เอเอฟพี - แซราห์ แพลิน คู่ชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกัน ท้าทายพวกที่ชอบวิพากษ์วิจารณ์เธอ ด้วยการแสดงออกอย่างมั่นอกมั่นใจพร้อมกับนำเสนอภาพความเป็นชนชั้นกลางธรรมดา ๆ ระหว่างการโต้วาทีกับคู่แข่งมากประสบการณ์อย่างวุฒิสมาชิก โจเซฟ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต การประชันวิสัยทัศน์ครั้งแรกและครั้งเดียวสำหรับคู่ชิงรองประธานาธิบดีที่จัดขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (2) แพลินเอาตัวรอดมาได้ โดยไม่หลุดปากพูดเรื่องน่าอายขายขี้หน้าอย่างที่หลายคนคาด
ถึงกระนั้น แพลิน ซึ่งตราหน้าบารัค โอบามา ว่าเป็น "ตัวอันตราย" ระหว่างที่เธอโจมตีผู้ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต ก็ดูแทบไม่สามารถเปลี่ยนผลการแข่งขัน ซึ่งการสำรวจของหลายสำนักชี้ว่า จอห์น แมคเคน คู่ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันขิงเธอ กำลังจะพ่ายแพ้
ผู้ว่าการหญิงของมลรัฐอะแลสกาผู้นี้ สร้างความผิดหวังให้กับพวกที่ปรามาสว่า เธอจะต้องปล่อยไก่ ระหว่างการโต้วาทีในช่วงเวลายอดนิยมที่มีผู้ชมคอยดูอย่างเอาใจจดจ่อ ภายหลังเกิดกระแสเย้ยหยันต่าง ๆ นานาถึงความน่าเชื่อถือของเธอ ก่อนหน้าการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนศกนี้ (4)
"ดิฉันจะไม่ตอบคำถามอย่างที่พวกคุณอยากได้ยินหรอก แต่ดิฉันจะพูดอย่างตรงไปตรงมากับประชาชนชาวอเมริกา และทำให้พวกเขารู้ถึงภาพรวมผลงานของดิฉันด้วย" แพลิน ซึ่งได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ก่อนที่การแสดงความเห็นของเธอเองตลอดช่วงไม่กี่วันมานี้จะทำให้เธออยู่ในช่วงขาลงกล่าว
บ่อยครั้งที่มักจะหันหน้ามามองกล้อง แพลินประดังข้อคิดเห็นและคำตอบต่าง ๆ ที่เตรียมมาซึ่งมักจะไม่ตรงกับคำถามที่ผู้ดำเนินรายการถามเท่าใดนัก ทั้งยังใช้น้ำเสียงแบบประชานิยมเพื่อสร้างภาพให้เธอและแมคเคน เป็นตัวแทนของความเปลี่ยนแปลง หาใช่โอบามากับไบเดน
แพลินต้องเผชิญกับพายุการวิพากษ์วิจารณ์ที่ถามโถมเข้าใส่ จากการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนในช่วงหลัง ๆ ซึ่งเธอทำได้ไม่ดีเลย ตลอดจนการปฏิเสธที่จะแถลงข่าวอย่างเต็มรูปแบบ
ขณะที่ไบเดน ผู้ช่ำชองบนสังเวียนการเมืองด้วยประสบการณ์กว่า 35 ปี แจกแจงคำตอบด้านนโยบายอย่างละเอียดถี่ถ้วน โดยพยายามนำเสนอประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนานทั้งในด้านเศรษฐกิจ, การต่างประเทศ และความมั่นคงภายใน
ไบเดนโต้วาทีอย่างระมัดระวัง โดยไม่โจมตีแพลินและความน่าเชื่อถือของเธออย่างโผงผาง เขาแสดงออกถึงอาการวิตกกังวลจากการถูกตั้งฉายาว่า ดูถูกผู้หญิงหรืออันธพาล ขณะเดียวกันก็พยายามตราหน้าแมคเคนว่าเป็น สำเนาของประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช
