xs
xsm
sm
md
lg

วิสัยทัศน์การเมืองใหม่

เผยแพร่:   โดย: สันติ ตั้งรพีพากร

1. การเมืองใหม่คือ การทำให้คนไทยดีขึ้น

คุณวีระ สมความคิดกล่าวบนเวทีพันธมิตรฯ ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2551ว่า “การเมืองใหม่ เป็นเรื่องผลประโยชน์ของคนไทยทั้งชาติ” เมื่อนำมาประสานเข้ากับ “ทฤษฎีธูป 3 ดอก”(ดูในบทความเรื่อง สร้างการเมืองใหม่ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขด้วย“ทฤษฎีธูป 3 ดอก” ) ก็หมายถึงว่า การเมืองใหม่เป็นเรื่องที่คนไทยทั้งชาติต้องมาร่วมกันสร้าง ร่วมกันทำ มาทำให้ชีวิตคนไทยดีขึ้นเรื่อยๆ

ในความหมายทั่วไป การเมืองหมายถึงการใช้อำนาจของคนกลุ่มหนึ่ง ภายใต้เจตนารมณ์ของสาธารณชน ดำเนินการจัดสรรทรัพยากรอันพึงมี ทั้งที่เป็นรูปธรรมและนามธรรม ให้เป็นไป
อย่างทั่วถึงและเป็นธรรมในสังคมชาติ

ประเทศไทยมีการเมืองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขมาตั้งแต่ พ.ศ. 2475 แต่ผู้ใช้อำนาจมักจะไม่สามารถจัดสรรทรัพยากรได้ตามเจตนารมณ์ของสาธารณชน เช่น กลุ่มทหารเมื่อยึดอำนาจได้แล้ว ก็มุ่งกอบโกยผลประโยชน์ส่วนตัว สถาปนาอำนาจสืบทอด ส่วนกลุ่มทุนเมื่อได้ชัยชนะจากการเลือกตั้ง ก็มุ่งแสวงประโยชน์ส่วนตัวอย่างตะกละตะกลาม แปลงการเมืองเป็นธุรกิจ และวางทายาทสืบทอดอำนาจ เช่นเดียวกัน และนับวันแต่จะทำการอุกอาจยิ่งขึ้น ดังกรณีของกลุ่มทุนสามานย์ที่มี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นหัวโจก

การเมืองใหม่จึงจำเป็นต้องแก้ไขปัญหาดังกล่าวนี้ให้ตกไป

ประการแรก ผู้ใช้อำนาจจะต้องเป็นตัวแทนผลประโยชน์ของสาธารณชนอย่างแท้จริง มุ่งสนองเจตนารมณ์ของสาธารณชนอย่างแท้จริง

ประการที่สอง จะต้องมีระบบการคัดเลือกที่ทรงประสิทธิภาพ ในการคัดเลือกบุคคลผู้เข้าทำหน้าที่ใช้อำนาจทั้งฝ่ายนิติบัญญัติ บริหาร และตุลาการ

ประการที่สาม จะต้องมีระบบทรงประสิทธิภาพ ทำการควบคุม ติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการใช้อำนาจของบุคคลผู้ใช้อำนาจหน้าที่เหล่านั้น

ประการที่สี่ จะต้องส่งเสริมให้ขบวนการการเมืองภาคประชาชนพัฒนาเติบใหญ่ในระดับชาติ แสดงบทบาทเป็นการเมืองพื้นฐานของประเทศไทย เป็นหลักประกันให้การขับเคลื่อนของการเมืองในระบบอำนาจ 3 ฝ่าย ดำเนินไปด้วยดี ยังประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศชาติและประชาชนชาวไทยอย่างแท้จริง

ทั้งหมดนี้ ก็คือนัยสำคัญของการเมืองใหม่ของประเทศไทย ของประชาชนไทย ตั้งอยู่พื้นฐานของความเป็นจริงของเราเอง และสอดคล้องกับหลักเกณฑ์พัฒนาการทางการเมืองของโลก ที่ปัจจุบันนี้ การเมืองคือตัวแก้ปัญหาสำคัญที่สุดของประเทศกำลังพัฒนา ประเทศใดมีการเมืองดี รัฐบาลดี ก็เจริญก้าวหน้า ประชาชนหลุดพ้นจากความล้าหลังยากจน เกิดสภาวะ “มีสุข” ได้อย่างทั่วถึง ตรงกันข้าม ประเทศใดที่ยังจมปลักอยู่กับการเมืองน้ำเน่า กลุ่มผู้ใช้อำนาจตั้งหน้าตั้งตากอบโกยโกงกิน มุ่งผูกขาดอำนาจเบ็ดเสร็จไว้ในอุ้งมือหรือวงศ์วานว่านเครือ ด้วยวิธีการร้อยแปด ร้อยเล่ห์กลาวน ประเทศก็ล้าหลัง ไม่เป็นอิสระเป็นตัวของตัวเอง ประชาชนก็ยากจน เป็นหนี้เป็นสิน

