ผู้จัดการรายวัน – ซีพีเอ็นซุ่มเปิดตัว ศูนย์การค้าขนาดย่อม 50,000 ตารางเมตร หวังคลุมทุกเซ็กเม้นท์หลังจากมีแต่โครงการขนาดใหญ่ตลอด รับ “กฎหมาย-ไลฟ์สไตล์คน” เปลี่ยน พร้อมทุ่ม 400 ล้านบาท ยกเครื่องระบบปรับอากาศในศูนย์หวังลดพลังงาน
นางวัลยา จิราธิวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายบริหารพัฒนาธุรกิจและดูแลงานก่อสร้าง บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอ็น เปิดเผยว่า ซีพีเอ็นมีแผนที่จะขยายธุรกิจศูนย์การค้าในรูปแบบใหม่ๆที่มีขนาดย่อมลงกว่าเดิม คือ พื้นที่ประมาณ 50,000 ตารางเมตร ลงทุนประมาณ 1,000 ล้านบาท เพื่อให้ครอบคลุมทุกเซ็กเม้นท์ในฐานะผู้นำตลาดค้าปลีกไทย ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาและเตรียมการคาดว่าอีกประมาณ 2-3 เดือนจะสามารถสรุปได้
“เวลานี้ทุกอย่างเปลี่ยนไป ไม่ว่าจะเป็น พฤติกรรมผู้บริโภค ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต กฎหมายต่างๆที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งสภาพเศรษฐกิจที่เป็นอยู่ ส่งผลให้ซีพีเอ็นต้องขยายโอกาสร้างธุรกิจใหม่ ซึ่งที่ผ่านมาเราเน้นทำแต่โครงการขนาดใหญ่มีพื้นที่มากกว่า 200,000 ตารางเมตรเช่นที่ เซ็นทรัลเวิลด์ หรือขนาดกลางพื้นที่กว่า 100,000 ตารางเมตร เช่น สาขารามอินทรา แต่ครั้งนี้จะเป็นโครงการศูนย์การค้าขนาดย่อมลงมา ซึ่งเรายังไม่เคยทำ แต่โครงการขนาดใหญ่เรายังทำต่อเนื่อง”
สำหรับโครงการขนาดย่อมใหม่นี้รูปแบบจะเป็นแนวอาคารโลว์ไรซ์ มีพื้นที่สำหรับร้านค้า ส่วนแม่เหล็กนั้นจะเป็นบิสซิเนสยูนิตในเครือเซ็นทรัลทั้งหลาย และร้านอื่นๆนอกเครือ การลงทุนเป็นไปได้ทั้งลงทุนเอง ร่วมทุนและเทคโอเวอร์ ส่วนชื่อนั้นคาดว่าคงจะไม่ใช้ชื่อเซ็นทรัล
“การลงทุนในช่วงนี้ ซีพีเอ็นมองว่า เป็นจังวหะที่ดีแล้ว แม้ว่าการเมืองยังมีปัญหาวุ่นวายอยู่ ภาวะเศรษฐกิจทั้งไทยและของโลกที่มีปัญหา แต่เพราะเรามองระยะยาวแล้วทุกอย่างต้องผ่านไปได้ และเราต้องการลงทุนต่อเนื่อง โดยมั่นใจว่าตามแผนงานที่ประกาศไว้ว่าภายในปี 2553 จะมีสาขาที่บริหารทั้งหมด 18 สาขา ขณะนี้มี 10 สาขาที่เปิดบริการแล้ว”
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เป็นไปได้ว่าโครงการศูนย์การค้าขนาดย่อมของกลุ่มซีพีเอ็นนี้ อาจจะเปิดตัวโครงการแรกบริเวณถนนศรีนครินทร์ พื้นที่ประมาณ 8 ไร่ ซึ่งเป็นย่านที่ถือได้ว่ามีหมู่บ้านเกิดขึ้นจำนวนมาก และมีประชากรอาศัยอยู่จำนวนมาก มีกำลังซื้อสูง และมีการขยายตัวค่อนข้างเร็ว ล่าสุดกลุ่มสยามพิวรรธน์และเอ็มบีเคเซ็นเตอร์ก็ร่วมทุนกันเทคโอเวอร์ศูนย์การค้าเสรีเซ็นเตอร์เมื่อเดือนที่แล้ว กลุ่มเซ็นทรัลก็เพิ่งเปิดตัวคอมมูนิตี้มอลล์ย่านอุดมสุขไปเมื่อสองเดือนที่แล้ว เป็นต้น
นายวัลยากล่าวต่อว่า ซีพีเอ็นได้ลงทุน 400 ล้านบาท ในการนำนวัตกรรมระบบปรับอากาศขนาดใหญ่ที่มีประสิทธิภาพดีที่สุดจาก บริษัท เทรน (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านระบบปรับอากาศที่ช่วยในการประหยัดพลังงานเข้ามาใช้ในศูนย์การค้าเป็นรายแรก ทำให้ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สามารประหยัดพลังงานได้ถึง 16% เทียบได้กับการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศกว่า 40,000 ตันต่อปี ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการ ซีพีเอ็น กรีน เอ็กซ์พีเรียนซ์
ระบบใหม่ดังกล่าวจะนำมาใช้กับศูนย์การค้า 4 สาขาใหม่คือ เซ็นทรัลพลาซาแจ้งวัฒนะเปิดบริการ 27 พ.ย.นี้, เซ็นทรัลเฟสติวัลพัทยาบีช เซ็นทรัลพลาซาชลบุรี และเซ็นทรัลพลาซาขอนแก่น รวมทั้งเปลี่ยนทดแทนระบบเครื่องปรับอากาศขนาดใหญ่เดิมใน 6 ศูนย์ฯเดิม คือที่ ลาดพร้าว บางนา รามอินทรา รัตนาธิเบศร์ เชียงใหม่แอร์พอร์ตและเซ็นทรัลเวิลด์ ปลียนไปมผู้น์