ภายหลังการดีเบต ผลสำรวจหลายสำนักชี้ว่า ไบเดนมีชัยชนะเหนือแพลิน โดยโพลซีเอ็นเอ็นบอกว่า ไบเดนชนะด้วยคะแนน 51 ต่อ 36 เปอร์เซ็นต์ ส่วนผลสำรวจของซีบีเอสในหมู่ผู้ที่ยังไม่ตัดสินใจว่าจะลงคะแนนให้ใคร เทคะแนนให้ไบเดนชนะ 46 ต่อ 21 เปอร์เซ็นต์
ระหว่างการโต้วาที แพลินนำเสนอภาพของตนเองในฐานะคนชนชั้นกลางธรรมดาๆ ที่พาลูกไปเล่นฟุตบอล พร้อมกับแต่งแต้มตัวเองในฐานะนักปฏิรูประหว่างที่เธอดำรงตำแหน่งเทศมนตรีและผู้ว่าการมลรัฐ ตลอดจนเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงาน
เมื่อผู้ดำเนินรายการตั้งคำถามว่า พวกหากินกับสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์เป็นสาเหตุของวิกฤติซับไพรม์ใช่หรือไม่ แพลินตอบว่า “ถูกเผงเลย วิกฤติครั้งนี้เกิดจากพวกปล่อยกู้เงินอย่างหน้าเลือด”
ระหว่างการโต้วาทีเรื่องประเด็นเศรษฐกิจ แพลินเตือนว่า การที่เดโมแรคตยึดติดกับการกระจายความมั่นคั่งและใช้นโยบายขึ้นภาษี จะจำกัดการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ขณะที่ไบเดนแย้งว่า 8 ปีที่ผ่านมา นโยบายของรีพับลิกันสมควรถูกประณาม เนื่องจากก่อให้เกิดฝันร้ายทางเศรษฐกิจครั้งนี้
ขณะที่แพลินมีความแข็งแกร่งด้านนโยบายภายในประเทศ แต่ช่องว่างด้านประสบการณ์และความรู้ของผู้โต้วาทีทั้งสองคน ถูกเผยให้เห็น ขณะที่กล่าวถึงเรื่องความมั่นคงภายในประเทศและมรดกนโยบายการต่างประเทศจากรัฐบาลของประธานาธิบดีบุช
ในตอนหนึ่ง เธอเรียกชื่อผู้บัญชาการกองกำลังช่วยเหลือด้านความมั่นคงภายใต้การนำของนาโต้ที่ประจำอยู่ที่อัฟกานิสถานว่า "แมคเคลแลน" แทนที่จะเรียกชื่อจริงของเขาว่า พลเอกเดวิด แมคเคียร์แนน นอกจากนี้ คำตอบอื่น ๆ ของเธอยังคลุมเครือไม่ชัดเจนอีกต่างหาก
ถึงกระนั้น แพลิน ซึ่งตราหน้าบารัค โอบามา ว่าเป็น "ตัวอันตราย" ระหว่างที่เธอโจมตีผู้ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต ก็ดูแทบไม่สามารถเปลี่ยนผลการแข่งขัน ซึ่งการสำรวจของหลายสำนักชี้ว่า จอห์น แมคเคน คู่ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันขิงเธอ กำลังจะพ่ายแพ้
ผู้ว่าการหญิงของมลรัฐอะแลสกาผู้นี้ สร้างความผิดหวังให้กับพวกที่ปรามาสว่า เธอจะต้องปล่อยไก่ ระหว่างการโต้วาทีในช่วงเวลายอดนิยมที่มีผู้ชมคอยดูอย่างเอาใจจดจ่อ ภายหลังเกิดกระแสเย้ยหยันต่าง ๆ นานาถึงความน่าเชื่อถือของเธอ ก่อนหน้าการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนศกนี้ (4)
"ดิฉันจะไม่ตอบคำถามอย่างที่พวกคุณอยากได้ยินหรอก แต่ดิฉันจะพูดอย่างตรงไปตรงมากับประชาชนชาวอเมริกา และทำให้พวกเขารู้ถึงภาพรวมผลงานของดิฉันด้วย" แพลิน ซึ่งได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ก่อนที่การแสดงความเห็นของเธอเองตลอดช่วงไม่กี่วันมานี้จะทำให้เธออยู่ในช่วงขาลงกล่าว
