.
รัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ชุดนี้เป็นรัฐบาล 2 หน้า
รัฐบาลตี 2 หน้า !
หน้าหนึ่ง – พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธส่ง “เสธ.หมึก” นักเรียนจปร.รุ่น 7 มาคุยกับพล.ต.จำลอง ศรีเมือง โดยก่อนหน้านั้นได้โทรศัพท์คุยกันหลายครั้ง บรรยากาศดีขึ้นเรื่อย ๆ หลังอภิปรายนโยบายรัฐบาลเสร็จในสัปดาห์นี้ก็น่าจะได้มีการคุยกับแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยทั้งหมดอย่างเป็นงานเป็นการ
อีกหน้าหนึ่ง – เจ้าหน้าที่ตำรวจซุ่มจับคุณไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ที่บ้านพัก และจับพล.ต.จำลอง ศรีเมืองขณะไปใช้สิทธิเลือกตั้งในอีก 2 วันถัดมา
หน้าหนึ่ง – ทำทีทำท่าเป็นเห็นด้วยกับการปฏิรูปการเมือง จัดประชุม 4 ฝ่าย เสนอรูปแบบสภาร่างรัฐธรรมนูญผ่านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 มาตราเดียวคือมาตรา 291 โดยจะให้ประชาชนมีส่วนร่วมเต็มที่ รัฐบาลไม่เข้ามายุ่งเกี่ยว
อีกหน้าหนึ่ง – บรรจุร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมฉบับหมอเหวง โตจิราการเข้าสู่วาระการประชุมของรัฐสภาในวันที่ 6 ตุลาคม 2551 นี้โดยเป็นเรื่องด่วนที่ 3 ถัดจากวาระรัฐบาลแถลงนโยบาย
รัฐบาลพูดได้แก้ตัวได้ครับว่าไม่เกี่ยวข้องกัน และไม่ได้เป็นแผน
พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธก็พูดได้เช่นกันว่าไม่รู้เรื่อง และรู้สึกตกใจ อย่างที่โทรศัพท์มา “เคลียร์” กับแกนนำพันธมิตรฯ
แต่ใครจะเชื่อ ?
หรือถ้าจะมีคนเชื่อ ก็ต้องตั้งคำถามต่อไปว่าการที่รัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์กุมสภาพยุทธศาสตร์สำคัญในการบริหารบ้านเมืองไม่ได้ ปล่อยให้คนหนึ่งใช้มือพาย อีกคนเอาตีนราน้ำ คนหนึ่งมุ่งเจรจา อีกคนทำลายบรรยากาศการเจรจาและเสริมสร้างบรรยากาศที่จะนำไปสู่ความรุนแรง สมควรจะได้รับความไว้วางใจให้บริหารชาติบ้านเมืองต่อไปอีกหรือ
หรือว่าจริง ๆ แล้ว คนในรัฐบาลชุดนี้บางคนเป็น “แกนนำคนที่ 6” ของพันธมิตรฯ ?
เพราะหลายครั้งแล้วเวลาพันธมิตรฯเริ่ม “หมดมุก” พี่ทั่นก็ช่วยออกมาพูดมากระทำการ “เรียกแขก” ให้กลับมาแน่นขนัดทุกที !!
พล.ต.จำลอง ศรีเมืองเคยถูกจับอย่างนี้ครั้งหนึ่งเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2535 โดยความคิดโง่ ๆ ของรัฐบาลในขณะนั้นว่าจะสยบการเคลื่อนไหวของภาคประชาชนได้ แล้วผลเป็นอย่างไรรู้กันแล้วใช่ไหม
ผู้คนหลั่งไหลมาจากทั่วสารทิศในอีก 3 - 4 ชั่วโมงถัดมา การต่อสู้ดุเดือดยิ่งขึ้น
จนเกิดจลาจลเลือดนองถนนราชดำเนินในคืนวันนั้น
สุดท้ายรัฐบาลโง่ ๆ ชุดนั้นก็กระเด็นออกจากทำเนียบในอีกสองสามวันต่อมา !
