ตลาดหุ้นสหรัฐฯ-ยุโรปฟื้นหลังรัฐบาลชาติต่างๆ ผนึกกำลังแก้วิกฤตการเงิน

เอเอฟพี - หุ้นวอลล์สตรีททะยานขึ้นอย่างแรงเมื่อวันจันทร์ (13) หลังรัฐบาลทั่วโลกผนึกกำลังในความพยายามสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนและบรรเทาวิกฤตการเงิน อัดฉีดเงินนับแสนล้านดอลลาร์ฯ ประกันเงินฝากและพยุงธนาคารที่ประสบปัญหา ขณะที่ราคาน้ำมันขยับขึ้นราว 2 ดอลลาร์

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดีดตัวสูงขึ้นมากกว่า 11 เปอร์เซ็นต์ โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวน์โจนส์ ปรับตัวสูงขึ้นถึง 936.42 จุด หรือ 11.08 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 9,387.61 จุด หยุดสถิติดิ่งลงต่อเนื่อง 8 วันติดต่อกัน และนับเป็นการขยับตัวภายในวันเดียวสูงสุดเป็นประวัติการณ์ รวมถึงเป็นเปอร์เซ็นต์ที่พุ่งขึ้นแรงที่สุดนับตั้งแต่ระหว่างวิกฤตทางเศรษฐกิจเมื่อปี 1933

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ดาวน์โจนส์ดิ่งลงต่อเนื่องกว่า 18 เปอร์เซ็นต์ ขณะทื่ตลาดทั่วโลกก็ตกต่ำท่ามกลางความกังวลต่อความยุ่งเหยิงทางการเงินที่ล้มจากการควบคุมและอาจชุดชนวนเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก

ตลาดแนสแด็กกระโดดขึ้นมา 194.74 จุด (11.81 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,844.25 จุด และเอสแอนด์พี 500 ปรับตัวสูงขึ้น 104.11 จุด ปิดที่ 1,003.35 จุด (11.58 เปอร์เซ็นต์) ซึ่งนักวิเคราะห์บอกว่าสำหรับหุ้นเอสแอนด์พี ถือว่าเป็นการดีดตัวแรงที่สุดในรอบ 69 ปี

ส่วนตลาดหุ้นสำคัญของยุโรป พุ่งทะยานขึ้นเฉลี่ยถึง 10 เปอร์เซ็นต์ หลังรัฐบาลประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) ประกาศรับประกันหนี้ธนาคาร รับประกันเงินฝาก และอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบธนาคารอย่างพร้อมเพรียง

ทางการอังกฤษอัดฉีดเงินราว 64,000 ล้านดอลลาร์ ช่วยเหลือธนาคารยักษ์ใหญ่ของประเทศ ส่วนเยอรมนีอัดฉีดเงิน 543,000 ล้านดอลลาร์เข้าสู่ระบบธนาคาร ฝรั่งเศสใช้เงิน 350,000 ล้านยูโร และสเปนทุ่มงบประมาณเกือบ 136,000 ล้านดอลลาร์

ตลาดหุ้นเอฟที-100 ของอังกฤษ ปิดที่ระดับ 4,256.90 จุด พุ่งขึ้น 324.84 จุด แด็กซ์ของเยอรมนี ปิดที่ 5,062.45 จุด เพิ่มขึ้น 518.14 จุด และ ซีเอซี-40 ของฝรั่งเศส บวกเพิ่ม 355.01 จุด ไปปิดที่ระดับ 3,531.50 จุด

ในวันจันทร์ (13) มีรายงานว่า กระทรวงการคลังสหรัฐฯ เตรียมเข้าซื้อหนี้เสียและหุ้นบางส่วนของธนาคารและสถาบันการเงินหลายแห่งแล้ว ทำให้นักลงทุนเพิ่มความเชื่อมั่นมากขึ้น หลังประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ประกาศจะเร่งดำเนินการเพื่อให้กฎหมายกอบกู้วิกฤตการเงิน มูลค่า 700,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เดินหน้าให้รวดเร็วยิ่งขึ้นด้วย

ขณะที่ราคาน้ำมันขยับตัวขึ้นเมื่อวันจันทร์ (13) หลังจากผู้นำชาติต่างๆ ของโลก ประกาศร่วมมือกันจัดการกับวิกฤตทางการเงินของโลก สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ปรับตัวสูงขึ้น 3.49 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ปิดที่ 81.19 ดอลลาร์ ส่วนน้ำมันดิบเบรนต์ทะเลเหนือของลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ขยับขึ้น 3.37 ดอลลาร์ ปิดที่ 77.46 ต่อบาร์เรล