ผู้จัดการรายวัน - ซีพีเอฟไม่หวั่นปัญหาการมือง เหตุคนต้องกินอาหารอยู่แล้ว ลุยขยายไลน์อาหารปรุงสุกสู่กลุ่มหมู มั่นใจปีนี้ยอดกลุ่มนี้ 150 ล้านบาท อัดงบตลาด 25 ล้านบุก
นายสุพัฒน์ ศรีธนาธร รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท เจริญโภคภัณ์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากปัจจัยลบด้านการเมืองและเศรษฐกิจ ที่เกิดขึ้นยังไม่กระทบกับบริษัทมากนัก เนื่องจากผลิตภัณฑ์อาหารเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคต้องรับประทานอยู่แล้ว รวมทั้งการทำตลาดและกิจกรรมต่อเนื่องก็เป็นการกระตุ้นตลาดได้ทาหนึ่งด้วย
ล่าสุดซีพีเอฟได้ขยายไลน์อาหารสำเร็จรูปพร้อมทานแบรนด์ซีพีสู่กลุ่ม หมูแปรรูป อย่างเต็มตัว หลังจากที่เริ่มทดลองทำตลาดตั้งแต่ไตรมาสแรกปีนี้ โดยทดลองมาประมาณ 8 เดือนแล้วได้รับการตอบรับที่ดี หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีกลุ่มอาหารสด อาหารแปรรูปไก่ และแปรรูปกุ้ง เนื่องจากกลุ่มหมูเป็นกลุ่มที่เติบโตกว่า 50% และมั่นใจว่าการขยายธุรกิจครั้งนี้จะทำให้มีแชร์รวมเพิ่มขึ้นเป็น 28-30% จากเดิมมีแชร์ประมาณ 23% ขณะที่ตลาดรวมอาหารสำเร็จรูปแช่แช็งนั้นมีมูลค่า 1,500 ล้านบาท เติบโต 14%
ปัจจุบันในกลุ่มหมูมีเมนูรวม 7 ชนิด คือ ไส้กรอกญี่ปุ่นรสต้นตำรับและรสโชยุ ขาหมู หมูจ๊อและกลุ่มคัตสึ เกี๊ยวหมูน้ำ ล่าสุดคือ เกี๊ยวหมูราดซอสน้ำมันงา โดยตั้งเป้าหมายยอดขายหมูปรุงสุกซีพีไว้ปีนี้ที่ 150 ล้านบาท ด้วยงบประมาณตลาดเต็มรูปแปบ 25 ล้านบาท ซึ่งจะเริ่มทำตลาดจริงจังไตรมาสที่สี่นี้
ด้านตลาดส่งออกเมนูหมูนั้น ก็จะส่งออกในทุกประเทศที่เข้าไปทำตลาดได้ เช่น ที่ประเทศสิงคโปร์ก็อยู่ระหว่างการสรุป ส่วนที่ฮ่องกงก็มีการทดลองเมนูอาหารอยู่ ที่ญี่ปุ่นซึ่งปรกติเรารับโออีเอ็มอยู่แล้วก็จะทำตลาดส่งออกด้วย
ตลาดอาหารแช่แข็งพร้อมทานทุกวันนี้ ผู้ประกอบการแข่งกันที่ เมนูและราคาขาย ซึ่งถือว่า ซีพีมีครบ และยังได้เปรียบเรื่องของช่องทางการจำหน่าย ซึ่งเรามีทั้งในร้านซีพีเฟรชมาร์ทกว่า 450 สาขาสัดส่วนยอดขาย 30% และโมเดิร์นเทรดทั้งหลายกระจายทุกพื้นที่ สัดส่วนกว่า 70% ขณะที่สัดส่วนรายได้ของกลุ่มอาหารนั้นมาจาก ไก่ 50% หมู 30% และกุ้ง 20% ซึ่งปีหน้าจะเริ่มโฟกัสที่กลุ่มกุ้งมากขึ้นด้วยการออกเมนูใหม่ พร้อมกับกลุ่มปลาก็จะมีเมนูเพิ่มขึ้นด้วย