จริงอยู่ แม้สถานการณ์พื้นฐานจะแตกต่างออกไปบ้าง เพราะวันนี้ไม่ได้เป็นการต่อสู้กับเผด็จการทหาร หรือเผด็จการทหารหวังสืบทอดอำนาจผ่านรูปแบบประชาธิปไตย แต่ระยะเวลากว่า 130 วันที่พันธมิตรออกมาปักหลักกลางถนน ยึดทำเนียบ ถ่ายทอดสดผ่านโทรทัศน์วิทยุและอินเตอร์เน็ตไปทั่วโลกทุกนาที ได้เปิดโปงความไร้ประสิทธิภาพของระบอบการเมืองปัจจุบันจนเกิดเป็นความน่าเชื่อถือขึ้นมาในระดับสำคัญ ประกอบกับความเละเทะเลอะเทอะภายในระบอบการเมืองปัจจุบันที่เปลือยตัวเองออกมาอย่างล่อนจ้อนผ่านการแย่งชิงตำแหน่งในรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และได้รายชื่อคณะรัฐมนตรีออกมาน่าเกลียดน่าชังเหมือนเดิม สังคมจึงเริ่มพูดถึงสิ่งที่เรียกว่า “การเมืองใหม่” ตามพันธมิตรฯกันมากขึ้น
สถานการณ์ในขณะนี้จึงไม่น้อยหน้าไปกว่าหลังวันที่ 18 พฤษภาคม 2535 เท่าไรนัก !
หรือว่า “ตุลาคม 2551” จะต้องเป็นเดือนแห่งการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งเหมือน “ตุลาคม 2516” วันสองวันนี้เราจะได้เห็นทิศทาง !
พลังแห่ง “ม็อบ 3 G” ที่มี ASTV เป็นแกนหลักจะได้เปล่งประกายสูงสุดก็ครั้งนี้ !!
รัฐบาลชุดนี้ไม่ได้แค่โง่เหมือนรัฐบาลเมื่อเดือนพฤษภาคม 2535 แต่ยกระดับขึ้นไปถึงขั้น “โค – ตะ – ระ” โง่เลยทีเดียว
คุณไม่เคยรู้ตัวเลยว่ากำลังต่อสู้ทางการเมืองขั้นสูงสุดอยู่
จะมาอ้างแค่ว่าหมายจับยังมีผลอยู่ เมื่อผู้ต้องหาปรากฏตัว ก็ต้องจับกุม และร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมเมื่อตรวจสอบถูกต้องแล้ว ก็ต้องบรรจุเข้าระเบียบวาระ ไม่ได้เป็นเด็ดขาด
หมายจับออกมาตั้งแต่วันที่ 27 สิงหาคม 2551 ถ้าอ้างอย่างนั้น ก็ทำไมไม่บุกมาจับทุกคนที่ทำเนียบรัฐบาล หรือทุกที่ที่ทั้ง 9 คนเดินทางไปมาล่ะ ทำไมมาจับหลังวันที่ 1 ตุลาคม 2551 ที่คนบางคนขึ้นมาเป็นผบช.น.คนใหม่ในห้วงเวลาที่พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธกำลังทำคะแนนด้านการเจรจา ผบช.น.คนใหม่และมท. 1 อดีตผบ.ตร.หวังอะไร
ร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมก็เช่นกัน หมอเหวง โตจิราการยื่นมาตั้งแต่วันที่ 8 พฤษภาคม 2551 ตรวจสอบกันเป็นนานสองนาน ถ้าจะดึงจะรั้งไว้รอความชัดเจนของร่างฯแก้ไขมาตรา 291 ที่หวังจะให้กำเนิดส.ส.ร. 3 ขึ้นมาอีกสักหน่อย มันก็อยู่ในอำนาจของประธานรัฐสภาอยู่แล้ว ทำไมไม่ทำ
ถ้า “การข่าว” ดีจริงต้องรู้แล้วว่าสถานการณ์เปลี่ยนไปทันทีหลังจับกุมคุณไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ถ้าเป็นรัฐบาลที่สมควรเป็นรัฐบาล ควรสุมหัวกันวิเคราะห์สถานการณ์ กำหนดท่าทีที่เป็นเอกภาพ ใครนอกแถวต้องขอให้หยุดไว้ก่อน ก็น่าจะพอรับมือได้
อย่างน้อยเมื่อ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง “เดินออกมาให้จับ” จะได้กำหนดท่าทีถูก !
ไม่ต้อง “เสียค่าโง่” อย่างที่เห็น !!
