พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รมว.มหาดไทย ปฎิเสธที่จะแสดงความเห็นกรณีแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับ 10 ซึ่งมีทั้งระดับอธิบดี ผู้ว่าราชการจังหวัด จนมีเสียง วิพากษ์วิจารณ์ว่า เตรียมวางแผนที่จะรองรับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในไม่ช้า โดยอ้างว่า ครม. ได้มีมติให้ความเห็นชอบอย่างถูกต้องแล้ว แต่การแต่งตั้งโยกย้ายยังจะไม่มีผล หากยังไม่มีพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง อย่างไรก็ตาม คงห้ามการวิพากษ์วิจารณ์ไม่ได้ เพราะไม่สามารถทำได้ถูกใจคนทั้งหมด
นายเทพไท เสนพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าการที่ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ยังฝืนกระแสสังคมไม่ยอมยุบสภา หรือลาออก หลังสั่งตำรวจสลายการชุมนุมจนทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ก็เพื่อเตรียมการไปสู่การยุบสภาในอนาคต โดยวางเป้าหมายใน 2 ประเด็นหลักคือ 1.เตรียมการโยกย้ายคนของตัวเองเข้าสู่ตำแหน่งสำคัญเพื่อกุมอำนาจอย่างเบ็ดเสร็จ โดยเฉพาะการโยกยายในกระทรวงมหาดไทยที่ผ่านมา ซึ่งรัฐบาลได้แต่งตั้งคนของตัวเองให้มีบทบาทในการเอื้อประโยชน์การเลือกตั้งจนเป็นข่าวฟ้องร้องกับ กกต.ในการทุจริตการเลือกตั้ง เมื่อปี 2548
และได้มีการย้าย ผู้ว่าราชการจังหวัดเล็กมาเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดใหญ่ เช่น นายประจักษ์ สุวรรณภักดี จากผู้ว่าฯจันทบุรี เป็น ผู้ว่าฯนครราชสีมา นายมานิตย์ วัฒนเสน ผู้ว่าฯชุมพร เป็น ผู้ว่าฯขอนแก่น และบุคคลที่ใกล้ชิดนักการเมือง เช่น นายสุกิจ เจริญรัตนกุล รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครอง นายอุดม พัวสกุล ผู้ว่าฯอุทัยธานี เป็นอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง นายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์ ผู้ว่าฯราชบุรี เป็นน้องชายนายศิโรฒน์ สวัสดิ์พาณิชย์ อดีตอธิบดี กรมสรรพากร ที่ถูกกล่าวหาว่าช่วยเหลือการหลีกเลี่ยงภาษีการขายหุ้นของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นอธิบดีกรมการปกครอง นายชุมพร พลรักษ์ ผู้ว่าฯตาก อดีตผู้อำนวยการเขตบางกะปิ คนใกล้ชิดนางสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เป็นอธิบดีกรมพัฒนาชุมชน เป็นต้น
นายเทพไท กล่าวว่า ส่วนบุคคลที่ไม่ได้ใกล้ชิดกับกลุ่มอำนาจใหม่ ก็ถูกย้ายเข้ากรุ ทั้งที่เป็นบุคคลที่มีความสามารถ เป็นที่ยอมรับของกระทรวงมหาดไทย เช่น นายวิชัย ศรีขวัญ นายสมพร ใช้บางยาง รองปลัดกระทรวง ทั้งที่เคยเป็น อธิบดีกรมสำคัญของกระทรวงมหาดไทย เมื่อเห็นว่าไม่สามารถใช้บุคคลเหล่านนนี้ ในการเอื้อประโยชน์ของตัวเองได้
นายเทพไท กล่าวว่า 2. การใช้งบประมาณแผ่นดินที่ได้ผ่านสภาไปแล้ว รัฐบาลพยายามที่จะทำทุกวิถีทางให้มีการแถลงนโยบายให้เสร็จสิ้น เพื่อให้การบริหาร งบประมาณครบถ้วนสมบรูณ์ และเมื่อมีการใช้งบประมาณไปได้ระยะหนึ่ง และจะนำผลประโยชน์จากโครงสร้างของงบประมาณเข้ากระเป๋าตัวเอง เพื่อมาใช้ในการเลือกตั้ง
นายเทพไทย โดยส่วนตัวเชื่อว่า นายสมชาย กำลังถูกกดดันอย่างหนัก เพราะดูจากสีหน้าท่าทางแล้ว เหมือนคนถอดใจที่จะไม่สู้ต่อในตำแหน่งนายกฯ อีกแล้ว แต่เชื่อว่ามีคนอยู่เบื้องหลังพยายามผลักดันให้สู้ต่อไป จึงเชื่อได้ว่าอำนาจที่แท้จริง ในการบริหารบ้านเมืองไม่ได้อยู่ที่นายสมชาย แต่น่าจะมีผู้ที่มีอำนาจมากกว่า นายสมชาย ที่สั่งการอยู่เบื้องหลัง เห็นได้จากการสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ที่ผ่านมา ที่มีม็อบมาสภาตั้งแต่เย็นวันที่ 6 ต.ค.แล้ว และรัฐบาลไม่มีท่าทีที่จะใช้ความรุนแรง และแผนที่จะสลายม็อบใดๆ แต่แผนการใช้ความรุนแรง เพิ่งได้กำหนดตอนใกล้สว่างของวันที่ 7 ต.ค. ซึ่งตรงกับเวลาในประเทศอังกฤษ ในช่วงเวลากลางวัน จึงเป็นไปได้หรือไม่ว่าแผนการใช้ความรุนแรงดังกล่าว ถูกกำหนด และสั่งการจากลอนดอน
