพื่อระดมเงินสดเพิ่ม
แอรอน แบรกแมน นักวิเคราะห์ของโกลบัล อินไซต์บอกว่า การซื้อไครสเลอร์ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาให้จีเอ็ม ซ้ำยังอาจทำให้ปัญหาเลวร้ายลงกว่าเดิม
เซอร์เบอรัสปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเกี่ยวกับข่าวนี้ เช่นเดียวกับจีเอ็ม กระนั้น จีเอ็มกล่าวว่าการเจรจากับค่ายรถอื่นๆ เป็นเรื่องปกติ ขณะที่โฆษกไครสเลอร์กล่าวคล้ายกันว่า กำลังหารือกับว่าที่หุ้นส่วนหลายราย ไม่เฉพาะกับจีเอ็มเท่านั้น
แหล่งข่าวเสริมว่า หากตกลงกับจีเอ็มได้ จะทำให้เดมเลอร์สามารถขายหุ้นไครสเลอร์อีก 19.9% ที่เหลืออยู่ให้เซอร์เบอรัสจนหมด โดยเดือนที่ผ่านมา เซอร์เบอรัสเผยว่าได้ติดต่อเดมเลอร์เพื่อซื้อหุ้นจำนวนดังกล่าว
เรื่องนี้โฆษกเดมเลอร์ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเช่นเดียวกัน
แบรกแมนชี้ว่า การขายไครสเลอร์จะเข้าทางเซอร์เบอรัสที่ต้องการเข้าเทกโอเวอร์จีแม็กในจังหวะเดียวกับที่กองทุนฟื้นวิกฤตมูลค่า 700,000 ล้านดอลลาร์ของวอชิงตันเตรียมเข้าซื้อสินทรัพย์มีปัญหา
การเจรจาระหว่างจีเอ็ม-ไครสเลอร์คราวนี้ ถือเป็นการฟื้นการหารือเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการควบรวมกิจการบริษัททั้งสองขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากเมื่อต้นปี 2007 เดมเลอร์ที่เวลานั้นเป็นเจ้าของไครสเลอร์ ได้เริ่มกระบวนการเพื่อตัดขายไครสเลอร์ออกไป ทว่าครั้งนั้นไม่มีความคืบหน้าอะไร และปลายปีนั้นเอง ค่ายรถอันดับ 3 ของสหรัฐฯแห่งนี้ก็ถูกปล่อยให้แก่เซอร์เบอรัส
ปีที่แล้วเช่นกัน ริก วาโกเนอร์ ประธานบริหารจีเอ็มกล่าวว่า เห็นลู่ทางที่เซอร์เบอรัสจะรวมจีแม็กกับไครสเลอร์ ไฟแนนเชียล
นักวิเคราะห์ไม่มั่นใจว่าไครสเลอร์จะสามารถอยู่รอดในฐานะผู้ผลิตรถยนต์เพียงอย่างเดียว เนื่องจากยอดขายถึง 90% ทำได้จากอเมริกาเหนือเท่านั้น อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์จำนวนมากเช่น โครว์ ฮอร์วาต ที่ปรึกษาอุตสาหกรรมยานยนต์ยังเห็นว่า การรวมจีเอ็มกับไครสเลอร์รังแต่เป็นการจับคู่บริษัทที่มีจุดอ่อนเหมือนกัน อาทิ การพึ่งพิงยอดขายรถปิ๊กอัพและเอสยูวี ทำให้ยิ่งเสียหายหนักขึ้นและเร็วขึ้น
วันศุกร์ที่แล้ว (10) หุ้นจีเอ็มปิดลดลงเกือบ 80% จากช่วงต้นปีอยู่ที่ 4.89 ดอลลาร์ ต่ำสุดในรอบเกือบ 60 ปี อย่างไรก็ดี ทั้งจีเอ็มและฟอร์ดยืนยันว่าไม่มีแผนขอรับความคุ้มครองภายใต้กฎหมายล้มละลายแต่อย่างใด
กำลังโหลดความคิดเห็น