บรรดาเพื่อนผมซึ่งไม่ค่อยสนใจการเมืองเพียงแต่รู้สึกเป็นห่วง และเห็นใจกับพวกพันธมิตรฯ ได้โทรศัพท์มาถามผมอยู่ 4-5 คน ว่า มันเกิดอะไรขึ้น ที่รัฐบาลนายสมชายหน้าจืดจึงตัดสินใจเข้าจับกุมแกนนำคนสำคัญไปแล้วถึง 2 คน
ผมเองก็ยังตอบเขาทันทีไม่ได้ เลยบอกว่าอย่าให้ตอบทีละคนเลยไปกินข้าวบ้านเพื่อนที่หมู่บ้านเพอร์เฟค แล้วชวนทั้ง 5 คนมาด้วย ผมจะไปหาข้อมูลให้ ก็นัดกันอีก 2-3 วันนี้
แล้วก็ได้เรื่อง เพราะมีผู้ใหญ่อีกคนที่อ้างว่า มีคนที่ใกล้ชิดกับเมียนายกฯ คนที่รูปร่างหน้าตาเหมือนซาลาเปาหมูสับไข่เค็มคนนั้นน่ะบอกว่า เหตุที่ต้องจัดการก็เพราะได้คุยกับทางลอนดอนว่า ทางโน้นกำลังจะลี้ภัยและก็จะมีเหตุว่าสถานการณ์ในไทยนั้นจะรุนแรงถึงขั้นนองเลือด
ผมก็ตกใจ ผู้ใหญ่คนนี้ก็บอกว่า ยัยซาลาเปาก็เวอร์ เพราะว่าตัวสามีนั้นแกมีไม้เด็ด
แล้วบอกว่าให้ลองคิดดูแล้วกัน ว่าก่อนจับรายแรกนั้นสมชายแกไปพบใคร
ก็ไปพบป๋าเปรมใช่ไหม?
เออจริงนะ
ผมก็เลยอนุมานเอาว่าสมชายตั้งใจไปพูดแค่เรื่องเดียวเท่านั้นแหละ คือปัญหาพันธมิตรฯ นี่แหละไม่ใช่เรื่องเศรษฐกิจหรือเรื่องสัพเพเหระ
และผมก็เชื่อว่าตัวประธานองคมนตรีนั้น คงไม่ได้ให้ไฟเขียว ไม่ได้แบ่งรับแบ่งสู้ คงคอยฟังนายหน้าจืดที่ส้มหล่นได้เป็นนายกฯ เพราะเกี่ยวดองเป็นญาติกับอดีตนายกฯ ทักษิณ
ตามโพยของยัยซาลาเปาหมูสับไข่เค็มนั้น สมชายได้บอกป๋าทำนองว่า (อาจไม่ได้เล่าหมด) จะแก้ปัญหาอย่างบัวไม่ช้ำ น้ำไม่ขุ่น จะทำกันตามกฎหมายเคร่งครัด จะไม่ใช้กำลัง และจะให้กระบวนการยุติธรรมทำงานแบบอิสระโดยรัฐบาลจะไม่แทรกแซง
ส่วนป๋าเปรมก็คงฟัง พยักหน้ารับเป็นครั้งคราว
แต่ไม่ใช่ว่าเห็นด้วย
และไอ้หน้าจืดก็ไม่ได้บอกว่าจะมีการจับกุมแกนนำด้วย
ยัยซาลาเปานี่เล่าให้คนที่รับฟังหลังมีการจับจำลองไปแล้ว โดยบอกว่าคนวางแผนคือจำลองคนเดียว และมี จปร.7 เข้าใจว่าคงเป็นพัลลภ ปิ่นมณี คอยวางกลยุทธ์ เพียงแต่คุณพัลลภบอกให้ใช้เกมรุก
ถ้าเป็นอย่างยัยซาลาเปาว่า การเข้าปิดล้อมสภาฯ ก็คงเข้าล็อกตามที่ยัยนี่ว่าพอดี
เท็จจริงอย่างไรผมไม่ทราบ คนที่มาเล่าให้ฟัง ผมก็ไม่ได้สนิทสนมด้วย แต่เป็นขาเมาท์และก็ไม่ใช่คอการเมือง คงจะไม่ฝอยฟุ้งหรือต่อเติมเป็นแค่ไฮโซมีระดับบ้างเท่านั้น
เอาเป็นว่าพอรับฟังไว้ก่อน แล้วกันนะครับ