นายเทพไท เสนพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าการที่ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ยังฝืนกระแสสังคมไม่ยอมยุบสภา หรือลาออก หลังสั่งตำรวจสลายการชุมนุมจนทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ก็เพื่อเตรียมการไปสู่การยุบสภาในอนาคต โดยวางเป้าหมายใน 2 ประเด็นหลักคือ 1.เตรียมการโยกย้ายคนของตัวเองเข้าสู่ตำแหน่งสำคัญเพื่อกุมอำนาจอย่างเบ็ดเสร็จ โดยเฉพาะการโยกยายในกระทรวงมหาดไทยที่ผ่านมา ซึ่งรัฐบาลได้แต่งตั้งคนของตัวเองให้มีบทบาทในการเอื้อประโยชน์การเลือกตั้งจนเป็นข่าวฟ้องร้องกับ กกต.ในการทุจริตการเลือกตั้ง เมื่อปี 2548
และได้มีการย้าย ผู้ว่าราชการจังหวัดเล็กมาเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดใหญ่ เช่น นายประจักษ์ สุวรรณภักดี จากผู้ว่าฯจันทบุรี เป็น ผู้ว่าฯนครราชสีมา นายมานิตย์ วัฒนเสน ผู้ว่าฯชุมพร เป็น ผู้ว่าฯขอนแก่น และบุคคลที่ใกล้ชิดนักการเมือง เช่น นายสุกิจ เจริญรัตนกุล รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครอง นายอุดม พัวสกุล ผู้ว่าฯอุทัยธานี เป็นอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง นายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์ ผู้ว่าฯราชบุรี เป็นน้องชายนายศิโรฒน์ สวัสดิ์พาณิชย์ อดีตอธิบดี กรมสรรพากร ที่ถูกกล่าวหาว่าช่วยเหลือการหลีกเลี่ยงภาษีการขายหุ้นของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นอธิบดีกรมการปกครอง นายชุมพร พลรักษ์ ผู้ว่าฯตาก อดีตผู้อำนวยการเขตบางกะปิ คนใกล้ชิดนางสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เป็นอธิบดีกรมพัฒนาชุมชน เป็นต้น
นายเทพไท กล่าวว่า ส่วนบุคคลที่ไม่ได้ใกล้ชิดกับกลุ่มอำนาจใหม่ ก็ถูกย้ายเข้ากรุ ทั้งที่เป็นบุคคลที่มีความสามารถ เป็นที่ยอมรับของกระทรวงมหาดไทย เช่น นายวิชัย ศรีขวัญ นายสมพร ใช้บางยาง รองปลัดกระทรวง ทั้งที่เคยเป็น อธิบดีกรมสำคัญของกระทรวงมหาดไทย เมื่อเห็นว่าไม่สามารถใช้บุคคลเหล่านนนี้ ในการเอื้อประโยชน์ของตัวเองได้
นายเทพไท กล่าวว่า 2. การใช้งบประมาณแผ่นดินที่ได้ผ่านสภาไปแล้ว รัฐบาลพยายามที่จะทำทุกวิถีทางให้มีการแถลงนโยบายให้เสร็จสิ้น เพื่อให้การบริหาร งบประมาณครบถ้วนสมบรูณ์ และเมื่อมีการใช้งบประมาณไปได้ระยะหนึ่ง และจะนำผลประโยชน์จากโครงสร้างของงบประมาณเข้ากระเป๋าตัวเอง เพื่อมาใช้ในการเลือกตั้ง
นายเทพไทย โดยส่วนตัวเชื่อว่า นายสมชาย กำลังถูกกดดันอย่างหนัก เพราะดูจากสีหน้าท่าทางแล้ว เหมือนคนถอดใจที่จะไม่สู้ต่อในตำแหน่งนายกฯ อีกแล้ว แต่เชื่อว่ามีคนอยู่เบื้องหลังพยายามผลักดันให้สู้ต่อไป จึงเชื่อได้ว่าอำนาจที่แท้จริง ในการบริหารบ้านเมืองไม่ได้อยู่ที่นายสมชาย แต่น่าจะมีผู้ที่มีอำนาจมากกว่า นายสมชาย ที่สั่งการอยู่เบื้องหลัง เห็นได้จากการสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ที่ผ่านมา ที่มีม็อบมาสภาตั้งแต่เย็นวันที่ 6 ต.ค.แล้ว และรัฐบาลไม่มีท่าทีที่จะใช้ความรุนแรง และแผนที่จะสลายม็อบใดๆ แต่แผนการใช้ความรุนแรง เพิ่งได้กำหนดตอนใกล้สว่างของวันที่ 7 ต.ค. ซึ่งตรงกับเวลาในประเทศอังกฤษ ในช่วงเวลากลางวัน จึงเป็นไปได้หรือไม่ว่าแผนการใช้ความรุนแรงดังกล่าว ถูกกำหนด และสั่งการจากลอนดอน