ผมพูดว่า “เสียค่าโง่” ก็เพราะตำรวจตั้งใจจะจับกุมแค่คุณไชวัฒน์ สินสุวงศ์ อาจจะเพื่อหยั่งท่าที ไม่ได้ตั้งใจจะจับปลาใหญ่ระดับแกนนำ แต่พล.ต.จำลอง ศรีเมืองเองต่างหากที่เป็น “สุดยอดนักยุทธวิธี” ตัดสินใจใช้อิสรภาพของตนเองเป็นอาวุธ “แก้เกม” การจุบกุมคุณไชยวัฒน์ สินสุวงศ์
เราจะได้เห็นว่าหมาก “แก้เกม” ตานี้ของ “วีรบุรุษแห่งสมรภูมิภูผาที” จะพลิกสถานการณ์ไปถึงขั้น “รุกฆาต” ได้เลยหรือไม่
พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธน่าจะคิดใหม่ได้แล้วครับ ในฐานะที่เคยรักกันชอบกันเคารพนับถือกัน ไม่อยากให้ท่านมาเสียหมาตอนวัยใกล้จะ 80 ท่านจะรับหน้าเจรจางานสำคัญ 3 งาน คือ งานพันธมิตรฯ, งาน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และงานชายแดนไทย-กัมพูชา ถ้ากลไกของรัฐบาลยัง “หลวม” และ “เละ” ไร้เอกภาพอย่างนี้ อย่าว่าแต่บิ๊กจิ๋วขงเบ้งทัพบกเลย นารายณ์อวตารลงมาเกิดยังไม่แน่ว่าจะแก้ได้หรือเปล่า
งานเจรจากับพันธมิตรฯฉิบหายไปแล้ว บิ๊กจิ๋วจะหวังอะไรกับอีก 2 งานที่เหลือ
เรื่องแก้กฎหมายอิสลามก็ถูกคัดค้านอย่างหนักไม่ใช่หรือ ?
สถานการณ์พัฒนาไปเร็วทุกชั่วโมงทุกนาที
นักรบมือตบทยอยขึ้นรถคันแล้วคันเล่ามาสมทบที่ทำเนียบรัฐบาล
แกนนำ 4 คนที่เหลือ – โดยเฉพาะคุณสนธิ ลิ้มทองกุล – จะ “ออกแบบ” นำพลังนักรบมือตบไปใช้อย่างไรในวันนี้พรุ่งนี้
ไม่ต้องรอนานเราก็จะได้เห็นพร้อมกัน !
รัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ชุดนี้เป็นรัฐบาล 2 หน้า
รัฐบาลตี 2 หน้า !
หน้าหนึ่ง – พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธส่ง “เสธ.หมึก” นักเรียนจปร.รุ่น 7 มาคุยกับพล.ต.จำลอง ศรีเมือง โดยก่อนหน้านั้นได้โทรศัพท์คุยกันหลายครั้ง บรรยากาศดีขึ้นเรื่อย ๆ หลังอภิปรายนโยบายรัฐบาลเสร็จในสัปดาห์นี้ก็น่าจะได้มีการคุยกับแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยทั้งหมดอย่างเป็นงานเป็นการ
อีกหน้าหนึ่ง – เจ้าหน้าที่ตำรวจซุ่มจับคุณไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ที่บ้านพัก และจับพล.ต.จำลอง ศรีเมืองขณะไปใช้สิทธิเลือกตั้งในอีก 2 วันถัดมา
หน้าหนึ่ง – ทำทีทำท่าเป็นเห็นด้วยกับการปฏิรูปการเมือง จัดประชุม 4 ฝ่าย เสนอรูปแบบสภาร่างรัฐธรรมนูญผ่านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 มาตราเดียวคือมาตรา 291 โดยจะให้ประชาชนมีส่วนร่วมเต็มที่ รัฐบาลไม่เข้ามายุ่งเกี่ยว
อีกหน้าหนึ่ง – บรรจุร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมฉบับหมอเหวง โตจิราการเข้าสู่วาระการประชุมของรัฐสภาในวันที่ 6 ตุลาคม 2551 นี้โดยเป็นเรื่องด่วนที่ 3 ถัดจากวาระรัฐบาลแถลงนโยบาย
รัฐบาลพูดได้แก้ตัวได้ครับว่าไม่เกี่ยวข้องกัน และไม่ได้เป็นแผน
พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธก็พูดได้เช่นกันว่าไม่รู้เรื่อง และรู้สึกตกใจ อย่างที่โทรศัพท์มา “เคลียร์” กับแกนนำพันธมิตรฯ
แต่ใครจะเชื่อ ?