คราวนี้เป็นการวิเคราะห์ต่อเนื่องจากผลที่เกิดขึ้นหลังเกิดการจับกุม
ก็เป็นไปตามคาดละครับ
มีการเคลื่อนไหวในทุกจังหวัดที่มีพันธมิตรฯ และทุกจังหวัดส่งคนลงมา กทม.เป็นการเสริมกำลัง
พันธมิตรฯ โดยสนธิ ยังย้ำว่า นี่เป็นการล้อมสภาฯ ไม่ใช่บุกสภาฯ และใช้วิธีแบบอหิงสานะ
นักวิชาการหลายคน รวมทั้งนายโต้งเพื่อนผมเองก็บอกว่าเป็นการโหมไฟให้แรงขึ้น
มีอยู่ประเด็นหนึ่งที่เพื่อนๆ งงกันมากก็คือ ไหนบิ๊กจิ๋วบอกว่าจะสมานฉันท์มีการส่งคนไปพบกับพลตรีจำลอง เป็นการเปิดทางดีแล้ว แต่ทำไม เกมมันพลิกหน้ามือเป็นสนเท้าได้ถึงเพียงนี้
เรื่องนี้ บิ๊กจิ๋วไม่แจ๋ว เพราะเขาคุยกับป๋าก่อนจิ๋วจะมาร่วมรัฐบาล
แถมเขาวางแผนกันที่ลอนดอนโดยมีพวกอดีตนายกฯ
(ไม่รู้ว่าใคร) บินไปร่วมวางแผนด้วย
บางฝ่ายเสนอว่าควรจับทีเดียวทั้งหมด
แต่สมชายปอดแหกให้จับทีละคนคอยดูว่าเกิดอะไรบ้างในแต่ละคน
คือ ค่อยๆ จับ จากน้อยไปมาก จะได้ไม่ต้องเกิดปัญหา
แต่พวกที่อยากให้จับหมด บอกว่ามันมีผลเท่ากัน
มันก็ตกลงกันไม่ได้ แม้วลอนดอนเลยบอกว่า สมชายมันเป็นนายกฯ เอาตามมันก็แล้วกัน
คราวนี้เกมก็พลิกเพราะว่าพันธมิตรฯ ไปที่สภาฯ เมื่อแถลงนโยบายไม่ได้ก็ยังใช้นโยบายไม่ได้
เท่ากับบริหารประเทศไม่ได้
คือรักษาการไปพลางก่อน แต่จะทำอะไรนอกขอบเขตไม่ได้
ปัญหาเมื่อเกิดขึ้น รัฐบาลก็อาจต้องใช้ไม้แข็ง เช่น ยิงแก๊สน้ำตาเพื่อสลายการชุมนุม
ซึ่งตำรวจมันโง่จริงๆ แค่นี้มันสลายไม่ได้
ครั้นจะทุบตีมวลชนก็จะลุกลามกลายเป็นการต่อสู้กันกลางเมือง และจะเจ็บตัวกันระนาว
เท่ากับเสร็จและเข้าล็อกให้เหตุการณ์บานปลาย
รัฐบาลก็จะจบเร็วขึ้น
ผมเองก็ยังตอบเขาทันทีไม่ได้ เลยบอกว่าอย่าให้ตอบทีละคนเลยไปกินข้าวบ้านเพื่อนที่หมู่บ้านเพอร์เฟค แล้วชวนทั้ง 5 คนมาด้วย ผมจะไปหาข้อมูลให้ ก็นัดกันอีก 2-3 วันนี้
แล้วก็ได้เรื่อง เพราะมีผู้ใหญ่อีกคนที่อ้างว่า มีคนที่ใกล้ชิดกับเมียนายกฯ คนที่รูปร่างหน้าตาเหมือนซาลาเปาหมูสับไข่เค็มคนนั้นน่ะบอกว่า เหตุที่ต้องจัดการก็เพราะได้คุยกับทางลอนดอนว่า ทางโน้นกำลังจะลี้ภัยและก็จะมีเหตุว่าสถานการณ์ในไทยนั้นจะรุนแรงถึงขั้นนองเลือด
ผมก็ตกใจ ผู้ใหญ่คนนี้ก็บอกว่า ยัยซาลาเปาก็เวอร์ เพราะว่าตัวสามีนั้นแกมีไม้เด็ด
แล้วบอกว่าให้ลองคิดดูแล้วกัน ว่าก่อนจับรายแรกนั้นสมชายแกไปพบใคร
ก็ไปพบป๋าเปรมใช่ไหม?