76 ปีของการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข พิสูจน์ตนเองแล้วว่า อำนาจการปกครองของประเทศไทยส่วนใหญ่ตกอยู่ในมือของกลุ่มผู้ใช้อำนาจที่ถือเอาผลประโยชน์ของตนเองเป็นตัวตั้ง รัฐบาลดีมีน้อย ประเทศไทยจึงอยู่ในสภาพ “แล่นเรือในอ่าง” ดีพร้อมทุกอย่าง แต่กลับไปไม่ถึงไหน คนไทยยังต้อง “แสวงหา”ทางออกอยู่มิขาด อันเป็นที่มาของเหตุการณ์ “14 ตุลา 16” ที่ต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งรัฐธรรมนูญ และวันนี้ที่ต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่ง “การเมืองใหม่”

อีกนัยหนึ่ง การเมืองใหม่ คือประตูสู่การสร้างทุกสิ่งทุกอย่างที่ดีๆ ให้เกิดขึ้นกับประเทศไทยและคนไทยทั้งชาติ การสร้างการเมืองใหม่จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งยวดสำหรับการพลิกประวัติศาสตร์ชาติไทย ให้พ้นจากหน้าเดิมที่ล้าหลังยากจน ไปสู่หน้าใหม่ที่เรืองรองผ่องแผ้ว

ณ วันนี้ พวกเราชาวไทยทุกเชื้อสาย ทุกศาสนา ทุกสาขาอาชีพ ทุกเพศวัย จึงต้องช่วยกันสร้างการเมืองใหม่ให้สำเร็จ ก้าวให้พ้นไปจากยุคแสวงหา แล้วก้มหน้าก้มตาทำทุกสิ่งทุกอย่างให้ประชาชนคนไทยดีขึ้นในทุกๆ ด้าน

2. “ตัวแปร” ที่จะทำให้การเมืองใหม่ปรากฏเป็นจริง มีดังนี้

2.1 นักการเมืองใหม่ คุณสมบัติร่วมกันของนักการเมืองใหม่ คือความเป็นผู้เสียสละ พร้อมอุทิศตัวให้กับการแก้ไขปัญหาและพัฒนาประเทศชาติอย่างไม่มีเงื่อนไข โดยไม่คิดที่จะแสวงประโยชน์ส่วนตนแม้แต่น้อย

2.2 รัฐบาลใหม่ ประกอบด้วยนักการเมืองใหม่ที่มีคุณสมบัติพร้อมทั้งทางด้านความรู้ความสามารถ ประสบการณ์และผลงานที่สังคมยอมรับ สามารถกำหนดแนวทางนโยบายพัฒนาประเทศไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง ยังประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศชาติและประชาชนตั้งแต่ต้นจนปลาย

2.3 สภาใหม่ ประกอบด้วยสมาชิกสภาที่ได้มาจากกระบวนการเลือกตั้งที่มีความเป็นประชาธิปไตย สะท้อนความเรียกร้องต้องการของประชาชนส่วนใหญ่อย่างแท้จริง สามารถดำเนินกิจกรรมทางด้านสภาฯ ทั้งด้านนิติบัญญัติและติดตามตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล

2.4 ศาลใหม่ ศาลสถิตยุติธรรม จักต้องดำรงความยุติธรรมสูงสุดอย่างเที่ยงธรรมที่สุด ปลอดพ้นจากอำนาจอามิสสินจ้างอย่างสิ้นเชิง โดยยึดมั่นในผลประโยชน์ของชาติและประชาชนอย่างถึงที่สุด ประกันให้ประเทศไทยพัฒนาสู่ความเป็นนิติรัฐ และสามารถปัดเป่าความเดือดร้อนของชาวบ้านตาดำๆ มิให้ตกอยู่ในวังวนของความขัดแย้งอันอาจจะเกิดขึ้นอย่างทันท่วงที

2.5 ข้าราชการใหม่ เป็นผู้รับใช้ประชาชนอย่างแท้จริง พ้นจากความเป็นเจ้านายอย่างแท้จริง

2.6 ระบบ- กลไกรัฐใหม่ เป็นโครงสร้างใหม่ที่พัฒนาไปพร้อมๆ กับความเจริญก้าวหน้าของประเทศและความเรียกร้องต้องการของประชาชน ทั้งทางด้านทหารและพลเรือน โดยเน้นการพัฒนาทางด้านคุณภาพเป็นหลัก กะทัดรัดแต่ทรงประสิทธิภาพ

