เดลิเมล์ - เช่นเดียวกับเจ้าของแมวนับล้าน ไม่มีอะไรที่จีน เคลลี รักมากไปกว่าเสียงร้องเหมียวๆ ขณะน้องแมวนอนเคล้าเคลียอยู่แทบเท้าอีกแล้ว
ด้วยเหตุนี้ เมื่อจู่ๆ แคดบิวรีไม่มีเสียง จีนจึงไม่รั้งรอที่จะอุ้มเจ้าแมวเหมียวไปหาสัตวแพทย์ ซึ่งจบลงด้วยบิลล์เรียกเก็บเงินเบ็ดเสร็จ 10,000 ปอนด์ (600,000 บาท) เป็นค่ารักษาพยาบาลเพื่อให้เสียงเหมียวๆ กลับมาอีกครั้ง
ทั้งนี้ สัตวแพทย์บอกว่าอาการของแคดบิวรีเกิดจากกล่องเสียงเป็นอัมพาต ซึ่งไม่พบบ่อยนัก และจำเป็นต้องผ่าตัดทันที
“ปกติแคดบิวรีจะค่อนข้างเงียบ แต่ปัญหาเกิดขึ้นเมื่อฉันสังเกตว่าเขาไม่ร้องเหมียวๆ หายใจทางปาก และทำเสียงแปลกๆ เหมือนอุโมงค์ลม ฉันจึงตัดสินใจพาไปหาสัตวแพทย์ ซึ่งบอกว่าแคดบิวรีต้องผ่าตัดฉุกเฉิน ถ้าปล่อยทิ้งไว้อาจตายได้ สัตวแพทย์ห่วงว่าเขามีอาการลิ้นหัวใจผิดปกติ แต่ในที่สุดก็ตัดสินใจผ่าตัด” จีน ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์วัย 40 ปี เล่า
อาการกล่องเสียงเป็นอัมพาตทำให้ลำคอของแคดบิวรีตีบ สัตวแพทย์ต้องผ่าตัดแมวเหมียวที่น่าสงสารสองครั้งที่ด้านหลังของกล่องเสียงที่บวมเป่ง เพื่อให้มันหายใจได้เหมือนเดิม หมดค่าผ่าตัดทั้งสิ้น 5,000 ปอนด์ (300,000 บาท)
สัตวแพทย์ยังต้องให้แคดบิวรีอยู่ในกระโจมออกซิเจนนานหกวัน และพักต่อในห้องไอซียูอีกหลายวัน รวมแล้วเจ้าเหมียวต้องอยู่กับหมอสี่เดือน ระหว่างนั้นมีการรักษาอาการไทรอยด์ที่เพิ่งตรวจพบด้วย ทำให้จีนต้องจ่ายเพิ่มอีก 4,000 ปอนด์ (240,000 บาท) ไม่รวมค่าตรวจรักษาเพื่อติดตามอาการอีก 1,000 ปอนด์ (60,000 บาท)
ตอนนี้ แคดบิวรีที่อายุได้ 13 ปีกลับบ้านในบักกิ้งแฮมเชียร์ อังกฤษ เรียบร้อย และกลับมาเอร็ดอร่อยกับทูนาจานโปรดได้ตามปกติ รวมถึงร้องเหมียวๆ อย่างมีความสุข
จีนบอกว่า บริษัทประกันเพ็ตแพลนรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาล 6,000 ปอนด์ ที่เหลืออีก 4,000 ปอนด์ เธอจ่ายเอง ซึ่งทำให้เธอต้องยกเลิกแผนเที่ยวนามิเบียโดยปริยาย
“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับฉันเลย แต่เกี่ยวกับแคดบิวรีและคุณภาพชีวิตของเขามากกว่า ฉันรู้เขาไม่ใช่ลูกแมวแล้ว แต่ฉันอยากให้โอกาสเขาสู้ต่อ
“แคดบิวรีมาอยู่กับฉันตอนที่เขาอายุ 5 เดือน เขาตามน้องสาวฉันกลับบ้านในคืนหนึ่ง รู้เลยว่าเป็นแมวจรจัด แต่น้องสาวฉันไม่มีเวลา ฉันเลยอาสาดูแลให้หนึ่งสัปดาห์
“ตอนนั้นแคดบิวรีผอมอย่างไม่น่าเชื่อ และมีปลอกขอสีขาวรัดแน่นจนเกือบสำลัก ฉันเลยถอดออกให้
“ฉันหลงรักเขาทันที แคดบิวรีชอบนอนอาบแดดในเรือนเพาะชำ และนั่งหน้าบ้านรอนักเรียนเลิกเรียน ครั้งหนึ่งฉันเห็นมือน้อยๆ 8 ข้างลูบไล้อยู่บนตัวเขาพร้อมๆ กัน เพลินเขาล่ะ”