หรือถ้าจะมีคนเชื่อ ก็ต้องตั้งคำถามต่อไปว่าการที่รัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์กุมสภาพยุทธศาสตร์สำคัญในการบริหารบ้านเมืองไม่ได้ ปล่อยให้คนหนึ่งใช้มือพาย อีกคนเอาตีนราน้ำ คนหนึ่งมุ่งเจรจา อีกคนทำลายบรรยากาศการเจรจาและเสริมสร้างบรรยากาศที่จะนำไปสู่ความรุนแรง สมควรจะได้รับความไว้วางใจให้บริหารชาติบ้านเมืองต่อไปอีกหรือ
หรือว่าจริง ๆ แล้ว คนในรัฐบาลชุดนี้บางคนเป็น “แกนนำคนที่ 6” ของพันธมิตรฯ ?
เพราะหลายครั้งแล้วเวลาพันธมิตรฯเริ่ม “หมดมุก” พี่ทั่นก็ช่วยออกมาพูดมากระทำการ “เรียกแขก” ให้กลับมาแน่นขนัดทุกที !!
พล.ต.จำลอง ศรีเมืองเคยถูกจับอย่างนี้ครั้งหนึ่งเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2535 โดยความคิดโง่ ๆ ของรัฐบาลในขณะนั้นว่าจะสยบการเคลื่อนไหวของภาคประชาชนได้ แล้วผลเป็นอย่างไรรู้กันแล้วใช่ไหม
ผู้คนหลั่งไหลมาจากทั่วสารทิศในอีก 3 - 4 ชั่วโมงถัดมา การต่อสู้ดุเดือดยิ่งขึ้น
จนเกิดจลาจลเลือดนองถนนราชดำเนินในคืนวันนั้น
สุดท้ายรัฐบาลโง่ ๆ ชุดนั้นก็กระเด็นออกจากทำเนียบในอีกสองสามวันต่อมา !
จริงอยู่ แม้สถานการณ์พื้นฐานจะแตกต่างออกไปบ้าง เพราะวันนี้ไม่ได้เป็นการต่อสู้กับเผด็จการทหาร หรือเผด็จการทหารหวังสืบทอดอำนาจผ่านรูปแบบประชาธิปไตย แต่ระยะเวลากว่า 130 วันที่พันธมิตรออกมาปักหลักกลางถนน ยึดทำเนียบ ถ่ายทอดสดผ่านโทรทัศน์วิทยุและอินเตอร์เน็ตไปทั่วโลกทุกนาที ได้เปิดโปงความไร้ประสิทธิภาพของระบอบการเมืองปัจจุบันจนเกิดเป็นความน่าเชื่อถือขึ้นมาในระดับสำคัญ ประกอบกับความเละเทะเลอะเทอะภายในระบอบการเมืองปัจจุบันที่เปลือยตัวเองออกมาอย่างล่อนจ้อนผ่านการแย่งชิงตำแหน่งในรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และได้รายชื่อคณะรัฐมนตรีออกมาน่าเกลียดน่าชังเหมือนเดิม สังคมจึงเริ่มพูดถึงสิ่งที่เรียกว่า “การเมืองใหม่” ตามพันธมิตรฯกันมากขึ้น
สถานการณ์ในขณะนี้จึงไม่น้อยหน้าไปกว่าหลังวันที่ 18 พฤษภาคม 2535 เท่าไรนัก !
หรือว่า “ตุลาคม 2551” จะต้องเป็นเดือนแห่งการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งเหมือน “ตุลาคม 2516” วันสองวันนี้เราจะได้เห็นทิศทาง !
พลังแห่ง “ม็อบ 3 G” ที่มี ASTV เป็นแกนหลักจะได้เปล่งประกายสูงสุดก็ครั้งนี้ !!
