xs
xsm
sm
md
lg

ประธานกลต.USชี้ถลำสู่วิกฤต เพราะไร้อำนาจคุมวาณิชธนกิจ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอเอฟพี - ประธานหน่วยงานกำกับดูแลตลาดหุ้นสหรัฐฯ โจมตีการไม่เข้มงวดกับพวกวาณิชธนกิจยักษ์ใหญ่ โดยเพียงแค่ใช้ระบบตรวจสอบแบบสมัครใจ ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมาคือใช้ไม่ได้ผล จนเป็นต้นเหตุของวิกฤตการเงินโลกในขณะนี้ พร้อมกับประกาศเตรียมยุติระบบดังกล่าวเร็วๆ นี้
คริสโตเฟอร์ ค็อกซ์ ประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (เอสอีซี หรือ กลต.ของสหรัฐฯ) แถลงเมื่อวันศุกร์(26)ว่า ช่วงหกเดือนที่ผ่านมาเป็นข้อพิสูจน์ชัดเจนว่ากลไกการควบคุมโดยสมัครใจไม่ได้ผล และว่ารัฐสภาได้ทำให้เกิดช่องว่างมโหฬารด้านกฎระเบียบ จากการล้มเหลวไม่ได้มอบอำนาจให้เอสอีซีหรือหน่วยงานอื่นของรัฐบาลเข้าควบคุมดูแลวาณิชธนกิจขนาดใหญ่ ซึ่งครอบครองสินทรัพย์เน่าเสียจากสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์มีปัญหาไว้จำนวนมาก
เนื่องจากไม่มีอำนาจตามกฎหมายที่จะสั่งการให้วาณิชธนกิจรายงานสภาวะเงินทุนและสภาพคล่อง เอสอีซีจึงต้องอาศัยกลไกการเปิดเผยข้อมูลตามความสมัครใจแทน
การวิพากษ์ของค็อกซ์ครั้งนี้มีขึ้นพร้อมกับที่คณะกรรมการตรวจสอบของเอสอีซีรายงานว่า พบความผิดพลาดของเอสอีซีในการตรวจสอบแบร์สเติร์นส์ ก่อนที่วาณิชธนกิจแห่งนี้จะล่มสลายในเดือนมีนาคมปีนี้
ค็อกซ์นั้นเห็นด้วยกับรายงานของคณะกรรมการตรวจสอบ และว่าการค้นพบดังกล่าวสะท้อนถึงปัญหาจากการขาดกฎหมายควบคุมวาณิชธนกิจ
การลงความเห็นของประธานเอสอีซีคราวนี้ มีขึ้นหลังจากวาณิชธนกิจใหญ่ห้าแห่งของวอลล์สตรีทปิดฉากหรือไม่ก็เปลี่ยนสถานะตัวเอง เมื่อเผชิญกับวิกฤตการเงินที่รุนแรงที่สุดของสหรัฐฯ นับจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งมโหฬารในทศวรรษ 1930
ทั้งนี้ แบร์สเติร์นส์ซึ่งฐานะย่ำแย่เต็มที่ได้ถูกกดดันจากรัฐบาลให้ควบรวมกับกับเจพีมอร์แกนเชส ล่าสุดเมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา เลห์แมนบราเธอร์ส ต้องขอเข้ารับการคุ้มครองจากศาลตามกฎหมายล้มละลาย และเมอร์ริลลินช์ถูกแบงก์ออฟอเมริกาเทกโอเวอร์ ขณะที่โกลด์แมน แซคส์ และมอร์แกน สแตนเลย์ กลายสถานะเป็นบริษัทโฮลดิ้งธนาคารที่อยู่ภายใต้กฎระเบียบเคร่งครัดขึ้น
ในสภาพเช่นนี้ อำนาจการควบคุมหลายส่วนของเอสอีซีจะถูกถ่ายโอนให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ กระนั้น คำแถลงของค็อกซ์ก็ระบุว่า เอสอีซีจะปรับโฟกัสมุ่งไปที่ธุรกิจโบรกเกอร์ของวาณิ
กำลังโหลดความคิดเห็น