นายมาซาโนบุ ไซโต้ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ไทยซูซูกิมอเตอร์ เปิดเผยว่า ผลกระทบจากน้ำท่วมทำให้ตลาดรถจักรยานยนต์ตลอดทั้งปีนี้ ที่เคยประเมินไว้เมื่อต้นปี 1.75 ล้านคัน จำเป็นต้องปรับลดเป้าหมายการจำหน่ายลงอีก 5 หมื่นคัน เหลือเพียง 1.7 ล้านคัน
“ในส่วนของซูซูกิมียอดขายเติบโตน่าพอใจ จากความสำเร็จที่เข้ามาดูแลการขายและจำหน่ายเอง ทำให้ยอดขายเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ที่เพิ่งเริ่มปรับระบบมีอัตราการขยายตัวมาก รวมถึงการเปิดตัวรถรุ่นใหม่สู่ตลาด ซึ่งล่าสุดได้แนะนำรถจักรยานยนต์เกียร์ออโตเมติกรุ่นใหม่ ซูซูกิ สกายไดร์ฟ 25 ซีซี เครื่องยนต์ระบบหัวฉีดรุ่นแรกของซูซูกิสู่ตลาด จึงเชื่อว่าปีนี้ซูซูกิจะรักษาเป้าหมายการขาย 1 แสนคันไว้ได้ หรือเติบโตจากปีที่แล้ว 20%”
ส่วนผลกระทบจากการชะลอทางเศรษฐกิจ และสถานการณ์ความขัดแย้งกันทางการเมืองนั้น ไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อตลาดมากนัก เพราะจักรยานยนต์เป็นปัจจัยที่จำเป็นในการใช้งาน ขณะที่เรื่องราคาน้ำมันปรับตัวสูงมาก ได้ส่งผลให้ผู้บริโภคหันกลับมาเลือกใช้รถจักรยานยนต์แบบครอบครัว ที่ให้อัตราการสิ้นเปลืองที่น้อยกว่า มีความทนทานและค่าบำรุงรักษาต่ำ ทำให้ตลาดรถแบบครอบครัวจะยังคงครองส่วนแบ่งการตลาดมากกว่าในปีนี้ โดยของซูซูกิเองมียอดจำหน่ายจากรถครอบครัว 60% และรถเกียร์ออโตเมติกประมาณ 40%
นายไซโต้กล่าวว่า สำหรับรถจักรยานยนต์ใหม่รุ่นสกายไดร์ฟ เกียร์ออโตเมติก 125 ซีซี. เป็นเครื่องยนต์ระบบหัวฉีดรุ่นแรกของซูซูกิในไทย ที่มีจุดเด่นทั้งเรื่องการประหยัดพลังงาน และปล่อยมลพิษต่ำ แต่ยังคงให้สมรรถนะที่แรงกว่า เปิดขายเป็นทางการในเดือนตุลาคมนี้ โดย สกายไดร์ฟจะเป็นสินค้ารุ่นแรก ที่สะท้อนแนวคิดใหม่ Way of Life ของบริษัทอย่างแท้จริง ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น โดยได้เตรียมงบประมาณไว้กว่า 300 ล้านบาท ในการทำการตลาดและจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง ตลอดระยะเวลา 1 ปีหลังจากนี้ ตั้งเป้าหมายการจำหน่ายไว้ที่เดือนประมาณละ 5,000 คัน
“ในส่วนของซูซูกิมียอดขายเติบโตน่าพอใจ จากความสำเร็จที่เข้ามาดูแลการขายและจำหน่ายเอง ทำให้ยอดขายเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ที่เพิ่งเริ่มปรับระบบมีอัตราการขยายตัวมาก รวมถึงการเปิดตัวรถรุ่นใหม่สู่ตลาด ซึ่งล่าสุดได้แนะนำรถจักรยานยนต์เกียร์ออโตเมติกรุ่นใหม่ ซูซูกิ สกายไดร์ฟ 25 ซีซี เครื่องยนต์ระบบหัวฉีดรุ่นแรกของซูซูกิสู่ตลาด จึงเชื่อว่าปีนี้ซูซูกิจะรักษาเป้าหมายการขาย 1 แสนคันไว้ได้ หรือเติบโตจากปีที่แล้ว 20%”
ส่วนผลกระทบจากการชะลอทางเศรษฐกิจ และสถานการณ์ความขัดแย้งกันทางการเมืองนั้น ไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อตลาดมากนัก เพราะจักรยานยนต์เป็นปัจจัยที่จำเป็นในการใช้งาน ขณะที่เรื่องราคาน้ำมันปรับตัวสูงมาก ได้ส่งผลให้ผู้บริโภคหันกลับมาเลือกใช้รถจักรยานยนต์แบบครอบครัว ที่ให้อัตราการสิ้นเปลืองที่น้อยกว่า มีความทนทานและค่าบำรุงรักษาต่ำ ทำให้ตลาดรถแบบครอบครัวจะยังคงครองส่วนแบ่งการตลาดมากกว่าในปีนี้ โดยของซูซูกิเองมียอดจำหน่ายจากรถครอบครัว 60% และรถเกียร์ออโตเมติกประมาณ 40%
นายไซโต้กล่าวว่า สำหรับรถจักรยานยนต์ใหม่รุ่นสกายไดร์ฟ เกียร์ออโตเมติก 125 ซีซี. เป็นเครื่องยนต์ระบบหัวฉีดรุ่นแรกของซูซูกิในไทย ที่มีจุดเด่นทั้งเรื่องการประหยัดพลังงาน และปล่อยมลพิษต่ำ แต่ยังคงให้สมรรถนะที่แรงกว่า เปิดขายเป็นทางการในเดือนตุลาคมนี้ โดย สกายไดร์ฟจะเป็นสินค้ารุ่นแรก ที่สะท้อนแนวคิดใหม่ Way of Life ของบริษัทอย่างแท้จริง ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น โดยได้เตรียมงบประมาณไว้กว่า 300 ล้านบาท ในการทำการตลาดและจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง ตลอดระยะเวลา 1 ปีหลังจากนี้ ตั้งเป้าหมายการจำหน่ายไว้ที่เดือนประมาณละ 5,000 คัน