เอเอฟพี – จอห์น แมคเคน ผู้สมัครของพรรครีพับลิกัน ขณะนี้เหลือเวลาอีกไม่กี่สัปดาห์แล้วสำหรับการพลิกสถานการณ์แห่งการช่วงชิงทำเนียบขาว ภายหลังที่เขายังไม่อาจปล่อยหมัดน็อก ในการโต้วาทีครั้งที่สองเมื่อวันอังคาร(8) กับ บารัค โอบามา ของพรรคเดโมแครต ทำให้บรรดานักสังเกตการณ์ทางการเมืองยิ่งสงสัยหนักว่า เขาคงไม่อาจรักษาสมญาที่ตั้งให้แก่ตัวเองว่าเป็น “คัมแบ๊ก คิด” จอมพลิกล็อกผู้ทำท่าเหมือนแพ้แต่ก็กลับมาชนะได้ในที่สุด
หนึ่งวันหลังจากที่แมคเคนโต้วาทีกับโอบามาเป็นครั้งที่สอง ตามกำหนดการทั้งหมดสามครั้ง บรรดานักสังเกตการณ์ทางการเมืองต่างกล่าวว่าการปะทะคารมครั้งนี้ไม่ได้ทำให้โอบามาพลาดท่าเสียทีแต่อย่างใด โดยยังรักษาคะแนนที่นำหน้าแมคเคนอยู่ในขณะนี้เอาไว้ได้
“แม้ว่าจอห์น แมคเคนจะพยายามทำอย่างดีที่สุดแล้ว แต่เขาก็ไม่สามารถล้มโอบามาที่มีชั้นเชิงในการหลบเลี่ยง หรือแม้แต่จะตอบโต้เหตุผลของฝ่ายเดโมแครตได้มากนัก” หนังสือพิมพ์หัวอนุรักษนิยม วอลสตรีทเจอร์นัล ระบุในวันถัดจากการโต้วาที และเสริมว่า“นี่ยังไม่เพียงพอที่จะเปลี่ยนพลังขับเคลื่อนของการเลือกตั้งได้”
นอกจากนั้น ผลสำรวจประชามติอย่างคร่าวๆ ของเครือข่ายสถานีโทรทัศน์สหรัฐฯ ก็ระบุว่าผู้ชนะในการโต้วาทีครั้งนี้คือโอบามา โดยที่ในการโต้วาทีครั้งแรกสุดเขาก็เป็นฝ่ายกำชัยชนะมาแล้วครั้งหนึ่ง จึงทำให้ฝ่ายเดโมแครตต่างยินดีปรีดาที่โอบามากำลังมีคะแนนดีวันดีคืนในการเอาชนะการเลือกตั้งเดือนหน้า และแม้แต่โฮเวิร์ด โวล์ฟสัน อดีตโฆษกของวุฒิสมาชิกฮิลลารี คลินตัน ก็ออกมาสรุปด้วยว่า “การแข่งขันยุติแล้ว”
ทว่า โรเจอร์ ไซมอน นักข่าวอาวุโสแห่ง โพลิติโค เว็บไซต์การเมืองอเมริกันที่กำลังได้รับความนิยมพุ่งแรง กลับแสดงความเห็นว่าทั้งแมคเคนและโอบามาต่างก็ไม่ได้เป็นฝ่ายชนะ โดยบอกว่าจากมุมมองของเขาแล้ว ทั้งสองต่างก็ล้มเหลวในการ “ปล่อยหมัดน็อกเอาต์คู่ต่อสู้” อย่างไรก็ตาม แมคเคนเสียหายมากกว่า เพราะเขาอยู่ในช่วงที่จำเป็นจะต้องส่งหมัดน็อกออกไปให้ได้อย่างน้อยก็หมัดหนึ่ง
ทั้งนี้ผลสำรวจทั่วประเทศของซีเอ็นเอ็นภายหลังการโต้วาทีระบุว่า 54 เปอร์เซ็นต์ของผู้ตอบคิดว่าโอบามาเป็นฝ่ายชนะ ในขณะที่ 30 เปอร์เซ็นต์เห็นว่าผู้ชนะคือแมคเคน ส่วนผลสำรวจของซีบีเอสก็ให้โอบามาเป็นฝ่ายชนะด้วยคะแนน 40 ต่อ 26 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ผลสำรวจของแกลลัพในวันอังคารชี้ว่าแมคเคนนั้นมีความเสี่ยงสูงมาก เพราะโอบามานำหน้าเขาอยู่ถึง 9 จุดทั่วประเทศ และโอบามายังนำห่างเขาในรัฐสำคัญๆ อีกด้วย
หลังจากการโต้วาทีในวันอังคารแล้ว โอบามาก็เดินสายหาเสียงโดยเขากล่าวที่มลรัฐอินดิแอนาว่า “วันข้างหน้าจะต้องดีขึ้น” แม้ว่าตลาดหุ้นทั่วโลกจะทรุดดิ่ง อัตราการว่างงานจะสูงขึ้น หรือเศรษฐกิจจะตกอยู่ในภาวะมืดมนก็ตามที และโอบามายังให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเอบีซีถึงเรื่อง การที่ตลาดหุ้นล้มครืน โดยกล่าวว่าประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช อ่อนแอเกินกว่าที่จะแก้ไขวิกฤตการณ์ดังกล่าว เขายังขยายความข้อสงสัยต่อไปถึงแมคเคนด้วยว่าจะมีนโยบายทางเศรษฐกิจแบบเดียวกับบุช