นางวัลยา จิราธิวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายบริหารพัฒนาธุรกิจและดูแลงานก่อสร้าง บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอ็น เปิดเผยว่า ซีพีเอ็นมีแผนที่จะขยายธุรกิจศูนย์การค้าในรูปแบบใหม่ๆที่มีขนาดย่อมลงกว่าเดิม คือ พื้นที่ประมาณ 50,000 ตารางเมตร ลงทุนประมาณ 1,000 ล้านบาท เพื่อให้ครอบคลุมทุกเซ็กเม้นท์ในฐานะผู้นำตลาดค้าปลีกไทย ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาและเตรียมการคาดว่าอีกประมาณ 2-3 เดือนจะสามารถสรุปได้
“เวลานี้ทุกอย่างเปลี่ยนไป ไม่ว่าจะเป็น พฤติกรรมผู้บริโภค ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต กฎหมายต่างๆที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งสภาพเศรษฐกิจที่เป็นอยู่ ส่งผลให้ซีพีเอ็นต้องขยายโอกาสร้างธุรกิจใหม่ ซึ่งที่ผ่านมาเราเน้นทำแต่โครงการขนาดใหญ่มีพื้นที่มากกว่า 200,000 ตารางเมตรเช่นที่ เซ็นทรัลเวิลด์ หรือขนาดกลางพื้นที่กว่า 100,000 ตารางเมตร เช่น สาขารามอินทรา แต่ครั้งนี้จะเป็นโครงการศูนย์การค้าขนาดย่อมลงมา ซึ่งเรายังไม่เคยทำ แต่โครงการขนาดใหญ่เรายังทำต่อเนื่อง”
สำหรับโครงการขนาดย่อมใหม่นี้รูปแบบจะเป็นแนวอาคารโลว์ไรซ์ มีพื้นที่สำหรับร้านค้า ส่วนแม่เหล็กนั้นจะเป็นบิสซิเนสยูนิตในเครือเซ็นทรัลทั้งหลาย และร้านอื่นๆนอกเครือ การลงทุนเป็นไปได้ทั้งลงทุนเอง ร่วมทุนและเทคโอเวอร์ ส่วนชื่อนั้นคาดว่าคงจะไม่ใช้ชื่อเซ็นทรัล
“การลงทุนในช่วงนี้ ซีพีเอ็นมองว่า เป็นจังวหะที่ดีแล้ว แม้ว่าการเมืองยังมีปัญหาวุ่นวายอยู่ ภาวะเศรษฐกิจทั้งไทยและของโลกที่มีปัญหา แต่เพราะเรามองระยะยาวแล้วทุกอย่างต้องผ่านไปได้ และเราต้องการลงทุนต่อเนื่อง โดยมั่นใจว่าตามแผนงานที่ประกาศไว้ว่าภายในปี 2553 จะมีสาขาที่บริหารทั้งหมด 18 สาขา ขณะนี้มี 10 สาขาที่เปิดบริการแล้ว”
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เป็นไปได้ว่าโครงการศูนย์การค้าขนาดย่อมของกลุ่มซีพีเอ็นนี้ อาจจะเปิดตัวโครงการแรกบริเวณถนนศรีนครินทร์ พื้นที่ประมาณ 8 ไร่ ซึ่งเป็นย่านที่ถือได้ว่ามีหมู่บ้านเกิดขึ้นจำนวนมาก และมีประชากรอาศัยอยู่จำนวนมาก มีกำลังซื้อสูง และมีการขยายตัวค่อนข้างเร็ว ล่าสุดกลุ่มสยามพิวรรธน์และเอ็มบีเคเซ็นเตอร์ก็ร่วมทุนกันเทคโอเวอร์ศูนย์การค้าเสรีเซ็นเตอร์เมื่อเดือนที่แล้ว กลุ่มเซ็นทรัลก็เพิ่งเปิดตัวคอมมูนิตี้มอลล์ย่านอุดมสุขไปเมื่อสองเดือนที่แล้ว เป็นต้น
นายวัลยากล่าวต่อว่า ซีพีเอ็นได้ลงทุน 400 ล้านบาท ในการนำนวัตกรรมระบบปรับอากาศขนาดใหญ่ที่มีประสิทธิภาพดีที่สุดจาก บริษัท เทรน (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านระบบปรับอากาศที่ช่วยในการประหยัดพลังงานเข้ามาใช้ในศูนย์การค้าเป็นรายแรก ทำให้ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สามารประหยัดพลังงานได้ถึง 16% เทียบได้กับการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศกว่า 40,000 ตันต่อปี ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการ ซีพีเอ็น กรีน เอ็กซ์พีเรียนซ์
ระบบใหม่ดังกล่าวจะนำมาใช้กับศูนย์การค้า 4 สาขาใหม่คือ เซ็นทรัลพลาซาแจ้งวัฒนะเปิดบริการ 27 พ.ย.นี้, เซ็นทรัลเฟสติวัลพัทยาบีช เซ็นทรัลพลาซาชลบุรี และเซ็นทรัลพลาซาขอนแก่น รวมทั้งเปลี่ยนทดแทนระบบเครื่องปรับอากาศขนาดใหญ่เดิมใน 6 ศูนย์ฯเดิม คือที่ ลาดพร้าว บางนา รามอินทรา รัตนาธิเบศร์ เชียงใหม่แอร์พอร์ตและเซ็นทรัลเวิลด์ ปลียนไปมผู้น์