นายสุพัฒน์ ศรีธนาธร รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท เจริญโภคภัณ์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากปัจจัยลบด้านการเมืองและเศรษฐกิจ ที่เกิดขึ้นยังไม่กระทบกับบริษัทมากนัก เนื่องจากผลิตภัณฑ์อาหารเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคต้องรับประทานอยู่แล้ว รวมทั้งการทำตลาดและกิจกรรมต่อเนื่องก็เป็นการกระตุ้นตลาดได้ทาหนึ่งด้วย
ล่าสุดซีพีเอฟได้ขยายไลน์อาหารสำเร็จรูปพร้อมทานแบรนด์ซีพีสู่กลุ่ม หมูแปรรูป อย่างเต็มตัว หลังจากที่เริ่มทดลองทำตลาดตั้งแต่ไตรมาสแรกปีนี้ โดยทดลองมาประมาณ 8 เดือนแล้วได้รับการตอบรับที่ดี หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีกลุ่มอาหารสด อาหารแปรรูปไก่ และแปรรูปกุ้ง เนื่องจากกลุ่มหมูเป็นกลุ่มที่เติบโตกว่า 50% และมั่นใจว่าการขยายธุรกิจครั้งนี้จะทำให้มีแชร์รวมเพิ่มขึ้นเป็น 28-30% จากเดิมมีแชร์ประมาณ 23% ขณะที่ตลาดรวมอาหารสำเร็จรูปแช่แช็งนั้นมีมูลค่า 1,500 ล้านบาท เติบโต 14%
ปัจจุบันในกลุ่มหมูมีเมนูรวม 7 ชนิด คือ ไส้กรอกญี่ปุ่นรสต้นตำรับและรสโชยุ ขาหมู หมูจ๊อและกลุ่มคัตสึ เกี๊ยวหมูน้ำ ล่าสุดคือ เกี๊ยวหมูราดซอสน้ำมันงา โดยตั้งเป้าหมายยอดขายหมูปรุงสุกซีพีไว้ปีนี้ที่ 150 ล้านบาท ด้วยงบประมาณตลาดเต็มรูปแปบ 25 ล้านบาท ซึ่งจะเริ่มทำตลาดจริงจังไตรมาสที่สี่นี้
ด้านตลาดส่งออกเมนูหมูนั้น ก็จะส่งออกในทุกประเทศที่เข้าไปทำตลาดได้ เช่น ที่ประเทศสิงคโปร์ก็อยู่ระหว่างการสรุป ส่วนที่ฮ่องกงก็มีการทดลองเมนูอาหารอยู่ ที่ญี่ปุ่นซึ่งปรกติเรารับโออีเอ็มอยู่แล้วก็จะทำตลาดส่งออกด้วย
ตลาดอาหารแช่แข็งพร้อมทานทุกวันนี้ ผู้ประกอบการแข่งกันที่ เมนูและราคาขาย ซึ่งถือว่า ซีพีมีครบ และยังได้เปรียบเรื่องของช่องทางการจำหน่าย ซึ่งเรามีทั้งในร้านซีพีเฟรชมาร์ทกว่า 450 สาขาสัดส่วนยอดขาย 30% และโมเดิร์นเทรดทั้งหลายกระจายทุกพื้นที่ สัดส่วนกว่า 70% ขณะที่สัดส่วนรายได้ของกลุ่มอาหารนั้นมาจาก ไก่ 50% หมู 30% และกุ้ง 20% ซึ่งปีหน้าจะเริ่มโฟกัสที่กลุ่มกุ้งมากขึ้นด้วยการออกเมนูใหม่ พร้อมกับกลุ่มปลาก็จะมีเมนูเพิ่มขึ้นด้วย