เออจริงนะ
ผมก็เลยอนุมานเอาว่าสมชายตั้งใจไปพูดแค่เรื่องเดียวเท่านั้นแหละ คือปัญหาพันธมิตรฯ นี่แหละไม่ใช่เรื่องเศรษฐกิจหรือเรื่องสัพเพเหระ
และผมก็เชื่อว่าตัวประธานองคมนตรีนั้น คงไม่ได้ให้ไฟเขียว ไม่ได้แบ่งรับแบ่งสู้ คงคอยฟังนายหน้าจืดที่ส้มหล่นได้เป็นนายกฯ เพราะเกี่ยวดองเป็นญาติกับอดีตนายกฯ ทักษิณ
ตามโพยของยัยซาลาเปาหมูสับไข่เค็มนั้น สมชายได้บอกป๋าทำนองว่า (อาจไม่ได้เล่าหมด) จะแก้ปัญหาอย่างบัวไม่ช้ำ น้ำไม่ขุ่น จะทำกันตามกฎหมายเคร่งครัด จะไม่ใช้กำลัง และจะให้กระบวนการยุติธรรมทำงานแบบอิสระโดยรัฐบาลจะไม่แทรกแซง
ส่วนป๋าเปรมก็คงฟัง พยักหน้ารับเป็นครั้งคราว
แต่ไม่ใช่ว่าเห็นด้วย
และไอ้หน้าจืดก็ไม่ได้บอกว่าจะมีการจับกุมแกนนำด้วย
ยัยซาลาเปานี่เล่าให้คนที่รับฟังหลังมีการจับจำลองไปแล้ว โดยบอกว่าคนวางแผนคือจำลองคนเดียว และมี จปร.7 เข้าใจว่าคงเป็นพัลลภ ปิ่นมณี คอยวางกลยุทธ์ เพียงแต่คุณพัลลภบอกให้ใช้เกมรุก
ถ้าเป็นอย่างยัยซาลาเปาว่า การเข้าปิดล้อมสภาฯ ก็คงเข้าล็อกตามที่ยัยนี่ว่าพอดี
เท็จจริงอย่างไรผมไม่ทราบ คนที่มาเล่าให้ฟัง ผมก็ไม่ได้สนิทสนมด้วย แต่เป็นขาเมาท์และก็ไม่ใช่คอการเมือง คงจะไม่ฝอยฟุ้งหรือต่อเติมเป็นแค่ไฮโซมีระดับบ้างเท่านั้น
เอาเป็นว่าพอรับฟังไว้ก่อน แล้วกันนะครับ
คราวนี้เป็นการวิเคราะห์ต่อเนื่องจากผลที่เกิดขึ้นหลังเกิดการจับกุม
ก็เป็นไปตามคาดละครับ
มีการเคลื่อนไหวในทุกจังหวัดที่มีพันธมิตรฯ และทุกจังหวัดส่งคนลงมา กทม.เป็นการเสริมกำลัง
พันธมิตรฯ โดยสนธิ ยังย้ำว่า นี่เป็นการล้อมสภาฯ ไม่ใช่บุกสภาฯ และใช้วิธีแบบอหิงสานะ
นักวิชาการหลายคน รวมทั้งนายโต้งเพื่อนผมเองก็บอกว่าเป็นการโหมไฟให้แรงขึ้น
มีอยู่ประเด็นหนึ่งที่เพื่อนๆ งงกันมากก็คือ ไหนบิ๊กจิ๋วบอกว่าจะสมานฉันท์มีการส่งคนไปพบกับพลตรีจำลอง เป็นการเปิดทางดีแล้ว แต่ทำไม เกมมันพลิกหน้ามือเป็นสนเท้าได้ถึงเพียงนี้
เรื่องนี้ บิ๊กจิ๋วไม่แจ๋ว เพราะเขาคุยกับป๋าก่อนจิ๋วจะมาร่วมรัฐบาล
แถมเขาวางแผนกันที่ลอนดอนโดยมีพวกอดีตนายกฯ
(ไม่รู้ว่าใคร) บินไปร่วมวางแผนด้วย
บางฝ่ายเสนอว่าควรจับทีเดียวทั้งหมด
แต่สมชายปอดแหกให้จับทีละคนคอยดูว่าเกิดอะไรบ้างในแต่ละคน
คือ ค่อยๆ จับ จากน้อยไปมาก จะได้ไม่ต้องเกิดปัญหา
แต่พวกที่อยากให้จับหมด บอกว่ามันมีผลเท่ากัน
มันก็ตกลงกันไม่ได้ แม้วลอนดอนเลยบอกว่า สมชายมันเป็นนายกฯ เอาตามมันก็แล้วกัน
คราวนี้เกมก็พลิกเพราะว่าพันธมิตรฯ ไปที่สภาฯ เมื่อแถลงนโยบายไม่ได้ก็ยังใช้นโยบายไม่ได้
เท่ากับบริหารประเทศไม่ได้
คือรักษาการไปพลางก่อน แต่จะทำอะไรนอกขอบเขตไม่ได้
ปัญหาเมื่อเกิดขึ้น รัฐบาลก็อาจต้องใช้ไม้แข็ง เช่น ยิงแก๊สน้ำตาเพื่อสลายการชุมนุม
ซึ่งตำรวจมันโง่จริงๆ แค่นี้มันสลายไม่ได้
ครั้นจะทุบตีมวลชนก็จะลุกลามกลายเป็นการต่อสู้กันกลางเมือง และจะเจ็บตัวกันระนาว
เท่ากับเสร็จและเข้าล็อกให้เหตุการณ์บานปลาย
รัฐบาลก็จะจบเร็วขึ้น