บ่อยครั้งที่มักจะหันหน้ามามองกล้อง แพลินประดังข้อคิดเห็นและคำตอบต่าง ๆ ที่เตรียมมาซึ่งมักจะไม่ตรงกับคำถามที่ผู้ดำเนินรายการถามเท่าใดนัก ทั้งยังใช้น้ำเสียงแบบประชานิยมเพื่อสร้างภาพให้เธอและแมคเคน เป็นตัวแทนของความเปลี่ยนแปลง หาใช่โอบามากับไบเดน
แพลินต้องเผชิญกับพายุการวิพากษ์วิจารณ์ที่ถามโถมเข้าใส่ จากการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนในช่วงหลัง ๆ ซึ่งเธอทำได้ไม่ดีเลย ตลอดจนการปฏิเสธที่จะแถลงข่าวอย่างเต็มรูปแบบ
ขณะที่ไบเดน ผู้ช่ำชองบนสังเวียนการเมืองด้วยประสบการณ์กว่า 35 ปี แจกแจงคำตอบด้านนโยบายอย่างละเอียดถี่ถ้วน โดยพยายามนำเสนอประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนานทั้งในด้านเศรษฐกิจ, การต่างประเทศ และความมั่นคงภายใน
ไบเดนโต้วาทีอย่างระมัดระวัง โดยไม่โจมตีแพลินและความน่าเชื่อถือของเธออย่างโผงผาง เขาแสดงออกถึงอาการวิตกกังวลจากการถูกตั้งฉายาว่า ดูถูกผู้หญิงหรืออันธพาล ขณะเดียวกันก็พยายามตราหน้าแมคเคนว่าเป็น สำเนาของประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช
ภายหลังการดีเบต ผลสำรวจหลายสำนักชี้ว่า ไบเดนมีชัยชนะเหนือแพลิน โดยโพลซีเอ็นเอ็นบอกว่า ไบเดนชนะด้วยคะแนน 51 ต่อ 36 เปอร์เซ็นต์ ส่วนผลสำรวจของซีบีเอสในหมู่ผู้ที่ยังไม่ตัดสินใจว่าจะลงคะแนนให้ใคร เทคะแนนให้ไบเดนชนะ 46 ต่อ 21 เปอร์เซ็นต์
ระหว่างการโต้วาที แพลินนำเสนอภาพของตนเองในฐานะคนชนชั้นกลางธรรมดาๆ ที่พาลูกไปเล่นฟุตบอล พร้อมกับแต่งแต้มตัวเองในฐานะนักปฏิรูประหว่างที่เธอดำรงตำแหน่งเทศมนตรีและผู้ว่าการมลรัฐ ตลอดจนเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงาน
เมื่อผู้ดำเนินรายการตั้งคำถามว่า พวกหากินกับสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์เป็นสาเหตุของวิกฤติซับไพรม์ใช่หรือไม่ แพลินตอบว่า “ถูกเผงเลย วิกฤติครั้งนี้เกิดจากพวกปล่อยกู้เงินอย่างหน้าเลือด”
ระหว่างการโต้วาทีเรื่องประเด็นเศรษฐกิจ แพลินเตือนว่า การที่เดโมแรคตยึดติดกับการกระจายความมั่นคั่งและใช้นโยบายขึ้นภาษี จะจำกัดการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ขณะที่ไบเดนแย้งว่า 8 ปีที่ผ่านมา นโยบายของรีพับลิกันสมควรถูกประณาม เนื่องจากก่อให้เกิดฝันร้ายทางเศรษฐกิจครั้งนี้
ขณะที่แพลินมีความแข็งแกร่งด้านนโยบายภายในประเทศ แต่ช่องว่างด้านประสบการณ์และความรู้ของผู้โต้วาทีทั้งสองคน ถูกเผยให้เห็น ขณะที่กล่าวถึงเรื่องความมั่นคงภายในประเทศและมรดกนโยบายการต่างประเทศจากรัฐบาลของประธานาธิบดีบุช
ในตอนหนึ่ง เธอเรียกชื่อผู้บัญชาการกองกำลังช่วยเหลือด้านความมั่นคงภายใต้การนำของนาโต้ที่ประจำอยู่ที่อัฟกานิสถานว่า "แมคเคลแลน" แทนที่จะเรียกชื่อจริงของเขาว่า พลเอกเดวิด แมคเคียร์แนน นอกจากนี้ คำตอบอื่น ๆ ของเธอยังคลุมเครือไม่ชัดเจนอีกต่างหาก