ด้วยเหตุนี้ เมื่อจู่ๆ แคดบิวรีไม่มีเสียง จีนจึงไม่รั้งรอที่จะอุ้มเจ้าแมวเหมียวไปหาสัตวแพทย์ ซึ่งจบลงด้วยบิลล์เรียกเก็บเงินเบ็ดเสร็จ 10,000 ปอนด์ (600,000 บาท) เป็นค่ารักษาพยาบาลเพื่อให้เสียงเหมียวๆ กลับมาอีกครั้ง
ทั้งนี้ สัตวแพทย์บอกว่าอาการของแคดบิวรีเกิดจากกล่องเสียงเป็นอัมพาต ซึ่งไม่พบบ่อยนัก และจำเป็นต้องผ่าตัดทันที
“ปกติแคดบิวรีจะค่อนข้างเงียบ แต่ปัญหาเกิดขึ้นเมื่อฉันสังเกตว่าเขาไม่ร้องเหมียวๆ หายใจทางปาก และทำเสียงแปลกๆ เหมือนอุโมงค์ลม ฉันจึงตัดสินใจพาไปหาสัตวแพทย์ ซึ่งบอกว่าแคดบิวรีต้องผ่าตัดฉุกเฉิน ถ้าปล่อยทิ้งไว้อาจตายได้ สัตวแพทย์ห่วงว่าเขามีอาการลิ้นหัวใจผิดปกติ แต่ในที่สุดก็ตัดสินใจผ่าตัด” จีน ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์วัย 40 ปี เล่า
อาการกล่องเสียงเป็นอัมพาตทำให้ลำคอของแคดบิวรีตีบ สัตวแพทย์ต้องผ่าตัดแมวเหมียวที่น่าสงสารสองครั้งที่ด้านหลังของกล่องเสียงที่บวมเป่ง เพื่อให้มันหายใจได้เหมือนเดิม หมดค่าผ่าตัดทั้งสิ้น 5,000 ปอนด์ (300,000 บาท)
สัตวแพทย์ยังต้องให้แคดบิวรีอยู่ในกระโจมออกซิเจนนานหกวัน และพักต่อในห้องไอซียูอีกหลายวัน รวมแล้วเจ้าเหมียวต้องอยู่กับหมอสี่เดือน ระหว่างนั้นมีการรักษาอาการไทรอยด์ที่เพิ่งตรวจพบด้วย ทำให้จีนต้องจ่ายเพิ่มอีก 4,000 ปอนด์ (240,000 บาท) ไม่รวมค่าตรวจรักษาเพื่อติดตามอาการอีก 1,000 ปอนด์ (60,000 บาท)
ตอนนี้ แคดบิวรีที่อายุได้ 13 ปีกลับบ้านในบักกิ้งแฮมเชียร์ อังกฤษ เรียบร้อย และกลับมาเอร็ดอร่อยกับทูนาจานโปรดได้ตามปกติ รวมถึงร้องเหมียวๆ อย่างมีความสุข
จีนบอกว่า บริษัทประกันเพ็ตแพลนรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาล 6,000 ปอนด์ ที่เหลืออีก 4,000 ปอนด์ เธอจ่ายเอง ซึ่งทำให้เธอต้องยกเลิกแผนเที่ยวนามิเบียโดยปริยาย
“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับฉันเลย แต่เกี่ยวกับแคดบิวรีและคุณภาพชีวิตของเขามากกว่า ฉันรู้เขาไม่ใช่ลูกแมวแล้ว แต่ฉันอยากให้โอกาสเขาสู้ต่อ
“แคดบิวรีมาอยู่กับฉันตอนที่เขาอายุ 5 เดือน เขาตามน้องสาวฉันกลับบ้านในคืนหนึ่ง รู้เลยว่าเป็นแมวจรจัด แต่น้องสาวฉันไม่มีเวลา ฉันเลยอาสาดูแลให้หนึ่งสัปดาห์
“ตอนนั้นแคดบิวรีผอมอย่างไม่น่าเชื่อ และมีปลอกขอสีขาวรัดแน่นจนเกือบสำลัก ฉันเลยถอดออกให้
“ฉันหลงรักเขาทันที แคดบิวรีชอบนอนอาบแดดในเรือนเพาะชำ และนั่งหน้าบ้านรอนักเรียนเลิกเรียน ครั้งหนึ่งฉันเห็นมือน้อยๆ 8 ข้างลูบไล้อยู่บนตัวเขาพร้อมๆ กัน เพลินเขาล่ะ”