ส่วนโจเซฟ ไบเดน ผู้สมัครคู่กับโอบามาในตำแหน่งรองประธานาธิบดี ก็ประณามพรรคคู่แข่งว่าใช้วิธีรณรงค์หาเสียงโดย “เพิ่มความหวาดกลัวและความเกลียดชัง” ในตัวโอบามา ไบเดนยังได้ตอบโต้ข้อกล่าวหาของแซราห์ แพลินที่ว่าโอบามามีความใกล้ชิดกับวิลเลียม ไอเยอร์ส อดีตผู้นำกลุ่มก่อการร้าย “เดอะ เวเธอร์แมน” ว่าเป็นเรื่อง “เหลวไหลไร้สาระ”
หนึ่งวันหลังจากที่แมคเคนโต้วาทีกับโอบามาเป็นครั้งที่สอง ตามกำหนดการทั้งหมดสามครั้ง บรรดานักสังเกตการณ์ทางการเมืองต่างกล่าวว่าการปะทะคารมครั้งนี้ไม่ได้ทำให้โอบามาพลาดท่าเสียทีแต่อย่างใด โดยยังรักษาคะแนนที่นำหน้าแมคเคนอยู่ในขณะนี้เอาไว้ได้
“แม้ว่าจอห์น แมคเคนจะพยายามทำอย่างดีที่สุดแล้ว แต่เขาก็ไม่สามารถล้มโอบามาที่มีชั้นเชิงในการหลบเลี่ยง หรือแม้แต่จะตอบโต้เหตุผลของฝ่ายเดโมแครตได้มากนัก” หนังสือพิมพ์หัวอนุรักษนิยม วอลสตรีทเจอร์นัล ระบุในวันถัดจากการโต้วาที และเสริมว่า“นี่ยังไม่เพียงพอที่จะเปลี่ยนพลังขับเคลื่อนของการเลือกตั้งได้”
นอกจากนั้น ผลสำรวจประชามติอย่างคร่าวๆ ของเครือข่ายสถานีโทรทัศน์สหรัฐฯ ก็ระบุว่าผู้ชนะในการโต้วาทีครั้งนี้คือโอบามา โดยที่ในการโต้วาทีครั้งแรกสุดเขาก็เป็นฝ่ายกำชัยชนะมาแล้วครั้งหนึ่ง จึงทำให้ฝ่ายเดโมแครตต่างยินดีปรีดาที่โอบามากำลังมีคะแนนดีวันดีคืนในการเอาชนะการเลือกตั้งเดือนหน้า และแม้แต่โฮเวิร์ด โวล์ฟสัน อดีตโฆษกของวุฒิสมาชิกฮิลลารี คลินตัน ก็ออกมาสรุปด้วยว่า “การแข่งขันยุติแล้ว”
ทว่า โรเจอร์ ไซมอน นักข่าวอาวุโสแห่ง โพลิติโค เว็บไซต์การเมืองอเมริกันที่กำลังได้รับความนิยมพุ่งแรง กลับแสดงความเห็นว่าทั้งแมคเคนและโอบามาต่างก็ไม่ได้เป็นฝ่ายชนะ โดยบอกว่าจากมุมมองของเขาแล้ว ทั้งสองต่างก็ล้มเหลวในการ “ปล่อยหมัดน็อกเอาต์คู่ต่อสู้” อย่างไรก็ตาม แมคเคนเสียหายมากกว่า เพราะเขาอยู่ในช่วงที่จำเป็นจะต้องส่งหมัดน็อกออกไปให้ได้อย่างน้อยก็หมัดหนึ่ง
ทั้งนี้ผลสำรวจทั่วประเทศของซีเอ็นเอ็นภายหลังการโต้วาทีระบุว่า 54 เปอร์เซ็นต์ของผู้ตอบคิดว่าโอบามาเป็นฝ่ายชนะ ในขณะที่ 30 เปอร์เซ็นต์เห็นว่าผู้ชนะคือแมคเคน ส่วนผลสำรวจของซีบีเอสก็ให้โอบามาเป็นฝ่ายชนะด้วยคะแนน 40 ต่อ 26 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ผลสำรวจของแกลลัพในวันอังคารชี้ว่าแมคเคนนั้นมีความเสี่ยงสูงมาก เพราะโอบามานำหน้าเขาอยู่ถึง 9 จุดทั่วประเทศ และโอบามายังนำห่างเขาในรัฐสำคัญๆ อีกด้วย
หลังจากการโต้วาทีในวันอังคารแล้ว โอบามาก็เดินสายหาเสียงโดยเขากล่าวที่มลรัฐอินดิแอนาว่า “วันข้างหน้าจะต้องดีขึ้น” แม้ว่าตลาดหุ้นทั่วโลกจะทรุดดิ่ง อัตราการว่างงานจะสูงขึ้น หรือเศรษฐกิจจะตกอยู่ในภาวะมืดมนก็ตามที และโอบามายังให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเอบีซีถึงเรื่อง การที่ตลาดหุ้นล้มครืน โดยกล่าวว่าประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช อ่อนแอเกินกว่าที่จะแก้ไขวิกฤตการณ์ดังกล่าว เขายังขยายความข้อสงสัยต่อไปถึงแมคเคนด้วยว่าจะมีนโยบายทางเศรษฐกิจแบบเดียวกับบุช
ส่วนโจเซฟ ไบเดน ผู้สมัครคู่กับโอบามาในตำแหน่งรองประธานาธิบดี ก็ประณามพรรคคู่แข่งว่าใช้วิธีรณรงค์หาเสียงโดย “เพิ่มความหวาดกลัวและความเกลียดชัง” ในตัวโอบามา ไบเดนยังได้ตอบโต้ข้อกล่าวหาของแซราห์ แพลินที่ว่าโอบามามีความใกล้ชิดกับวิลเลียม ไอเยอร์ส อดีตผู้นำกลุ่มก่อการร้าย “เดอะ เวเธอร์แมน” ว่าเป็นเรื่อง “เหลวไหลไร้สาระ”