รัฐบาลชุดนี้ไม่ได้แค่โง่เหมือนรัฐบาลเมื่อเดือนพฤษภาคม 2535 แต่ยกระดับขึ้นไปถึงขั้น “โค – ตะ – ระ” โง่เลยทีเดียว
คุณไม่เคยรู้ตัวเลยว่ากำลังต่อสู้ทางการเมืองขั้นสูงสุดอยู่
จะมาอ้างแค่ว่าหมายจับยังมีผลอยู่ เมื่อผู้ต้องหาปรากฏตัว ก็ต้องจับกุม และร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมเมื่อตรวจสอบถูกต้องแล้ว ก็ต้องบรรจุเข้าระเบียบวาระ ไม่ได้เป็นเด็ดขาด
หมายจับออกมาตั้งแต่วันที่ 27 สิงหาคม 2551 ถ้าอ้างอย่างนั้น ก็ทำไมไม่บุกมาจับทุกคนที่ทำเนียบรัฐบาล หรือทุกที่ที่ทั้ง 9 คนเดินทางไปมาล่ะ ทำไมมาจับหลังวันที่ 1 ตุลาคม 2551 ที่คนบางคนขึ้นมาเป็นผบช.น.คนใหม่ในห้วงเวลาที่พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธกำลังทำคะแนนด้านการเจรจา ผบช.น.คนใหม่และมท. 1 อดีตผบ.ตร.หวังอะไร
ร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมก็เช่นกัน หมอเหวง โตจิราการยื่นมาตั้งแต่วันที่ 8 พฤษภาคม 2551 ตรวจสอบกันเป็นนานสองนาน ถ้าจะดึงจะรั้งไว้รอความชัดเจนของร่างฯแก้ไขมาตรา 291 ที่หวังจะให้กำเนิดส.ส.ร. 3 ขึ้นมาอีกสักหน่อย มันก็อยู่ในอำนาจของประธานรัฐสภาอยู่แล้ว ทำไมไม่ทำ
ถ้า “การข่าว” ดีจริงต้องรู้แล้วว่าสถานการณ์เปลี่ยนไปทันทีหลังจับกุมคุณไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ถ้าเป็นรัฐบาลที่สมควรเป็นรัฐบาล ควรสุมหัวกันวิเคราะห์สถานการณ์ กำหนดท่าทีที่เป็นเอกภาพ ใครนอกแถวต้องขอให้หยุดไว้ก่อน ก็น่าจะพอรับมือได้
อย่างน้อยเมื่อ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง “เดินออกมาให้จับ” จะได้กำหนดท่าทีถูก !
ไม่ต้อง “เสียค่าโง่” อย่างที่เห็น !!
ผมพูดว่า “เสียค่าโง่” ก็เพราะตำรวจตั้งใจจะจับกุมแค่คุณไชวัฒน์ สินสุวงศ์ อาจจะเพื่อหยั่งท่าที ไม่ได้ตั้งใจจะจับปลาใหญ่ระดับแกนนำ แต่พล.ต.จำลอง ศรีเมืองเองต่างหากที่เป็น “สุดยอดนักยุทธวิธี” ตัดสินใจใช้อิสรภาพของตนเองเป็นอาวุธ “แก้เกม” การจุบกุมคุณไชยวัฒน์ สินสุวงศ์
เราจะได้เห็นว่าหมาก “แก้เกม” ตานี้ของ “วีรบุรุษแห่งสมรภูมิภูผาที” จะพลิกสถานการณ์ไปถึงขั้น “รุกฆาต” ได้เลยหรือไม่
พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธน่าจะคิดใหม่ได้แล้วครับ ในฐานะที่เคยรักกันชอบกันเคารพนับถือกัน ไม่อยากให้ท่านมาเสียหมาตอนวัยใกล้จะ 80 ท่านจะรับหน้าเจรจางานสำคัญ 3 งาน คือ งานพันธมิตรฯ, งาน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และงานชายแดนไทย-กัมพูชา ถ้ากลไกของรัฐบาลยัง “หลวม” และ “เละ” ไร้เอกภาพอย่างนี้ อย่าว่าแต่บิ๊กจิ๋วขงเบ้งทัพบกเลย นารายณ์อวตารลงมาเกิดยังไม่แน่ว่าจะแก้ได้หรือเปล่า
งานเจรจากับพันธมิตรฯฉิบหายไปแล้ว บิ๊กจิ๋วจะหวังอะไรกับอีก 2 งานที่เหลือ
เรื่องแก้กฎหมายอิสลามก็ถูกคัดค้านอย่างหนักไม่ใช่หรือ ?
สถานการณ์พัฒนาไปเร็วทุกชั่วโมงทุกนาที
นักรบมือตบทยอยขึ้นรถคันแล้วคันเล่ามาสมทบที่ทำเนียบรัฐบาล
แกนนำ 4 คนที่เหลือ – โดยเฉพาะคุณสนธิ ลิ้มทองกุล – จะ “ออกแบบ” นำพลังนักรบมือตบไปใช้อย่างไรในวันนี้พรุ่งนี้
ไม่ต้องรอนานเราก็จะได้เห็นพร้อมกัน !