2.7 สื่อใหม่ เป็นสื่อยุคใหม่ที่ถือเอาปัญญาของประชาชนเป็นฐาน ประกอบไปด้วยสื่อรัฐและสื่อเอกชน สื่อรัฐเน้นเรื่องการนำเสนอปรัชญาและแนวทางการพัฒนาประเทศ เป็นคู่คิดของประชาชนในด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิต ยกระดับคุณค่าของความเป็นพลเมืองดี ส่วนสื่อเอกชนยังแบ่งออกเป็นสื่อชุมชนหรือสื่อส่วนรวม สะท้อนความเรียกร้องต้องการของชุมชนและส่วนรวมในแต่ละระดับหรือประเภท เช่น เกษตร อุตสาหกรรม บริการ ฯลฯ

สำหรับสื่อเอกชนที่มุ่งแข่งขันทางการค้า ก็สามารถบริหารจัดการไปตามสภาวะตลาดได้อย่างเต็มที่ ในกรอบกติกาของกลไกสื่อที่จัดตั้งกันขึ้นมาเอง โดยปลอดจากการแทรกแซงใดๆ ของเจ้าหน้าที่

2.8 สำนึกใหม่ เป็นผลึกทางปัญญาที่ซึมซ่านไปทั่วทั้งสังคมไทย เป็นผลพวงของการพัฒนาประเทศทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม การศึกษา วิทยาศาสตร์ วัฒนธรรม ฯลฯ โดยเฉพาะคือจากการดำเนินชีวิตประจำวันของประชาชนชาวไทยในทุกระดับชั้นของสังคม รวมทั้งการติดต่อเชื่อมโยงกับชาวโลกแบบไร้พรมแดน ในโครงสร้างของกระแสโลกาภิวัตน์

2.9 ค่านิยมใหม่ เป็นสำนึกแห่งคุณค่าร่วมกันของประชาชนชาวไทย เช่น ความรักชาติ รักส่วนรวม รักความเป็นธรรม รักการทำงาน รักการเรียนรู้ พร้อมทำการแข่งขันช่วงชิงชัยชนะ รู้จักเสียสละ รู้จักแก้ปัญหา รู้จักผ่อนปรน รู้จักยอม ฯลฯ

ฯลฯ

3. ทำอะไร? ทำอย่างไร ?

3.1 จักต้องดำเนินการพัฒนาประเทศไปตามหลักปรัชญา “พอเพียง” นั่นคือ พัฒนาไปตามสภาวะที่เป็นไปได้ โดยไม่ต้องแบกภาระจนเกินตัว ทุกอย่างตั้งอยู่บนฐานของประเทศไทยเอง ใช้ปัจจัยทุกอย่างที่มีอยู่ให้เป็นประโยชน์สูงสุด เน้นการพึ่งลำแข้งตนเอง เสริมด้วยปัจจัยภายนอก โดยเลือกใช้ในสิ่งที่จำเป็นสูงสุดก่อนเสมอ

3.2 เปิดกว้างรับภูมิปัญญามวลมนุษยชาติในการพัฒนาคุณค่าชีวิตของคนไทยให้ดีขึ้นเรื่อยๆ โดยการสร้างเงื่อนไขรองรับทางด้านต่างๆ ที่จำเป็น ดังนี้

3.2.1 เศรษฐกิจดี เป็นฐานทางวัตถุของการพัฒนาประเทศให้เจริญรุ่งเรือง และก้าวหน้าอย่างรอบด้าน

3.2.2 สังคมดี มีความสงบร่มเย็น ควรค่าแก่การดำเนินชีวิตอย่างยิ่ง

3.2.3 ธรรมชาติดี ทรงไว้ซึ่งความอุดมสมบูรณ์ และความหลากหลายทางชีวภาพสูงสุด

3.2.4 วัฒนธรรมดี แสดงออกที่คน หลักๆ คือสีหน้า รอยยิ้ม คุณภาพของจิตใจ คุณธรรมประจำตัว เช่น ความซื่อสัตย์ ขยันขันแข็ง กล้าหาญชาญชัย มีระเบียบวินัย กิริยามารยาทงาม บุคลิกดี คล่องแคล่วว่องไว เป็นต้น ทั้งหมดนี้จะทำให้สภาพแวดล้อมทางสังคมมีแต่ความเจริญหูเจริญตา เป็นที่ยินดีของผู้พบเห็นและรู้จัก

3.2.5 การศึกษาดี คนไทยมีการศึกษาดี มีความรู้รอบด้าน ระบบการศึกษามุ่งยกระดับคุณภาพของความเป็นมนุษย์ มีการเผยแพร่ความรู้ผ่านสื่อต่างๆ อย่างหลากหลายตลอดเวลา ให้การเรียนรู้ศึกษาเป็นวิถีชีวิตของประชาชนชาวไทยอย่างแท้จริง

ฯลฯ
กำลังโหลดความคิดเห็น